คุ้มหรือไม่ !?! จ่ายเพิ่ม 1.5 หมื่นบาท ได้ 2 อุปกรณ์ใหม่ใน Suzuki XL7
ซูซูกิ ปรับราคาขายของ Suzuki XL7 เพื่อสะท้อนต้นทุนที่ปรับขึ้นจริงจากผลกระทบที่เกิดขึ้นทั่วโลก พร้อมใส่อุปกรณ์ 2 อย่างเพิ่มเพิ่มมูลค่าในครั้งนี้
ซูซูกิ เอ็กซ์แอล 7 (Suzuki XL7) เป็นรถยนต์อเนกประสงค์ (MPV) นาด 3 แถว 7 ที่นั่ง ที่ก่อนหน้านี้มีราคาค่าตัวที่เป็นมิตรมากที่สุดในตลาดกับราคาที่ไม่ถึง 8 แสนบาท กับความคุ้มค่าที่ได้ค่อนข้างมีความสมเหตุสมผลกับคนที่จะตัดสินใจซื้อรถยนต์ในกลุ่มนี้
ซูซูกิ เปิดตัว Suzuki XL7 เพิ่ม 2 อุปกรณ์ใหม่ราคาเริ่ม 8.14 แสนบาท
เทียบสเปค 3 รถยนต์อเนกประสงค์ (เอ็มพีวี) 7 ที่นั่ง ปี 2022
แต่เมื่อมีคู่แค่งในตลาดเปิดตัวเข้ามาใหม่ถึง 2 ราย อย่าง โตโยต้า เวลอซ (Toyota Veloz) และ การปรับโฉมใหม่ของ มิตซูบิชิ เอ็กซ์แพนเดอร์ (Mitsubishi Xpander) ทำให้ ซูซูกิ เอ็กซ์แอล 7 (Suzuki XL7) ก็ร้อน ๆ หนาว ๆ อยู่บ้างในช่วงที่ผ่านมา
หนำซ้ำทุกค่ายทั่วโลกยังต้องเจอสภาวะการขาดแคลนชิ้นส่วนการผลิรถยนต์ที่สำคัญทั้ง เซมิคอนดักเตอร์ และ สายไฟต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นจากปัญหาการสู้รบในรัสเซีย-ยูเครน ต่อเนื่องมาถึงอัตราเงินเฟ้อ และต้นทุนพลังงานที่สูงขึ้น ส่งผลต่อต้นทุนการผลิตต่าง ๆ ทั่วทั้งโลก
PPTV Online มีโอกาสได้สัมภาษณ์กับ ‘วัลลภ ตรีฤกษ์งาม’ รองประธานกรรมการบริหาร บริษัท ซูซูกิ มอเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด ถึงการเปิดตัว ซูซูกิ เอ็กซ์แอล 7 (Suzuki XL7) รุ่นปรับปรุงใหม่ ที่เปิดตัวไปเมื่อช่วงปลายเดือน ก.ค. ที่ผ่านมา กับการเพิ่มเติมอุปกรณ์ 2 อย่างคือ
- แท่นชาร์จโทรศัพท์แบบไร้สาย (Wireless Charger)
- กล้องบันทึกภาพด้านหน้ารถ (Digital VDO Recorder)
พร้อมกันนี้ ยังมีการปรับเพิ่มขึ้นราคาราว 1.5 หมื่นบาท จากเดิมก่อนหน้าราคาอยู่ที่ 7.99 แสนบาท เพิ่มขึ้นเป็น 8.14 แสนบาท
“ก่อนหน้านี้เรามีการตั้งราคาเพื่อให้ลูกค้าสามารถเข้าถึงรถยนต์ในกลุ่มอเนกประสงค์ (MPV) ได้ง่าย ซึ่งยอมรับว่าต้นทุนการผลิตที่สูงขึ้นทั่วโลกมีผลต่อการปรับราคาให้เป็นไปตามกลไกตลาด” วัลลภ กล่าวทั้งนี้ การปรับราคาเพื่อสะท้อนต้นทุนที่แท้จริงของผู้ผลิตถือเป็นสิ่งที่ ในฐานะผู้ประกอบการมีความลำบากใจที่ต้องดำเนินการ แต่การตั้งราคาจำหน่ายของ ซูซูกิ มุ่งเน้นให้ผู้บริโภคสามารถได้รับผลิตภัณฑ์คุณภาพที่เหมาะสมกับราคา
