14.00 น. ณ โรงพยาบาลรามาธิบดี 25 พ.ย.58 คณะแพทย์รามาฯ เปิดเผยว่า ปอ ทฤษฎี เป็นไข้เลือดออกขั้น 2 อาการแทรกซ้อนในหลายอวัยวะ ผ่าตัดรวม4ครั้ง :ช่องอกซ้าย-ตัดข้อเท้าซ้าย-ผ่าช่องอก-ผ่าหยุดเลือดลำไส้ ซึ่งยังมีอาการแทรกซ้อนรุนแรงที่ต้องเฝ้าระวัง 1.ไตวายเฉียบพลัน 2. เท้าขวาขาดเลือดเฉียบพลัน 3.ช่องปอดด้านซ้าย
โดยอาการของ ปอ ทฤษฏี ที่เป็นไข้เลือดออกแล้วมีอาการหนัก เป็นเพราะเกิดภาวะแทรกซ้อนหลายอย่างขึ้นพร้อมๆกัน ทั้งภูมิคุ้มกัน มีเลือดออกที่ช่องอก ทำให้ระบบหายใจ หัวใจล้มเหลวลงทั้งหมด ทำให้ต้องใช้เครื่องพยุงปอดและหัวใจ เพื่อให้เรามีเวลาซ่อมแซมทีละระบบ ไล่ผ่าตัดไปทีละเรื่อง ก็เอาชนะได้หลายเรื่องที่แก้ไปแล้ว แต่ยังมีอีกหลายเรื่องที่ต้องแก้ปัญหา ต้องเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด
โดยที่ผ่านมา ปอ ทฤษฏี มีการผ่าตัดปอด 2 ครั้ง และที่ข้อเท้าซ้าย 1 ครั้ง โดยการผ่าตัดปอด 2 ครั้ง เพราะมีปัญหาเลือดออกที่ปอดที่เกิดขึ้นเอง ทำให้ลามไปที่หัวใจ ทำให้เกิดภาวะล้มเหลวเฉียบพลัน โดยต้องเข้าไปหยุดภาวะเลือดออก
ทั้งนี้อาการหนักสุดของปอ ทฤษฏีในช่วงที่ผ่านมา คือเลือดออกจนกดหัวใจและปอดจนทำงานไม่ได้ แม้ใช้เครื่องช่วย ดูแล้วคนไข้อาจจะเสียชีวิตได้ จึงจำเป็นต้องผ่าตัด ครั้งแรกร่างกายยังไม่พร้อมมากนักก็ผ่าตัดไปก่อน แล้วผ่าตัดแก้ปัญหาให้สมบูรณ์ในครั้งที่ 2 อีกที โดยเลือดที่ผ่าตัดเอาออกมาจากปอดนั้นมีมากกว่า 10 ลิตร
"ทุกๆครั้งที่ตัดสินใจผ่าตัด หนักใจมากเพราะมีความเสี่ยงสูง แต่เป็นความโชคดีของคนไข้ ขอบคุณประชาชนทุกคนที่มาบริจาคเลือด เกร็ดเลือดให้ ทำให้ช่วยเหลือผ่านวิกฤตได้" คณะแพทย์รามาฯ กล่าว
ซึ่งล่าสุดปอดดีขึ้นมาก ลดภาวะเลือดออกได้แล้ว ลดยาคลายกล้ามเนื้อ แล้วตอนนี้ก็คือต้องให้คนไข้พยายามหายใจได้เองให้ได้
ส่วนขาข้างขวา มีเลือดไหลเวียนน้อยลง แผลที่ผ่าตัดด้านซ้ายยังทำแผลเป็นระยะ ไม่มีติดเชื้อแทรกซ้อน ส่วนเท้าขวามีการตายของผิวหนังที่ปลายนิ้วบางส่วน เฝ้าดูอยู่ อาการคงที่ มีเครื่องมือฟังสัญญาณหลอดเลือดที่เท้าขวายังมาได้ดีตลอด ดังนั้นภาพรวมคนไข้ อยู่กับหลอดเลือดหัวใจด้วย ถ้าหลอดเลือดหัวใจดีก็เป็นสัญญาณดีที่จะส่งเลือดมาที่ปลายเท้า ส่วนที่บอกว่าจะผ่าตัดขาขวาอีกข้าง ไม่เป็นความจริง แต่ทั้งนี้สำหรับเรื่องขา ต้องทำให้หัวใจมีแรงดันเลือดให้ไปเลี้ยงถึงปลายเท้าได้ดี ถ้าทุกอย่างคงตัว เท้าจะอยู่ได้ ตอนนี้ยังอยู่ในทางสองแพร่งแต่เชื่อว่าจะไปในทางที่ดี
"ต้องขอชื่นชมคนไข้ที่เข้มแข็งจนผ่านมาได้ระดับนี้ เพราะดั้งเดิมเป็นคนไข้ที่แข็งแรงมาก ทั้งๆที่คนไข้ผ่านภาวะวิกฤตมาเยอะมาก และมีภาวะแทรกซ้อนเยอะมาก ทั้งนี้ขณะนี้ยังไม่พบเรื่องของการติดเชื้อซ้ำซ้อน การควบคุมการติดเชื้อทำได้ดี" คณะแพทย์รามาฯ กล่าว
