Chery Group ยืนยันบุกไทยต้นปี'67 ลุ้นลงทุนฐานผลิตรถพวงมาลัยขวา
Chery แบรนด์รถสัญชาติจีน กางแผนธุรกิจในไทย ประเดิมเปิดตัวรถยนต์ไฟฟ้า OMODA 5 EV พร้อมรับคุยกับรัฐบาลถึงการลงทุนโรงงาน ย้ำศักยภาพไทยแข็งแกร่งในภูมิภาค
ในโอกาสการเดินทางไปร่วมงาน เซี่ยงไฮ้ ออโต้โชว์ 2023 (Shanghai Autoshow 2023) ที่ประเทศจีน กับ เชอรี่ ออโตโมบิล (Chery Automobile) ซึ่งเป็นบริษัทผู้ผลิตรถยนต์สัญชาติจีน ที่มียอดขายในปีที่ผ่านมาจำนวนมากกว่า 1 ล้านคัน
พาชมบูธแบรนด์ Chery โชว์ไฮไลท์ในงาน Shanghai Auto Show 2023
ฉางอัน ออโตโมบิล ทุ่ม 9,800 ล้าน ตั้งโรงงานผลิตรถยนต์ไฟฟ้าในไทย
PPTV Online ได้มีโอกาสสัมภาษณ์พิเศษ "Yin Tongyue" ประธานกรรมการบริหาร Chery Group (Chairman of Chery Group) ที่สำนักงานใหญ่ของ Chery Automobile เมืองอู๋หู มณฑลอานฮุย ประเทศจีน ถึงแผนการลงทุนและการแนะนำแบรนด์ "Chery" เข้าสู่อุตสาหกรรมยานยนต์ในประเทศไทย
อีกทั้งยังมีคณะผู้บริหารที่ดูแลรับผิดชอบดูแลด้านผลิตภัณฑ์ และ การทำตลาดในภูมิภาคเอเชีย ได้แก่ "Zhang Guibing" รองประธานกรรมการบริหาร Chery Group และประธานกรรมการบริหาร Chery International (Vice President of Chery Group, President of Chery International) รวมถึง "Xu Qingsong" รองประธานฝ่ายบริหารของ Chery International (VP of Chery international) เข้าร่วมให้ข้อมูลในการสัมภาษณ์พิเศษครั้งนี้
ทั้งนี้ Chery จะเปิดตัวแบรนด์ในประเทศไทยอย่างเป็นทางการในช่วงต้นปี 2567 พร้อมการเปิดตัวผลิตภัณฑ์แรกในกลุ่มรถยนต์ไฟฟ้า 100% ในรุ่น OMODA 5 EV จำนวน 2 รุ่นย่อยได้แก่ Standard version สามารถวิ่งได้ด้วยระยะทาง 450 กม. ต่อการชาร์จ 1 ครั้ง และ Premium version สามารถวิ่งได้ด้วยระยะทางมากกว่า 500 กม. ต่อการชาร์จ 1 ครั้ง นอกจากนั้น ยังมีแผนการเปิดตัวรถยนต์ในกลุ่ม ปลั๊ก-อิน ไฮบริด ในประเทศไทยอีกหลายรุ่นภายในระยะเวลา 2-3 ปี หลังจากนั้น เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคในประเทศไทย
ขณะที่ แผนการลงทุนก่อสร้างฐานการผลิตรถยนต์ของ Chery ในประเทศไทย บริษัทได้มีการพูดคุยกับรัฐบาลไทยถึงความเป็นไปได้ในการลงทุนฐานการผลิตรถยนต์พวงมาลัยขวาเพื่อรองรับตลาดในประเทศและส่งออก โดยปัจจุบัน Chery ยังไม่มีการจดทะเบียนบริษัทในประเทศไทย ซึ่งบริษัทต้องมั่นใจในทุกด้านก่อนเข้าสู่ตลาดประเทศไทยเนื่องจากเป็นตลาดที่มีการแข่งขันสูง และเป็นตลาดใหญ่ในภูมิภาคอาเซียน
Yin Tongyue ประธานกรรมการบริหาร Chery Group (Chairman of Chery Group)ประเทศไทยถือเป็นตลาดสำคัญสำหรับแบรนด์ Chery โดยภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ในช่วง 2-3 ปีข้างหน้าบริษัทกำลังขยายอย่างจริงจังไปยังตลาดอาเซียน รถพวงมาลัยขวา และตลาดสหภาพยุโรป โดยในอนาคต เชอรี่ จะเข้าสู่ตลาดประเทศไทย ไม่เพียงแต่เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้ใช้ในประเทศ แต่ยังเพื่อพัฒนาธุรกิจของ Chery ต่อไปด้วย ซึ่งอาเซียนเป็นภูมิภาคสำคัญที่ Chery ไม่อาจมองข้ามได้โดย ไทย อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ เวียดนาม เมียนมาร์ ได้จัดตั้งทีมงานประจำประเทศและจัดทำแผนระยะยาวเพื่อเข้าสู่แต่ละตลาด โดยประเทศไทยมีตำแหน่งทางเศรษฐกิจที่สำคัญในภูมิภาคอาเซียน และยังเป็นศูนย์กลางการผลิตรถยนต์ในภูมิภาคซึ่งเป็นหนึ่งในตลาดรถยนต์ที่ใหญ่ที่สุดในอาเซียน
ย้อนกลับไปในช่วง 10 ปี ที่ผ่านมา Chery ได้มีการหยุดพัฒนารถยนต์พวงมาลัยขวาเนื่องจากในเวลานั้นบริษัทยังไม่สามารถพัฒนาเพื่อแข่งขันกับแบรนด์ในระดับโลกได้ จนกระทั่งในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา บริษัทได้เริ่มพัฒนารถยนต์ะวงมาลัยขวาและรถยนต์พลังงานไฟฟ้า จนมั่นใจว่าสามารถแข่งขันได้ในตลาดโลก ในรุ่น OMODA 5 และ OMODA 5 EV ที่มีการแนะนำเข้าสู่ตลาดทวีปยุโรปไปแล้วก่อนหน้านี้
ถึงวันนี้เราพร้อมแล้วทั้งในด้านผลิตภัณฑ์และแผนการตลาดที่สามารถแข่งขันกับคู่แข่งได้ในตลาดโลก จึงได้มีแผนการขยายตลาดไปยังประเทศต่าง ๆ อย่างมากในช่วง 2-3 ปี นี้ รวมถึงประเทศไทยด้วยเช่นกัน เพื่อแสดงศักยภาพด้านเทคโนโลยีของแบรนด์ให้เป็นที่รู้จักไปทั่วโลก
สำหรับ Chery Group เป็นบริษัทผู้ผลิตรถยนต์สัญชาติจีนที่มีการส่งออกมากที่สุดเป็นเวลา 20 ปีติดต่อกัน โดยในปี 2565 ที่ผ่านมา ประเทศจีนมีการส่งออกรถยนต์จำนวน 3.1 ล้านคัน โดยในจำนวนดังกล่าวเป็นรถยนต์ของ Chery Group จำนวน 4.52 แสนคัน หรือคิดเป็น 1 ใน 7 คัน ของรถยนต์ที่ส่งออกจากประเทศจีนเป็นรถยนต์ของแบรนด์เชอรี่
ปัจจุบันปริมาณการส่งออกสะสมของ Chery Group อยู่ที่ 11.2 ล้านคันทั่วโลก โดย Chery ใช้เน้นการใช้เทคโนโลยีพัฒนายานยนต์และพัฒนาด้านพลังงานใหม่ ด้วยงบประมาณการวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยี (R&D) หลักพันล้านเหรียญสหรัฐต่อเนื่องทุกปี และมีทีมวิศวกรมากกว่า 7,000 คน โดยในปี 2566 Chery Group จะเปิดตัวเทคโนโลยีใหม่ 135 รายการ ซึ่งรวมถึง Super Hybrid Platform, E0X High-Performance Electric Platform และเทคโนโลยีอัจฉริยะและระบบนิเวศที่รองรับทั้งสองแพลตฟอร์มสำหรับผู้ใช้ทั่วโลก ซึ่งรวมถึงเทคโนโลยีไฮบริดเจเนอเรชันที่สาม เทคโนโลยีแบตเตอรี่ เทคโนโลยีขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้า เทคโนโลยีการขับขี่อัจฉริยะ และ Galaxy Ecology
OMODA 5 EV
เชอรี่ ตั้งเป้าที่จะพัฒนาจากแบรนด์ระดับสากลของบริษัทรถยนต์จีนไปสู่แบรนด์รถยนต์ที่มีชื่อเสียงระดับสากล ด้วยกลยุทธ์ระดับโลกของ เชอรี่ นั้นหวังว่า Chery จะกลายเป็นตัวแทนของจีนในด้าน R&D การผลิต และคุณภาพ ในอนาคต เชอรี่ จะเข้าสู่ตลาดสหภาพยุโรปมากขึ้นในรูปแบบของรถยนต์พลังงานใหม่ ในแง่ของผลิตภัณฑ์พลังงานใหม่ ผลิตภัณฑ์พลังงานใหม่ของเชอรี่ในอนาคตจะครอบคลุมตลาดรถยนต์ซึ่งรวมถึงปลั๊กอินไฮบริด ไฟฟ้าล้วน ขับเคลื่อนสี่ล้อไฟฟ้า และรถยนต์พลังงานใหม่อื่นๆ
