อาวดี้ ส่งตัวโหด RS Performance Edition ลุยตลาด 2 รุ่นรวด
อาวดี้ ประเทศไทย เปิดตัวรถในตระกูล RS มาทั้งหมดแล้ว 9 รุ่น ทั้งเครื่องยนต์สันดาปและไฟฟ้า 100% และเพื่อเป็นการตอบสนองความต้องการของลูกค้า
นายกฤษณะกร เศวตนันทน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไมซ์สเตอร์ เทคนิค จำกัด หรือ อาวดี้ ประเทศไทย เปิดเผยว่า บริษัทเปิดตัว Audi RS รุ่นพิเศษ Performance Edition มาตรฐานใหม่ของรถยนต์สาย Performance เปิดตัวพร้อมกัน 2 รุ่นใหม่ ได้แก่ RS 7 Sportback Performance และ RS 6 Avant Performance
อาวดี้ ปิดฉากตำนาน 25 ปี "Audi TT" รุ่นสุดท้ายในไทย
เปิดกลยุทธ์ 'Brand Integrations' ดูคาติ-อาวดี้ แห่งแรกในอาเซียน
ทั้งนี้ บริษัทใช้กลยุทธ์ Product marketing เป็นตัวขับเคลื่อน สร้างกระแสให้กับแบรนด์ด้วยการเปิดตัวรถรุ่นใหม่ รวมไปถึงรถในตระกูล RS อย่างต่อเนื่อง
โดยยอดขายในเซกเมนต์ดังกล่าวของ Audi ในปี 2565 เติบโตขึ้น 19% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า และถือว่ามีอัตราการเติบโตสูงกว่าตลาดของ อาวดี้ ในประเทศอื่นๆ ทำให้ อาวดี้ ประเทศไทย มีอัตราส่วนแบ่งการตลาดของรถยนต์กลุ่ม RS เทียบกับรถยนต์ Audi รุ่นปกติสูงเป็นอันดับที่ 4 ของโลก
อาวดี้ ประเทศไทย เปิดตัวรถในตระกูล RS มาทั้งหมดแล้ว 9 รุ่น ทั้งเครื่องยนต์สันดาปและไฟฟ้า 100% และเพื่อเป็นการตอบสนองความต้องการของลูกค้า การเปิดตัว RS 6 Performance Edition และ RS 7 Performance Edition ครั้งนี้ อาวดี้ ประเทศไทย ถือเป็นหนึ่งในไม่กี่ประเทศในเอเชียที่มีการเปิดตัวในเวลาที่ใกล้เคียงกับ World Premier
รายละเอียดของ RS 7 Sportback Performance มีดังนี้
RS 7 Sportback Performance เป็นรถสปอร์ตสมรรถนะสูงดีไซน์แบบ Sportback ท้ายลาด โดยมีดีไซน์โดดเด่นเฉพาะตัวด้วยล้อขนาด 22 นิ้ว ดีไซน์ใหม่ Audi Sport แบบ 5 ก้านในเฉดสีทอง พร้อมคาลิปเปอร์เบรกสีแดงแบบ RS กระจังหน้าขนาดใหญ่ลาย Honeycomb ชุดตกแต่งภายนอกแบบ Glossy Black RS พร้อมตกแต่ง Audi Ring และชื่อรุ่นด้วยสี Glossy Black
ระบบขับเคลื่อนสี่ล้ออัจฉริยะ quattro with sport differential ทำงานควบคู่กับระบบ Dynamic Ride Control (DRC) พร้อมกับระบบบังคับเลี้ยวทั้งสี่ล้อ (All-wheel steering) ระบบท่อไอเสียแบบ RS Sports
ขุมพลังของ RS 7 Sportback Performance มาพร้อมด้วยเครื่องยนต์เบนซิน mild hybrid แบบ V8 biturbo ระเบิดพลัง 630 แรงม้า (เพิ่มขึ้น 30 แรงม้า) แรงบิดที่ 850 นิวตันเมตร (เพิ่มขึ้น 50 นิวตันเมตร) อัตราเร่งจาก 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ในเวลา 3.4 วินาที (รุ่นปกติ 3.6 วินาที) ทำความเร็วสูงสุดได้ถึง 280 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
