บริดจสโตน จับตาต้นทุนผลิตยางรถยนต์พุ่ง ห่วงกระทบผู้บริโภคตัดสินใจซื้อ
บริดจสโตน ประกาศวิสัยทัศน์พร้อมเดินหน้าพัฒนาธุรกิจระยะกลาง-ยาว “Bridgestone E8 Commitment (พันธสัญญา E8 ของบริดจสโตน)”
นายเคอิจิ ชูมะ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไทยบริดจสโตน จํากัด เปิดเผยว่า ภาพรวมตลาดยางรถยนต์ในประเทศไทยปี 2565 มีแนวโน้มเติบโตขึ้น 5-10% เมื่อเทียบกับปีก่อน โดยตลาดยางรถยนต์ทดแทน (REM) สำหรับยางขนาดเล็กอยู่ที่ 10 ล้านเส้น และยางรถยนต์เพื่อการพาณิชย์อยู่ที่ 1-1.2 ล้านเส้น
ราคายางรถยนต์ปรับขึ้น 20% เหตุต้นทุนพุ่งสูง จับตาผู้บริโภคระวังใช้จ่าย
รวมเทคนิคเลือกยางรถยนต์ ดูอย่างไรถึงคุ้มค่ามากที่สุด
ทั้งนี้ สถานการณ์ต้นทุนวัตถุดิบที่ปรับสูงขึ้นรวมถึงอัตราเงินเฟ้อทั่วโลกเป็นปัจจัยที่จะต้องจับตาซึ่งอาจจะมีผลกระทบต่อการตัดสินใจซื้อของผู้บริโภคในช่วงครึ่งปีหลังที่อาจจะชะลอตัว
"บริดจสโตน คาดว่า อัตราการเติบโตของบริษัทในปีนี้จะอยู่ที่ราว 1-3% ซึ่งจะต้องติดตามสถานการณ์ต่าง ๆ อย่างใกล้ชิด ทั้งการปรับขึ้นราคาที่ยังไม่สามารถคาดการณ์ได้และสภาพแวดล้อมต่าง ๆ ในอนาคตซึ่ง บริดจสโตน พยายามดูแลต้นทุนเพื่อไม่ให้ส่งผลกระทบต่อผู้บริโภคและติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด"
ขณะที่ บทบาทของ บริดจสโตน ประเทศไทย ถือได้ว่าอยู่ในแถวหน้าของกลุ่มบริษัทที่เป็ยฐานการผลิตสำคัญของ บริดจสโตน ทั่วโลก ในการผลิตเพื่อจำหน่ายในประเทศไทยและส่งออกไปยัง ยุโรป ออสเตรเลีย และตะวันออกกลาง
ล่าสุด บริดจสโตน ประเทศไทย แถลงความพร้อมสู่การเป็นองค์กรผู้ส่งมอบโซลูชั่นอย่างยั่งยืนสู่ปี ค.ศ. 2050 (พ.ศ. 2593) ประกาศวิสัยทัศน์พร้อมเดินหน้าพัฒนาธุรกิจระยะกลาง-ยาว “Bridgestone E8 Commitment (พันธสัญญา E8 ของบริดจสโตน)” ซึ่งเป็นแกนหลักในการขับเคลื่อนกลยุทธ์องค์กร โดยนำนวัตกรรมสร้างความยั่งยืน ตั้งแต่กระบวนการผลิตจนถึงการขาย พร้อมส่งมอบคุณค่าให้สังคมและลูกค้า เพื่อให้เป็นต้นทุนการเติบโตทางธุรกิจ และนำไปสู่ความได้เปรียบทางการแข่งขันในตลาดยางรถยนต์ทั้งในประเทศไทยและทั่วโลก โดยได้กำหนดให้ปี 2563 เป็นปีแรกของ Bridgestone 3.0