ยลโฉม Ford Everest ใหม่ อัดแน่นเทคโนโลยี-ใหญ่ขึ้นทุกมิติ
ฟอร์ด เอเวอร์เรสต์ เจเนอเรชั่นใหม่ มาพร้อม 3 เครื่องยนต์ใหม่ และถุงลมนิรภัย 9 จุด รวมถึงระบบความปลอดภัยที่พัฒนาไปอีกขั้น
เปิดตัวอย่างเป็นทางการครั้งแรกในโลกแล้วสำหรับ ฟอร์ด เอเวอร์เรสต์ (Ford Everest) เจเนอเรชั่นใหม่ โดย ฟอร์ด มอเตอร์ คัมปะนี ในวันที่ 1 มีนาคม 2565
ลีสซิ่งกสิกรไทย ปี 64 โต 5.46% รุกหนักสินเชื่อรถยนต์ไฟฟ้ารับมาตรการรัฐ
บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ – บัตรคนจน ปี65 รอบใหม่ คาดเริ่มใช้สิทธิ 1 ต.ค.นี้ เผยคุณสมบัติผู้ลงทะเบียน
ฟอร์ด เอเวอร์เรสต์ เจเนอเรชั่นใหม่ มีระยะฐานล้อกว้างขึ้นส่งผลให้มีขนาดของตัวรถมีความใหญ่มากยิ่งขึ้น ขณะเดียวกัน ไฟหน้าใหม่รูปตัว C และลายเส้นบนกระจังหน้า เส้นด้านข้างตัวถังทอดยาวจากด้านหน้าจรดท้ายรถเน้นการออกแบบตัวถังที่สะดุดตา ฐานล้อที่กว้างทำให้ซุ้มล้อใหญ่โดดเด่น เพิ่มความแข็งแกร่งและทันสมัยให้กับรถ
ภายในห้องโดยสาร ตั้งแต่แผงหน้าปัดด้านหน้าที่วางเต็มความกว้างของพื้นที่ คอนโซลกลางพร้อมที่วางแก้วน้ำ 2 ตำแหน่ง และที่วางแก้วน้ำแบบพับเก็บได้สำหรับเบาะคู่หน้า ระบบการชาร์จแบบไร้สาย (ในบางรุ่น) เกียร์อัตโนมัติแบบ Electronic Shifter หุ้มด้วยหนังสวยงามจับถนัดมือ พร้อมเบรกไฟฟ้า เบาะนั่งคนขับปรับไฟฟ้า 10 ทิศทาง สามารถปรับอุณภูมิและระบายอากาศได้ เบาะนั่งผู้โดยสารตอนหน้าปรับไฟฟ้า 8 ทิศทาง รองรับการจดจำการตั้งค่าส่วนตัวของผู้ขับขี่และผู้โดยสาร และเบาะนั่งแถว 2 ยังสามารถปรับอุณภูมิได้ ขึ้นอยู่กับแต่ละรุ่นย่อย ส่วนเบาะนั่งแถวที่ 3 เข้า-ออกได้ง่ายขึ้น ด้วยการออกแบบให้เบาะนั่งแถวที่ 2 ขยับมาด้านหน้ามากกว่าเดิม นอกจากนี้ ผู้โดยสารทุกคนยังมีพื้นที่เก็บสัมภาระ และชาร์จอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ของตนเองได้ด้วยการติดตั้งปลั๊กไฟทั้ง 3 แถว
เตือนภัย AirTags โจรก่อเหตุขโมยรถยนต์ อาศัยช่องโหว่ อุปกรณ์ติดตาม
ฟอร์ด ให้ความสำคัญกับเบาะนั่งที่ปรับได้หลายแบบ โดยเบาะนั่งแถวที่ 2 ปรับเลื่อนได้ และพับได้แบบแบ่ง 60:40 ส่วนเบาะนั่งแถวที่ 3 ซึ่งทำให้รถจุผู้โดยสารได้ 7 คน แบ่งที่นั่งในอัตราส่วน 50:50 และพับได้แบบไฟฟ้า (สำหรับบางรุ่น) ที่สำคัญเบาะแถวที่ 2 และ 3 ยังพับได้แบบแบนราบเพื่อการบรรทุกสัมภาระที่มีความยาว
อุปกรณ์เชื่อมต่อการสื่อสารและเทคโนโลยีภายในห้องโดยสารของฟอร์ด เอเวอเรสต์ เจเนอเรชันใหม่ ประกอบไปด้วยแผงหน้าปัดดิจิทัลขนาด 8 หรือ 12.4 นิ้วขึ้นอยู่กับแต่ละรุ่นย่อย และยังมีหน้าจอแบบสัมผัสความคมชัดสูงขนาด 10.1 หรือ 12 นิ้ว อีกด้วย และระบบเชื่อมต่อการสื่อสาร SYNC® 4A พร้อมรองรับการสั่งงานด้วยเสียงเพื่อการสื่อสาร ควบคุมอุปกรณ์เพื่อความบันเทิง และเข้าถึงข้อมูลต่างๆ รวมถึงการติดตั้งโมเด็มมาจากโรงงานเพื่อให้ฟอร์ด เอเวอเรสต์ เจเนอเรชันใหม่ เชื่อมต่อกับแอปพลิเคชันฟอร์ดพาส (FordPass™)iv,v เพื่อยกระดับประสบการณ์การเป็นเจ้าของรถด้วยความสามารถในการสตาร์ทรถจากระยะไกล การตรวจเช็คสถานะต่างๆ ของรถ รวมไปถึงการล็อค และปลดล็อคผ่านโทรศัพท์มือถือ