ดีไซน์ภายในห้องโดยสาร มาพร้อมเบาะนั่งคู่หน้าแบบ RS Sports ตกแต่งแบบ honeycomb และด้ายสีแดง เบาะนั่งผู้โดยสารด้านหลังหุ้มหนัง Valcona ห้องโดยสารตกแต่งลาย Carbon Twill Structure พร้อมไฟเรืองแสงห้องโดยสาร ที่ปรับได้มากถึง 30 เฉดสี พวงมาลัยแบบสปอร์ตท้ายตัด หุ้มหนัง Alcantara พร้อมสัญลักษณ์ RS และ Paddle shift แสดงข้อมูลการขับขี่ผ่านจอ Virtual cockpit ขนาด 12.3 นิ้ว เสมือนมาตรวัดรถแข่ง พร้อมระบบ MMI Navigation plus ขนาด 10.1 นิ้ว สั่งการและจอมัลติฟังก์ชันแบบสัมผัส ตอบสนองการสั่งงาน (haptic feedback) ขนาด 8.6 นิ้ว พร้อมเครื่องเสียงระดับพรีเมียม Bang & Olufsen ระบบเสียง 3 มิติ
เอฟเฟกต์ไฟแบบ Light staging ด้านหน้าและด้านท้าย เมื่อเปิด-ปิดล็อครถ มาพร้อมเทคโนโลยีไฟหน้าอัจฉริยะ HD Matrix LED with Audi laser light ส่องสว่างไกล คมชัดและแม่นยำ ลำแสงปรับการทำงานอัตโนมัติตามสถานการณ์การขับขี่ เพื่อไม่ให้รบกวนรถที่วิ่งสวนมาและรถที่อยู่ด้านหน้า อีกทั้งเมื่อขับขี่ด้วยความเร็วสูง Laser light จะช่วยให้มีระยะการส่องสว่างไกลถึง 600 เมตร พร้อมไฟ Projector LED แบบ RS Performance ที่ประตูหน้า-หลัง
นอกจากนั้น ยังมาพร้อมระบบช่วยเหลือการขับขี่ Audi pre sense rear (ระบบป้องกันก่อนเกิดเหตุด้านหลัง) เรดาร์เซ็นเซอร์ที่อยู่ด้านท้ายรถจะประเมินสภาพการจราจรที่อยู่ด้านหลัง ในกรณีที่ประเมินว่ามีแนวโน้วที่อาจเกิดอันตรายได้ ระบบจะดึงรั้งสายเข็มขัดนิรภัยของเบาะนั่งคู่หน้าให้กระชับ นอกจากนั้นแล้ว หากกระจกหรือหลังคาพาโนรามิคถูกเปิดค้างไว้ ระบบจะปิดให้โดยอัตโนมัติ พร้อมทั้งเปิดการทำงานของสัญญาณไฟฉุกเฉิน
Lane change warning (ระบบแจ้งเตือนจุดอับสายตาเมื่อเปลี่ยนเลน) เรดาร์เซ็นเซอร์ 2 ตำแหน่งที่อยู่ด้านท้ายของตัวรถจะช่วยผู้ขับขี่ในการตรวจสอบสภาพการจราจรที่อยู่ด้านหลัง (มีข้อจำกัดในการทำงานที่ช่วงระดับความเร็วตั้งแต่ 15-20 กิโลเมตรชั่วโมง) เมื่อระบบประเมินว่ารถอยู่ภายใต้ความเสี่ยงที่อาจจะเกิดอันตรายได้หากผู้ขับขี่เปลี่ยนเลน ระบบจะแสดงสัญญาณเตือนขึ้นที่กระจกมองข้าง ทั้งนี้ หากผู้ขับขี่เปิดสัญญาณไฟเลี้ยวเพื่อตั้งใจเปลี่ยนเลนไปยังทิศทางดังกล่าว สัญญาณเตือนจะกระพริบถี่ขึ้น
Exit warning (ระบบแจ้งเตือนสภาพแวดล้อมด้านข้างและด้านท้ายรถเมื่อเปิดประตูลงจากรถ) ขณะที่รถจอดหยุดนิ่ง ระบบจะตรวจสอบสภาพแวดล้อมทั้งด้านข้างและด้านหลัง ทั้งนี้ ในกรณีที่ตรวจพบยานพาหนะที่เคลื่อนเข้ามาในระยะที่อาจเกิดอันตราย เช่น รถยนต์ หรือรถจักรยาน กำลังเคลื่อนเข้ามาจากด้านหลัง ในขณะที่ผู้โดยสารภายในรถกำลังเปิดประตูจากด้านใน สัญญาณไฟเตือนจะปรากฏขึ้น
Rear cross traffic assist (ระบบแจ้งเตือนสภาพแวดล้อมด้านข้างและด้านท้ายรถเมื่อเข้าเกียร์ถอยหลัง)ระบบสามารถแจ้งเตือนผู้ขับขี่ขณะถอยรถออก หากตรวจสอบสภาพแวดล้อมแล้วพบว่ามีรถเคลื่อนเข้ามาในระยะที่อาจเกิดอันตราย ระบบจะส่งสัญญาณเตือน และหากอยู่ในสถานการณ์คับขัน ระบบจะช่วยเบรกเพื่อลดทอนการอุบัติเหตุ