คณะแพทย์รามาฯ กล่าวต่อว่า ตอนนี้ที่ติดตามอยู่คือไต ในขณะนี้ยังต้องใช้เครื่องฟอกไตช่วยเหลือต่อเนื่อง เพราะอยากมั่นใจว่าระบบในร่างกาย ภาพรวม สัญญาณชีพดีขึ้น ต้องดูอย่างใกล้ชิดต่อเนื่อง สาเหตุเรื่องไตวาย มีหลายปัจจัย มีภาวะความดันโลหิตต่ำอยู่เป็นระยะเวลานาน รวมทั้งยา และการรักษาบางอย่างมีผลกระทบต่อไต แต่ตอนนี้จะลดการช่วยเหลือเรื่องไตลง เพื่อดูว่าไตจะฟื้นกลับมาได้หรือไม่ โดยสัญญาณที่คณะแพทย์จะคอยดูคือ คนไข้จะปัสสาวะเองได้เมื่อไร ไม่ว่าจะเป็นการใช้ยาขับปัสสาวะหรือไม่ ถือเป็นสัญญาณที่ดีทั้งสิ้น
สำหรับการทำงานของสมอง วันนี้ (25 พ.ย.58) ม่านตาของผู้ป่วยมีการตอบสนองดี ส่วนหนึ่งลดยานอนหลับ ลดยาคลายกล้ามเนื้อลง แต่ยังประเมินการทำงานสมองไม่ได้เต็มที่ ถ้าปล่อยให้คนไข้ตื่นตอนนี้ทรมานมาก สมองส่วนหนึ่งยังทำงานได้ แต่ยังคงตอบไม่ได้ว่าสมบูรณ์ได้แค่ไหน ต้องรอให้อาการดีขึ้นกว่านี้ก่อน
"ไม่มีใครตอบเป็นเปอร์เซ็นต์ได้ว่าดีขึ้นเท่าไร แต่ภาพรวมคือต้องยอมรับว่าดีขึ้นกว่าสัปดาห์ที่แล้วมาก และยังมีอีกหลายปัญหาที่ยังต้องเฝ้าระวัง แต่ตอนนี้แพทย์ทุกคนมีกำลังใจ" คณะแพทย์กล่าว
ทั้งนี้แนวโน้มออกจากห้อง CCU ถึงแม้จะหยุดยากระตุ้นหัวใจได้แล้ว แต่ยังต้องเฝ้าระวังต่อไป รวมถึงภาวะไตวายจะถอยเรื่องของการล้างไตได้มากน้อยแค่ไหน ซึ่งในช่วงนี้ต้องอยู่ใน CCU ก่อน โดยในการดูแลในห้อง CCU ได้ระดมทีมพยาบาลเข้ามาช่วยดูแล 3-4 คน ดูแลต่อ 1 เวร เนื่องจากอาการหนักมากกว่าคนไข้คนอื่น ภาพรวมคนไข้เช้าวันนี้ ค่อนข้างดีขึ้น ดูแล้วสบายใจ แต่ต้องติดตามอย่างใกล้ชิด มีแผลกดทับนิดหน่อย ไม่ใช่ปัญหา
อนึ่งทางโรงพยาบาลขอขอบคุณผู้มาเยี่ยม และสื่อมวลชนให้ความร่วมมือได้ดี แต่ต้องยอมรับว่ารพ.เราดูแลผู้ป่วยนอกอย่างน้อยวันละ 5,000 คน สิ่งต่างๆ ไม่พอเพียง ทั้งลิฟท์ ทั้งห้องน้ำ ต้องขออภัย ทั้งนี้ในโรงพยาบาลเชื้อโรคมีอยู่แล้ว ถ้าไม่จำเป็น ไม่อยากให้เข้ามาอยู่ในโรงพยาบาล โดยเฉพาะ เด็ก และผู้สูงอายุ
ขณะที่คุณพ่อสงวน สหวงษ์ กล่าวว่า ในส่วนของตนและครอบครัว อยากเรียนเบื้องต้นว่า ขอกราบขอบพระคุณทาง รพ.รามาธิบดี ตั้งแต่ย้ายเข้ามาได้รับการดูแล ให้ความสะดวกเป็นอย่างดี การติดต่อ การให้ที่พักสำหรับญาติ และผู้ปกครอง ในการรักษานั้น ตนคิดว่าตลอดเวลาที่ได้นั่งฟัง ทีมแพทย์ พยาบาล เภสัช ท่านได้มาช่วยทุกฝ่าย ระดมกันมาช่วย
"เป็นบุญของลูกปอที่ได้รับการรักษาจากทุกฝ่าย ยังได้รับการรักษาในระดับอาจารย์ที่มีความเชี่ยวชาญ แม้แต่พยาบาลก็เชี่ยวชาญ จากกระบวนการรักษา ผมคิดว่าเต็มที่ที่สุด ดีที่สุด เป็นบุญของคุณปอ นอกจากความเชี่ยวชาญของคุณหมอแล้ว คุณปอยังได้รับความเมตตา กรุณา ของทุกท่านด้วย รวมทั้งยา และเครื่องมือที่ดีที่สุด ที่ทำให้คุณปอมาถึงวันนี้ ครอบครัวของผม ผมยังมีความหวัง จนกระทั่งมาถึงวันนี้จากที่คณะแพทย์พูด ผมก็มีความหวัง ปาฎิหาร์ยจะเกิด รามามีพระคุณกับครอบครัวผมมากครับ" คุณพ่อสงวน สหวงษ์ กล่าว