สำหรับ ฟอร์ด เอเวอร์เรสต์ เจเนอเรชั่นใหม่ ประกอบไปด้วย 3 เครื่องยนต์ได้แก่
1.เครื่องยนต์ดีเซล 3.0 ลิตร V6 เทอร์โบ
2.เครื่องยนต์ดีเซล 2.0 ลิตร เทอร์โบ
3.เครื่องยนต์เบนซิน 2.3 ลิตร EcoBoost (ตั้งแต่ปี 2566 เป็นต้นไป วางจำหน่ายในบางประเทศ)
ทั้งนี้ ได้มีการจับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด และเกียร์อัตโนมัติแบบซีเล็กชิฟท์ 10 สปีด
ฟอร์ด เอเวอเรสต์ เจเนอเรชันใหม่ มาพร้อมฐานล้อที่กว้างขึ้น 50 มิลลิเมตร มอบการควบคุมบนถนนได้ดียิ่งขึ้น ในขณะที่การปรับแต่งโช้คอัพใหม่ สำหรับรองรับการขับขี่บนถนนและเส้นทางออฟโรด และมีตัวเลือกระบบการขับขี่ ทั้ง ขับเคลื่อน 4 ล้อ 2 รูปแบบ พร้อมวัสดุป้องกันช่วงล่าง โหมดการขับขี่ออฟโรดที่หลากหลาย เฟืองท้ายแบบ Locking Rear Differential ตะขอคู่หน้า และช่องต่อพ่วงอุปกรณ์ออฟโรด Upfitter Switch
ระบบการขับขี่ 4 ล้อทั้ง 2 รูปแบบ ประกอบด้วย เกียร์ทรานสเฟอร์แบบ 2 จังหวะ พร้อมการเปลี่ยนโหมดการขับขี่ขณะรถเคลื่อนที่ด้วยระบบไฟฟ้า (Electronic Shift-On-The-Fly) หรือเรียกว่าระบบขับเคลื่อน 4 ล้อแบบพาร์ทไทม์ กับระบบขับเคลื่อน 4 ล้อที่มาพร้อมเทคโนโลยีขั้นสูงแบบฟูลไทม์ ที่มาพร้อมเกียร์ทรานสเฟอร์แบบ 2 จังหวะ (On-Demand Two-Speed Electromechanical transfer case - EMTC) ควบคุมด้วยไฟฟ้าพร้อมโหมดการขับขี่ที่เลือกใช้งานให้เหมาะกับสภาพถนนได้ และในบางประเทศ เอเวอเรสต์ ยังมาพร้อมตัวเลือกระบบการขับเคลื่อนแบบ 2 ล้อด้วย
ฟอร์ด เอเวอเรสต์ เจเนอเรชันใหม่ ลุยน้ำได้สูงสุด 800 มิลลิเมตร และมีความสามารถในการลากจูงถึง 3,500 กิโลกรัม ราวหลังคาออกแบบมาเพื่อการผจญภัยโดยเฉพาะ รองรับน้ำหนักได้ 350 กิโลกรัมขณะรถจอดอยู่กับที่ และรับน้ำหนักได้ 100 กิโลกรัมขณะรถเคลื่อนที่ พร้อมจุดยึดที่รองรับการใช้งานหลากหลาย
ระบบความปลอดภัยมาพร้อมด้วย ถุงลมนิรภัย 9 ตำแหน่ง ติดตั้งระหว่างผู้ขับและผู้โดยสารด้านหน้า เพิ่มการป้องกันในกรณีที่มีการชนจากด้านข้าง และถุงลมนิรภัยคู่ด้านหน้าป้องกันเข่าและขา ถุงลมนิรภัยด้านข้างระดับหน้าอกทั้ง 2 ฟาก และม่านถุงลมนิรภัยคู่ด้านข้างครอบคลุมถึงที่นั่ง 3 แถว ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับรุ่นและประเทศที่จำหน่าย
นอกจากนั้น ระบบช่วยจอดอัจฉริยะ 2.0 ในฟอร์ด เอเวอเรสต์ เจเนอเรชันใหม่ ช่วยให้ผู้ขับขี่จอดรถในพื้นที่แคบ โดยระบบจะช่วยบังคับพวงมาลัย ปรับเกียร์ เร่งความเร็วและเบรกในการจอดรถแบบขนานหรือเข้าช่องจอด และระบบจะนำรถออกจากที่จอดรถแบบขนานเมื่อได้รับคำสั่ง พร้อมกันนี้ ไฟหน้าแบบเมทริกซ์ แอลอีดี ในฟอร์ด เอเวอเรสต์ เจเนอเรชันใหม่ ที่มีในบางรุ่นและบางประเทศ ช่วยให้ทัศนวิสัยที่ดียิ่งขึ้น อาทิ ระบบปรับระดับแสงไฟตามความเร็วอัตโนมัติที่ปรับความสว่างของแสงไฟด้านหน้าตามระดับความเร็วของรถ นอกจากนี้ ไฟหน้ายังมาพร้อมการปรับแสงตามการเลี้ยวทั้งขณะจอดนิ่งและเคลื่อนที่ และไฟสูงแบบป้องกันแสงสะท้อน มอบความปลอดภัยแก่ผู้ขับขี่และไม่รบกวนผู้ใช้ถนนคนอื่น
