"หวยเกษียณ" เปิดช่องคนไทยอายุ 15 ปีขึ้นไป ซื้อได้
คนไทยเฮ! “หวยเกษียณ” ซื้อได้ทุกกลุ่ม กรอบอายุ 15 ปีขึ้นไป เพิ่มหลักเกณฑ์ผู้สูงอายุ 60+ ออมได้แต่มีเงื่อนไข 5 ปี "คลัง" คาด เข้าสภาสิ้นเดือนนี้
วันนี้ (13 มี.ค. 68) นายเผ่าภูมิ โรจนสกุล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง แถลงข่าวความคืบหน้าโครงการหวยเกษียณ ผ่านการแก้ไข พ.ร.บ. กองทุนการออมแห่งชาติ ว่า ปัจจุบันร่างแก้ไข พ.ร.บ. กองทุนการออมแห่งชาติ หรือหวยเกษียณ เห็นชอบโดยคณะรัฐมนตรีแล้ว สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจร่างเสร็จเรียบร้อยแล้วเช่นกันโดยร่างแก้ไข พ.ร.บ.
ล่าสุด ที่ผ่านการพิจารณาสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา ร่วมกับกระทรวงการคลังและกองทุนการออมแห่งชาติ หรือ กอช. มีรายละเอียดและแนวทางการดำเนินการ ดังนี้

1.กอช. ออกสลากขูดแบบดิจิทัล ใบละ 50 บาท เพื่อขายให้กับประชาชนทุกคนที่มีสัญชาติไทย และมีอายุ 15 ปี ขึ้นไปและซื้อได้ไม่เกิน 3,000 บาท ต่อเดือน
2. สามารถซื้อสลากได้ทุกวัน แต่ออกรางวัลทุกวันศุกร์เวลา 17.00 น. ผู้ถูกรางวัลจะได้เงินรางวัลทันทีผ่านพร้อมเพย์โดยที่เงินค่าซื้อสลากทั้งหมดถูกเก็บเป็นเงินออม แม้ว่าจะถูกรางวัลหรือไม่ก็ตาม
3. รางวัลจะออก “ทุกวันศุกร์” โดยรางวัลจะแบ่งเป็น
- รางวัลที่ 1 1,000,000 บาท จำนวน 5 รางวัล
- รางวัลที่ 2 จำนวน 1,000 บาท จำนวน 10,000 รางวัล
และจะเพิ่มรางวัลพิเศษ หรือ แจ็คพอต 1 รางวัล ถ้าหากในงวดใดที่รางวัลออกไม่หมด รางวัลที่ออกไม่หมดนั้นจะถูกทบยอดเป็นรางวัลแจ็คพอตในงวดถัดไปทั้งหมดทันที
4. เงินค่าซื้อสลากทั้งหมดจะเป็นเงินออมของผู้ซื้อสลาก ซึ่งจะนำเงินส่งเข้าบัญชีเงินออมรายบุคคลกับ กอช. และเมื่อผู้ออมอายุครบ 60 ปี จะคืนเงินทั้งหมดทุกบาท ทุกสตางค์ที่ซื้อสลากมาทั้งชีวิตบวกกับผลตอบแทนการลงทุนให้กับผู้ออม
5. ขยายสิทธิ์การซื้อ สลาก กอช. ให้แก่ประชาชนที่มีอายุเกิน 60 ปี ด้วย แต่ต้องออมไว้ 5 ปี หลังจากวันที่ซื้อครั้งแรกและสามารถซื้อได้ไม่จำกัดรอบ แต่ทุกรอบต้องออมไว้ 5 ปี เช่น ซื้อตอนอายุ 63 ปี เงินที่ซื้อทั้งหมดจะได้รับคืนตอนอายุ 68 ปี และซื้อต่อตอนอายุ 70 ปี ก็จะได้เงินที่ซื้อทั้งหมดคืนเมื่ออายุ 75 ปี
โดยเบื้องต้น กระทรวงการคลังเตรียมเสนอหวยเกษียณเข้าสู่สภา ในวาระที่ 1 เพื่อให้กรรมาธิการฯ พิจารณาในช่วงเดือนมีนาคมนี้ โดยนายเผ่าภูมิย้ำว่า จะเร่งดำเนินการให้เร็วที่สุด และคาดว่าหวยเกษียณจะใช้งบประมาณราว 760 ล้านบาทต่อปี ซึ่งถือเป็นการใช้งบประมาณที่น้อยมาก เพื่อสร้างแรงจูงใจ สนับสนุนให้คนไทย หันมาออมเงินกันมากขึ้น และคาดว่าจะเกิดการออมในระบบ กอช. ได้ถึง 13,000 ล้านบาทต่อปี