หลังจากที่ได้พูดคุยกับ รองประธานกรรมการบริหาร แล้ว ซูซูกิ มอเตอร์ (ประเทศไทย) ได้มีการจัดการทดสอบรถยนต์ Suzuki XL7 รุ่นปรับปรุงใหม่ บนเส้นทางในจังหวัดเชียงราย ซึ่งเต็มไปด้วยความท้าทายในการเดินทางกับสภาพเส้นทางที่คนเคี้ยวและมีความสูงชันสลับขึ้น-ลงเขา ตลอดเวลา เพื่อพิสูจน์สมรรถนะการขับขี่ของรถยนต์เอ็มพีวีคันนี้อีกครั้ง
PPTV Online เคยมีโอกาสได้สัมผัสผลิตภัณฑ์ในกลุ่มรถยนต์อเนกประสงค์เอ็มพีวีนี้ในทุกรุ่นทั้งในด้านของคู่แข่งโดยตรงของ Suzuki XL7 ซึ่งคอมเมนท์ตรง ๆ เลยก็คือ Suzuki XL7 ในเวลานี้เมื่อเปรียบเทียบกับคู่แข่งในตลาดอาจจะมีความเสียเปรียบทางด้าน เทคโนโลยี เพราะคู่แข่งทั้งหลาย ปรับเปลี่ยนจุดหลัก ๆ ไปแทบจะหมดแล้ว เช่น คู่แข่งมีเกียร์ CVT และ ระบบความปลอดภัยและช่วยเหลือการขับขี่พื้นฐาน ที่มากกว่า
แต่ประเด็นสำคัญที่ทำให้ Suzuki XL7 ยืนหยัดในตลาดนี้ได้อยู่มี 3 ประเด็นในมุมมองของผู้เขียนคือ 1.ความทนทาน 2.น้ำหนักของตัวรถที่เบา และ 3.อัตราสิ้นเปลืองน้ำมันที่พอสู้ได้
พอได้ลองสมรรถนะของเจ้า Suzuki XL7 คันนี้ในเส้นทางนี้แล้วยิ่งเป็นสิ่งยืนยันอีกอย่างหนึ่งเลยว่า แพลตฟอร์มโครงสร้างตัวถังแบบ HEARTECT เทคโนโลยีเอกสิทธิ์เฉพาะของ ซูซูกิ ที่มีความแข็งแกร่งและน้ำหนักเบา ช่วยให้การเข้าโค้งและการขับขี่เป็นไปอย่างสนุกสนานแม้ว่าตัวเองจะเป็นรถเอ็มพีวี 7 ที่นั่งก็ตาม (ภายใต้เงื่อนไขการขับขี่ที่ครั้งนี้มีผู้โดยสาร 2 คนในรถและมีสัมภาระสำหรับการเดินทางเป็นกระเป๋า 2 ใบ) อัตราการตอบสนองดีงามพอประมาณไม่หวือหวาอะไรมากแต่อยู่ในเกณฑ์ที่พอใจเมื่อได้เรียนรู้บุคลิกการขับขี่
เครื่องยนต์ K15B ขนาด 1.5 ลิตร มอบกำลังสูงสุดถึง 105 แรงม้า ที่ 6,000 รอบต่อนาที แรงบิดที่ 138 นิวตันเมตรที่ 4,400 รอบต่อนาที พร้อมเกียร์อัตโนมัติ 4 สปีด ระบบความปลอดภัยมาพร้อมกับระบบถุงลมนิรภัย SRS คู่หน้า ระบบเบรก ABS ช่วยป้องกันล้อล็อกขณะเบรกกระทันหัน พร้อมระบบ EBD ช่วยกระจายแรงเบรกได้อย่างสมดุล เสริมด้วยระบบควบคุมเสถียรภาพในการทรงตัว ESP ระบบช่วยการออกตัวขณะอยู่บนทางลาดชัน (Hill Hold Control) กล้องมองภาพพร้อมเซ็นเซอร์ที่กะระยะในขณะถอยหลัง และ ความสูงใต้ท้องรถ 200 มม.
