BMW จดสิทธิบัตรแปลง "แรงกระแทกบนถนน"เป็นพลังงานไฟฟ้า
ค่ายรถเยอรมัน บีเอ็มดับเบิลยู ยื่นจดสิทธิบัตรเทคโนโลยีแปลง "แรงกระแทก" บนถนนเป็นพลังงานไฟฟ้า ป้อนเข้าแบตเตอรี่
เว็บไซต์ข่าวยานยนต์ CarBuzz รายงานว่า บริษัทบีเอ็มดับเบิลยู (BMW) ผู้ผลิตรถยนต์สัญชาติเยอรมัน ได้ยื่นจดสิทธิบัตรเทคโนโลยีระบบช่วงล่างที่ช่วยให้รถยนต์ไฟฟ้าแปลงพลังงานจากการเคลื่อนไหวในแนวดิ่งของล้อรถให้เป็นพลังไฟฟ้าได้ พูดง่ายๆ ก็คือ หากรถวิ่งผ่านลูกระนาด หรือหลุมบนถนน ก็จะสามารถแปลงแรงกระแทกที่เกิดขึ้นเป็นไฟฟ้า ชาร์จเข้าแบตเตอรี่ได้
ปกติแล้ว แรงกระแทก หรือพลังงานที่เกิดจากการวิ่งผ่านถนนที่ขรุขระหรือลูกระนาด จะถูกดูดซับโดยโช๊คอัพและแดมเปอร์
บีเอ็มดับเบิลยู ประกาศปรับขึ้นราคารถ 14 รุ่น เหตุเงินเฟ้อพุ่งสูง
ท่าทีของ ซีอีโอ บีเอ็มดับเบิลยู ต่อเทคโนโลยียานยนต์ไฟฟ้า
แต่นวัตกรรมใหม่ของ BMW จะส่งพลังงานดังกล่าวกลับเข้าสู่แบตเตอรีรถยนต์ โดยผ่านวงล้อหมุนที่ออกแบบมาเป็นพิเศษ ซึ่งทำหน้าที่เหมือนเครื่องปั่นไฟขนาดเล็ก
เว็บไซต์ CarBuzz คาดว่า BMW จะนำเทคโนโลยีนี้มาใส่ไว้ในรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นเรือธงรุ่นใดรุ่นหนึ่งในอนาคต อย่าง BMW i7 (บีเอ็มดับเบิลยู ไอเจ็ด) และน่าจะมีราคาสูงมาก เนื่องจากเป็นเทคโนโลยีใหม่ แต่เมื่อเวลาผ่านไป เทคโนโลยีนี้ก็น่าจะถูกใส่ในรถรุ่นอื่นๆ ที่ราคาต่ำกว่า และกลายเป็นมาตรฐานในที่สุด
แนวคิดการเปลี่ยนพลังงานจลน์ (kinetic energy) จากแรงกระแทกบนถนนเป็นพลังงานไฟฟ้าไม่ใช่เรื่องใหม่เสียทีเดียว และ BMW ก็ไม่ใช่บริษัทแรกที่พยายามใช้ประโยชน์จากหลุมบ่อบนถนน โดยเมื่อปี 2016 บริษัทออดี (Audi) ค่ายรถคู่แข่ง ก็เคยประกาศว่า กำลังพัฒนาต้นแบบของแดมเปอร์โรตารีแม่เหล็กไฟฟ้า ที่แปลงพลังงานจลน์ที่เกิดขึ้นในจังหวะที่โช๊คยุบตัวให้เป็นพลังงานไฟฟ้า สำหรับระบบไฮบริดเสริมขนาดเล็ก 48 โวลต์
แต่สุดท้าย เทคโนโลยีดังกล่าวก็ยังไม่มีการผลิตจริง และยังไม่ทราบแน่ชัดว่า ทางออดียังพัฒนาอยู่หรือไม่ในตอนนี้
นอกจากนี้ บริษัทผลิตอะไหล่ทดแทนอย่าง กิ๊ก เพอร์ฟอร์แมนซ์ (Gig Performance) ในสหรัฐฯ ก็เคยระบุเช่นกันว่า กำลังพัฒนาเทคโนโลยีคล้ายๆ กัน สำหรับทั้งรถเก๋งไฟฟ้า และรถบรรทุกไฟฟ้า