ล่าสุดได้มีการเปิดตัวแบรนด์ใหม่ OMODA&Jaecoo หรือ O&J ที่สามารถขยายสายผลิตภัณฑ์และตอบสนองความต้องการของกลุ่มลูกค้าที่แตกต่างกันได้มากขึ้น ซึ่งคาดหวังที่จะสร้างแบรนด์ใหม่ที่หลากหลายและเข้าถึงกลุ่มผู้บริโภคที่หลากหลายมากขึ้น การเปิดตัวแบรนด์ใหม่นั้นสามารถสร้างความแตกต่างเฉพาะตัวได้ เชอรี่เชื่อว่าแบรนด์ที่เพิ่งเปิดตัวสามารถนำเทคโนโลยีขั้นสูง คุณภาพสูงขึ้น การออกแบบที่ทันสมัยมากขึ้น หรือแนวคิดที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากขึ้น มาช่วยส่งเสริมภาพลักษณ์ของแบรนด์และขับเคลื่อนการพัฒนาขององค์กรทั้งหมด
OMODA 5 EV ที่อยู่ภายใต้แบรนด์ OMODA เป็นรถยนต์ไฟฟ้า 100% รุ่นแรกของแบรนด์ ที่มุ่งตอบโจทย์ชีวิตกลุ่มเป้าหมายชนชั้นกลางรุ่นใหม่ในเมือง ที่ติดตามแฟชั่น เทรนด์ ความเป็นอิสระและหวงความเป็นส่วนตัว ตลอดจนมีความคิดสร้างสรรค์ที่เต็มเปี่ยม
ในขณะที่ JAECOO ที่เป็น รถยนต์อเนกประสงค์ (SUV) ออฟโรดในเมืองก็พร้อมส่งมอบประสบการณ์ในการขับขี่เหนือระดับ ซึ่งถูกออกแบบมาสำหรับชนชั้นสูง ด้วยสไตล์ที่ไม่ธรรมดา และตอบสนองความต้องการเดินทางของผู้ใช้อย่างเต็มที่ผ่านความหรูหราสะดวกสบาย
นอกจากนี้ ยังมี TIGGO 7 PRO รถเอสยูวีขนาดกลาง ของแบรนด์ Chery เน้นที่แฟชั่นและเทคโนโลยี และเน้นที่พื้นที่และการใช้งานในตัวรถ และ TIGGO 8 PRO รถเอสยูวีขนาดใหญ่ เป็นรุ่นเรือธงของแบรนด์ Chery มีเป้าหมายที่ความหรูหรา ธุรกิจ และเทคโนโลยี
เราหวังว่ารถยนต์ของเราจะกลายเป็นตัวเลือกแรกสำหรับผู้ใช้งานผ่านการออกแบบที่มีสไตล์ เทคโนโลยีขั้นสูง และคุณภาพที่ยอดเยี่ยม
เชอรี่ มุ่งมั่นไปสู่พลังงานใหม่ของรถยนต์ไฮบริดและรถยนต์ไฟฟ้า 100% เต็มที่ ในด้านเทคโนโลยีพลังงานใหม่ เรายังคงเดินหน้าพัฒนาเทคโนโลยี “three-electric" และพัฒนาชิ้นส่วนสำคัญ เช่น วัสดุใหม่ แพลตฟอร์มซูเปอร์ไฮบริดอย่างอิสระ ซึ่งเป็นเทคโนโลยีไฮบริดเจเนอเรชันที่ 3 ของ Chery รวมถึงแพลตฟอร์มรถยนต์นั่งส่วนบุคคล E0X ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์แรกที่จะเปิดตัวในช่วงครึ่งหลังของปีนี้
ในอีก 5 ปีข้างหน้า Chery Group จะเปิดตัวผลิตภัณฑ์รถยนต์นั่งพลังงานใหม่ 33 รายการ ซึ่งรวมถึงรถยนต์ไฟฟ้า 100% จำนวน 19 รุ่น ภายในปี 2568 ธุรกิจของกลุ่มบริษัทจะเปลี่ยนโฉมสู่ “New Modernizations" อย่างเต็มตัว
ในช่วงท้ายของการสัมภาษณ์พิเศษคณะผู้บริหารของ Chery Group ทิ้งท้ายความเห็นในเรื่องการแนะนำแบรนด์และลงทุนฐานการผลิตในประเทศไทยไว้ว่า “The last one is the BEST one” ขอให้มั่นใจว่า Chery Group จะนำผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพ ตอบโจทย์ผู้บริโภคชาวไทยมากที่สุด รวมถึงสร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้บริโภคชาวไทยโดยการเข้ามาทำตลาดในประเทศไทยด้วยการบริหารงานของบริษัทแม่ประเทศจีนเอง