ขณะที่ ระบบควบคุมความเร็วแบบรักษาระยะห่างอัตโนมัติใหม่ในฟอร์ด เอเวอเรสต์ มีทั้งหมด 3 แบบ ขึ้นอยู่กับรุ่นและประเทศที่วางจำหน่าย ประกอบด้วย
- ระบบควบคุมความเร็วแบบรักษาระยะห่างอัตโนมัติพร้อมฟังก์ชัน Stop and Go (Adaptive cruise control with stop and go) ช่วยผู้ขับขี่รักษาความเร็วตามที่ตั้งไว้และรักษาระยะห่างจากรถด้านหน้า พร้อมเบรกให้รถจอดสนิทเมื่อจำเป็น
- ระบบควบคุมความเร็วแบบรักษาระยะห่างอัตโนมัติพร้อมฟังก์ชัน Stop and Go และควบคุมรถให้อยู่กลางช่องทาง (Adaptive cruise control with stop and go and lane centering) จับเส้นแบ่งช่องทางและช่วยควบคุมให้รถอยู่ตรงกลางช่องทางได้
- ระบบควบคุมความเร็วแบบรักษาระยะห่างอัจฉริยะ (Intelligent adaptive cruise control) อ่านป้ายจราจรและปรับความเร็วอัตโนมัติตามที่กำหนดได้
นอกจากนี้ ยังมีเทคโนโลยีช่วยในการขับขี่ที่ได้รับการพัฒนาขึ้นไปอีกขั้น ประกอบด้วย
- ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในช่องทางผสานระบบตรวจจับขอบถนน (Lane-keeping system with road-edge detection) ช่วยป้องกันรถออกจากเส้นทางในพื้นที่ชนบท
- ระบบช่วยหักพวงมาลัยเพื่อเลี่ยงการปะทะ (Evasive steer assist) ออกแบบให้ทำงานขณะขับขี่ในเมืองหรือบนทางด่วน โดยใช้เรดาร์และกล้องตรวจจับรถที่ขับด้วยความเร็วต่ำหรือหยุดนิ่งด้านหน้า และส่งแรงช่วยผู้ขับขี่บังคับพวงมาลัยหลบเพื่อลดความเสี่ยงจากการชน
- ระบบช่วยหยุดรถอัตโนมัติขณะถอยหลัง (Reverse brake assist) ช่วยให้ถอยหลังเพื่อเข้าซองจอดหรือจอดในพื้นที่แคบๆ ด้วยการเตือนด้วยเสียงและภาพ
- ระบบสามารถตรวจจับรถ จักรยาน และคนเดินถนนที่ผ่านมาด้านหลังได้ และยังช่วยเบรกให้รถจอดสนิทได้ด้วยหากผู้ขับขี่ไม่ตอบสนองอย่างทันท่วงที
- ระบบตรวจจับรถในจุดบอดครอบคลุมส่วนต่อพ่วง (Blind spot information system with trailer coverage) ตรวจจับจุดบอดรอบคันรวมถึงส่วนต่อพ่วง โดยจะแจ้งเตือนผู้ขับขี่เมื่อระบบคาดว่าอาจเกิดอันตราย ระบบนี้รองรับเทรลเลอร์ที่มีความกว้างสูงสุด 2.4 เมตร และยาว 10 เมตร
- ระบบป้องกันการชนเพื่อป้องกันการชนบริเวณทางแยก (Pre-collision assist with intersection functionality) ช่วยส่งแรงเบรกรถอัตโนมัติเพื่อหลีกเลี่ยงหรือลดผลกระทบจากอุบัติเหตุ ขณะที่ผู้ขับขี่กำลังเลี้ยวรถผ่านช่องทางที่มีรถวิ่งสวน เมื่อระบบประเมินว่าอาจเกิดการชนได้
6 ทริค ปลอดภัยก่อนเดินทางไกล เตรียม “คน” - “รถ" ให้พร้อม ห่างไกลอุบัติเหตุช่วง
อย่างไรก็ตาม ฟอร์ด เอเวอร์เรสต์ เจเนอเรชั่นใหม่ มีการคาดการณ์ว่าจะเปิดตัวในประเทศไทยอย่างเป็นทางการในช่วงครึ่งปีหลังของปี 2565 นี้