Suzuki XL7 ยังคงการออกแบบด้วยดีไซน์ภายนอกที่ผสานแนวทางสปอร์ตเข้มดุดันด้วยกระจังหน้าดีไซน์สปอร์ตสีดำผสมโครเมียม ไฟหน้า LED สามารถปรับระดับองศาของไฟต่ำได้ มาพร้อม Daytime Running Light และไฟตัดหมอกหน้า ตกแต่งใต้กันชนด้วยวัสดุสีเงินรอบคัน มาพร้อมไฟท้าย LED และไฟเบรกแนวตั้ง ซุ้มล้อสีดำ พร้อมล้ออะลูมิเนียมอัลลอยแบบทูโทนขนาด 16 นิ้ว รวมถึงราวหลังคา
ดีไซน์ภายในบริเวณคอนโซลด้านหน้าสไตล์สปอร์ต ตกแต่งวัสดุด้วยลาย Carbon Fiber พร้อมคิ้วโครเมียม มาตรวัดพร้อมจอ LCD แสดงผลแจ้งสถานะข้อมูลสำคัญของตัวรถ เช่น Driving G-Force อัตราสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิง อัตราแรงบิด กำลังของเครื่องยนต์ และข้อมูลอื่นๆ
ส่วนอุปกรณ์ที่เพิ่มเข้ามา 2 อย่าง คือ แท่นชาร์จโทรศัพท์แบบไร้สาย (Wireless Charger) ลองดูแล้วก็ใช้งานได้ดีปกติแต่ถ้าให้มองจากความน่าจะเป็นแล้ว ซูซูกิ ได้มีการติดตั้งอุปกรณ์นี้ทดแทนที่วางของเดิมก่อนหน้าเท่านั้นและเชื่อมต่ระบบไฟเข้าสู่อุปกรณ์ดังกล่าว ซึ่งอาจจะไม่ได้เนี๊ยบเป๊ะเท่ากับรุ่นที่มีการพัฒนาและดีไซน์มาตั้งแต่ต้น แต่ก็เป็นส่วนที่ช่วยเพิ่มความสะดวกในชีวิตไร้สายในปัจจุบันนี้ได้ดีพอสมควร
ขณะที่ กล้องบันทึกภาพด้านหน้ารถ (Digital VDO Recorder) อันนี้ดีงามและน่าสนใจ เพราะกล้องที่ว่านี้สามามารถเชื่อมต่อได้กับจอระบบความบันเทิงที่อยู่ตรงกลางคอนโซลของตัวรถ แสดงภาพได้แบบตลอดเวลาและสามารถเปิด-ปิด ได้ตามความต้องการ พร้อมการบันทึกข้อมูลเก็บข้อมูลเหตุการณ์ต่าง ๆ ที่สำคัญได้อย่างแน่นอน
PPTV Online ลองสืบค้นข้อมูลการตั้งราคาจำหน่ายของ Suzuki XL7 เปรียบเทียบกับ Mitsubishi Xpander ในอินโดนีเซีย ซึ่งเป็นฐานกำเนิดและรากเหง้าแหล่งที่มาเดียวกันของรถยนต์เอ็มพีวีทุกทุ่นในประเทศไทย พบว่า น่าแปลกใจที่ราคาจำหน่ายของทั้ง 2 รุ่นมีความใกล้เคียงกันอย่างมาก แต่ลองมาเปรียบเทียบราคาในประเทศไทยแล้วถึงได้มีความแตกต่างกันอย่างมาก ซึ่งน่าสนใจถึงสิ่งที่ รองประธานกรรมการบริหาร แล้ว ซูซูกิ มอเตอร์ (ประเทศไทย) ได้ให้สัมภาษณ์ไว้ในการตั้งราคาให้ผู้บริโภคสามารถเข้าถึงง่ายตามนโยบายของบริษัท
ถึงตรงนี้มอง ๆ แล้วโดยรวมสรุปของ Suzuki XL7 ก็มีอุปกรณ์เพิ่มขึ้นมาให้พร้อม ๆ กับเหตุผลที่มีการปรับเพิ่มขึ้นราคานั่นแหละ จะว่าไปคิดเสียว่าถ้าไม่แถม 2 อย่างนี้มา ราคาก็ปรับเพิ่มขึ้นอยู่ดี ตามกลไกตลาดโลกและเหตุผลที่เกิดขึ้นจริงในปัจจุบันด้านต้นทุนการผลิต
แต่วันนี้โจทย์ใหญ่ของ ซูซูกิ คงอยู่ที่การแข่งขันที่เข้มข้นของตลาดเอ็มพีวีในประเทศไทยที่รุนแรงเสียเหลือเกิน ในขณะที่ตัวเองมีผลิตภัณฑ์ที่ต้องยอมรับว่า ‘เป็นรอง’ นั่นจึงทำให้ ซูซูกิ อยู่เฉยไม่ได้มีการทำกิจกรรมทางการตลาดและการให้ลูกค้าเข้าถึงและเป็นเจ้าของรถยนต์ได้อย่างง่ายดายมากยิ่งขึ้น
ถ้าโจทย์ของผู้บริโภคทั้งหลายที่ต้องการรถยนต์เอ็มพีวีสักคันที่เข้าถึงง่ายพร้อมกับการตอบโจทย์การใช้งานกับความทนทาน Suzuki XL7 คือคำตอบที่ยังคงไม่ผิดหวังอย่างแน่นอน