Honda CR-V ใหม่ เทียบระหว่าง e:HEV หรือ VTEC Turbo เลือกรุ่นไหนดี ?
หลายคนคงอาจจะลังเลในการตัดสินใจเลือกรถยนต์ที่กำลังร้อนแรงในนาทีนี้คือ Honda CR-V ใหม่ ที่ครั้งนี้มาพร้อมกัน 2 เครื่องยนต์ใหม่ คอนเทนต์นี้มีคำตอบ !
PPTV Online พาคุณผู้ชมไปสัมผัสกับรถยนต์อเนกประสงค์รุ่นเรือธงของ ฮอนด้า อย่างเจ้า Honda CR-V เปิดตัวครั้งแรกในงาน บางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 44 หรือ มอเตอร์โชว์ 2023 (Motor Show 2023) ซึ่งเป็นครั้งแรกในภูมิภาคเอเชียและโอเชียเนียที่ประเทศไทย
ครั้งแรกในเอเชีย! All-New Honda CR-V เปิดตัวราคาเริ่ม 1.41-1.72 ล้าน
ฮอนด้า คอนเฟิร์ม ซีอาร์-วี ใหม่ เปิด 2 เครื่องยนต์ใน Motor Show 2023
Honda WR-V ความสวยเต็มสิบ ขับดุ ช่วงล่างดิบ ราคาเอาเรื่อง
ครั้งนี้ Honda CR-V ใหม่ มาพร้อมด้วยกัน 2 เครื่องยนต์คือ Full Hybrid e:HEV และ 1.5 ลิตร VTEC Turbo ซึ่งมีรายละเอียดแตกต่างกันพอประมาณ
โดยเราได้มีการสรุปข้อมูลมาให้พร้อมกับการลองขับสัมผัสความรู้สึกมานำเสนอให้ทุกท่านได้รับทราบในคอนเทนต์นี้ นอกจากทางเลือกของเครื่องยนต์แล้วนั้น Honda CR-V ใหม่ ยังมีทางเลือกของจำนวนเบาะที่นั่งแบบ 5 ที่นั่ง หรือ 7 ที่นั่ง ซึ่งมีเฉพาะเพียงในรุ่น 1.5 ลิตร VTEC Turbo เท่านั้น ส่วนในรุ่นFull Hybrid e:HEV มีเฉพาะแบบ 5 ที่นั่ง อย่างเดียว
ข้อสังเกตหนึ่งที่เห็นความแตกต่างคือ การตัดเซนเซอร์ด้านหน้า-หลัง รวม 8 จุดทิ้งไปในรุ่น 1.5 ลิตร VTEC Turbo ในขณะที่ รุ่น Full Hybrid e:HEV มีครบ ด้วยเหตุผลที่วิศวกรของ ฮอนด้า ที่ระบุว่า ต้องการให้เห็นความแตกต่างระหว่างทั้ง 2 รุ่น แต่ในมุมมองของเรามองว่าเป็นการตัดลดในส่วนสำคัญอย่างมากออกไป เพราะ ฮอนด้า พยายามจะบอกว่าในครั้งนี้ต้องการให้เห็นถึงระบบความปลอดภัยที่มีครบตั้งแต่รุ่นเริ่มต้น แม้ว่าจะเป็นเรื่องของระบบความปลอดภัยของ Honda Sensing ก็ตาม แต่แค่นี้ก็ไม่น่าตัดออกไปเลย
สำหรับราคาจำหน่ายของ Honda CR-V รุ่น e:HEV RS ราคาอยู่ที่ 1,729,000 บาท ขณะที่ Honda CR-V 1.5 ลิตร VTEC Turbo รุ่น EL อยู่ที่ 1,649,000 บาท ซึ่งเป็นรุ่นท็อปสุดของทั้ง 2 ทางเลือกเครื่องยนต์ที่เราได้ไปลองสัมผัสมาในครั้งนี้ โดยถ้าหากสังเกตราคาทั้ง 2 รุ่นท็อปต่างกันแค่เพียง 80,000 บาท หากคิดคำนวณในค่างวดผ่อนต่อเดือน แทบจะไม่มีผลของความต่างใด ๆ เลยทีเดียว
สรุปคือ ฮอนด้า ตั้งใจอย่างชัดเจนที่จะโน้มน้าวให้ผู้บริโภคเลือกในรุ่น Full Hybrid e:HEV เพราะทุกอย่างที่ให้มาทั้งในแง่ของ อุปกรณ์อำนวยความสะดวก, ระบบความปลอดภัย และเทคโนโลยีความล้ำสมัยต่าง ๆ พร้อมทั้ง อารมณ์ความรู้สึกของช่วงล่างและสมรรถนะการขับขี่ ที่ทุกอย่างเทไปให้รุ่นท็อปสุดอย่างเห็นได้ชัด