RS 7 Sport Performance เปิดให้จองในราคา 11,280,000 บาท นอกจากนั้นยังมีรายการอุปกรณ์สั่งพิเศษ ซึ่งมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมจากราคาขาย Carbon exterior package ได้แก่ ชายล่างใต้กันชนด้านหน้าตกแต่งด้วย carbon, กระจกมองข้างตกแต่งด้วย carbon, ช่อง air inlets ด้านหน้าตกแต่งด้วย carbon, ขอบสเกิร์ตด้านข้างตกแต่งด้วย carbon, ขอบ diffuser ด้านท้ายตกแต่งด้วย carbon
รายละเอียดของ RS 6 Avant Performance มีดังนี้
RS 6 Avant Performance ถูกออกแบบมาเพื่อสะท้อน DNA ขุมพลังในสนามแข่ง กับรูปลักษณ์ที่เร้าใจล้อขนาด 22 นิ้ว ดีไซน์ใหม่ Audi sport แบบ 5 ก้าน มาในเฉดสีทอง พร้อมคาลิปเปอร์เบรกสีแดงแบบ RS พร้อมชุดแต่งภายนอกแบบ Glossy Black RS พร้อมตกแต่ง Audi Ring และชื่อรุ่นด้วยสี Glossy Black
ส่วนขุมพลังมาพร้อมกับเครื่องยนต์เบนซิน mild hybrid แบบ V8 biturbo 630 แรงม้า(เพิ่มขึ้น 30 แรงม้า) แรงบิด 850 นิวตันเมตร (เพิ่มขึ้น 50 นิวตันเมตร) อัตราเร่งจาก 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ในเวลา 3.4 วินาที (รุ่นปกติ 3.6 วินาที) ทำความเร็วสูงสุดได้ 280 กิโลเมตรต่อชั่วโมง พร้อมระบบขับเคลื่อนสี่ล้ออัจฉริยะ quattro with sport differential ทำงานควบคู่กับระบบ Dynamic Ride Control (DRC) พร้อมกับระบบบังคับเลี้ยวทั้งสี่ล้อ (All-wheel steering)
ดีไซน์ภายในห้องโดยสารลุคสปอร์ตเต็มขั้น เบาะนั่งคู่หน้าแบบ RS Sports ตกแต่งแบบ honeycomb และด้ายสีแดง คันเกียร์และด้านข้างคอนโซลกลางหุ้ม Alcantara สีดำ เบาะนั่งหุ้มหนัง Valcona พร้อมไฟ Projector LED แบบ RS Performance ที่ประตูหน้า-หลัง
- ห้องโดยสารตกแต่งลาย Carbon Twill Structure พร้อมไฟ Ambient light ที่ปรับได้มากถึง 30 เฉดสี
- ควบคุมมั่นใจกับพวงมาลัยแบบสปอร์ตท้ายตัด หุ้มหนัง Alcantara พร้อมสัญลักษณ์ RS
- Paddle shift แสดงข้อมูลการขับขี่ผ่านจอ Virtual cockpit ขนาด 12.3 นิ้ว เสมือนมาตรวัดรถแข่ง
- ระบบ MMI Navigation plus ขนาด 10.1 นิ้ว สั่งการง่ายเพียงปลายนิ้วสัมผัส
- จอมัลติฟังก์ชันแบบสัมผัส ตอบสนองการสั่งงาน (haptic feedback) ขนาด 8.6 นิ้ว เติมเต็มอารมณ์การขับขี่ด้วยเครื่องเสียงระดับพรีเมียม Bang & Olufsen ระบบเสียง 3 มิติ
เทคโนโลยีไฟหน้าอัจฉริยะแบบ HD Matrix LED with Audi laser light ส่องสว่างไกล คมชัดและแม่นยำ ลำแสงปรับการทำงานอัตโนมัติตามสถานการณ์การขับขี่ เพื่อไม่ให้รบกวนรถที่วิ่งสวนมาและรถที่อยู่ด้านหน้า อีกทั้งเมื่อขับขี่ด้วยความเร็วสูง Laser light จะช่วยทำให้มีระยะการส่องสว่างไกลถึง 600 เมตร ทำให้การขับขี่ปลอดภัยมากยิ่งขึ้น พร้อมตื่นเต้นไปกับเอฟเฟกต์ไฟด้านหน้า (Light staging) และไฟเลี้ยวแบบ Dynamics
RS 6 Avant performance เปิดให้จองในราคา 11,280,000 บาท นอกจากนั้นยังมีรายการอุปกรณ์สั่งพิเศษ ซึ่งมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมจากราคาขาย Carbon exterior package ได้แก่ ชายล่างใต้กันชนด้านหน้าตกแต่งด้วย carbon, กระจกมองข้างตกแต่งด้วย carbon, ช่อง air inlets ด้านหน้าตกแต่งด้วย carbon, ขอบสเกิร์ตด้านข้างตกแต่งด้วย carbon, ขอบ diffuser ด้านท้ายตกแต่งด้วย carbon