ฮุนได ย้ำไทยสำคัญเป็นตลาดหลักของเอเชีย เปิดตัวรถใหม่ใน Motor Expo 2023
ฮุนได โมบิลิตี้ ประเทศไทย จัดแสดงรถยนต์ต้นแบบพร้อมเปิดตัวรถยนต์รุ่นใหม่ใน มหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 40 หรือ มอเตอร์ เอ็กซ์โป 2023 (Motor Expo 2023)
นายเจ กิว จอง ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ฮุนได โมบิลิตี้ (ประเทศไทย) กล่าวว่า บริษัทมองเห็นศักยภาพของตลาดรถยนต์ในประเทศไทยในการเป็นตลาดหลักของภูมิภาคเอเชีย โดยภายในงานครั้งนี้จึงได้เปิดตัวแบรนด์รถยนต์ไฟฟ้าของฮุนไดอย่าง “IONIQ” ด้วยรุ่น IONIQ 5 และอีกหนึ่งไฮไลต์อย่าง Hyundai Santa Fe เอสยูวีครอบครัว 7 ที่นั่ง ภายในงานครั้งนี้ พร้อม รถยนต์ยอดนิยมครบทุก Line-up และ Segment
รวมวิธีเดินทางไป "Motor Expo 2023" ทั้งรถไฟฟ้ายันรถประจำทาง!
Motor Expo 2023 เปิดฉากเริ่มงานอย่างเป็นทางการค่ายรถตบเท้าร่วมงานเพียบ
นายเจ ฮยุน กวาง หัวหน้าทีมกลยุทธ์ของแบรนด์ N จากสำนักงานใหญ่ บริษัท ฮุนได มอเตอร์ กล่าวว่า ฮุนได ยังมีศักยภาพในด้านยานยนต์สมรรถนะสูงซึ่งเปิดตัวสู่ตลาดโลกแล้วภายใต้ แบรนด์ ‘N Performance’ ยานยนต์ที่ได้แรงบันดาลใจมาจากกีฬามอเตอร์สปอร์ต ผสานความสะดวกสบายเพื่อตอบโจทย์การใช้งานที่ครอบคลุม โดยนำ Elantra N มาเปิดตัวในงานนี้เป็นครั้งแรกของเมืองไทยและตลาดต่างประเทศ
นายวัลลภ เฉลิมวงศาเวช กรรมการผู้จัดการ บริษัท ฮุนได โมบิลิตี้ (ประเทศไทย) กล่าวว่า ในปีนี้ ฮุนไดเปิดเกมรุกตลาดยานยนต์อย่างเต็มรูปแบบ หลังบริษัทแม่ของ ฮุนได เข้ามาทำการตลาดในประเทศไทยด้วยตัวเอง เมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมาโดยได้ยกระดับการนำเสนอทั้งบริการและผลิตภัณฑ์ เพื่อมอบประสบการณ์แก่ผู้ขับขี่ ด้วยนวัตกรรมและโซลูชันแบบบูรณาการใหม่ ๆ รวมถึงการขยายเครือข่ายดีลเลอร์ให้ครอบคลุมขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในปีนี้เพิ่มดีลเลอร์รายใหญ่อีกเกือบ 10 ราย เพื่อให้ฮุนไดสามารถมอบบริการแก่ลูกค้าชาวไทยอย่างทั่วถึงในระยะยาว
สำหรับรายละเอียดของรถยนต์รุ่นต่าง ๆ มีดังนี้
IONIQ 5 รถยนต์ไฟฟ้าอีวี 100% ชูคอนเซ็ปต์การผสมผสานดีไซน์ยานยนต์คลาสสิกอย่าง Hyundai Pony เข้ากับ Parametric Pixels Design ที่โดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ พร้อมเส้นสายที่สะอาดตาและเฉียบคม เน้นเส้นเหลี่ยมสันสร้างรูปลักษณ์ที่เพรียวบาง นับเป็นการผสานความล้ำสมัยเข้ากับความคลาสสิกอย่างลงตัว ด้านหน้ารถออกแบบเป็นรูปตัว V กระจังหน้าทรงปิดทึบ ฝากระโปรงหน้าแบบ Clamshell Bonnet มือเปิดประตูด้านข้างแบบซ่อนเก็บได้ในตัว ทั้งหมดนี้เป็นฝีมือการออกแบบของ จิออเกตโต จูเจียโร่ (Giorgetto Giugiaro) นักออกแบบชื่อดังชาวอิตาลี ซึ่งกลับมาร่วมมือกับฮุนไดอีกครั้ง เพื่อปลุกตำนานอันโด่งดังให้กลับมาโลดแล่นอีกครั้งในวันนี้
มาพร้อมระบบขับเคลื่อน 2 ล้อที่ใช้มอเตอร์ไฟฟ้า Permanent magnet พลังงานจากแบตเตอรี่ Lithium-Ion ติดตั้งระบบชาร์จเร็ว 350 kW Ultra-fast Charging สามารถชาร์จไฟจาก 10-80% ได้ภายใน 17 นาทีเท่านั้น มอบความสะดวกสบายได้มากกว่ารถไฟฟ้าแบรนด์อื่น ๆ พร้อมฟีเจอร์ไฮเทคครบครันทั้ง ระบบเครื่องเสียงชั้นนำระดับโลกจาก BOSE และระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่ Hyundai SmartSense ท้งยังพร้อมตอบโจทย์ทุกความต้องการด้วย 2 ทางเลือก
- แบตเตอรี่แรงดันสูงสุด 58 กิโลวัตต์-ชั่วโมง กำลังสูงสุด 170 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 350 นิวตันเมตร สามารถเร่งความเร็วจาก 0-100 กม./ชม. ได้ในเวลาเพียง 8.5 วินาที ความเร็วสูงสุด 185 กม./ชม. ระยะทางขับเคลื่อนไฟฟ้าสูงสุด 384 กม. ตามมาตรฐาน WLTP
- แบตเตอรี่แรงดันสูงสุด 72.6 กิโลวัตต์-ชั่วโมง กำลังสูงสุด 217 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 350 นิวตันเมตร สามารถเร่งความเร็วจาก 0-100 กม./ชม. ได้ในเวลาเพียง 7.4 วินาที ความเร็วสูงสุด 185 กม./ชม. ระยะทางขับเคลื่อนไฟฟ้าสูงสุด 481 กม. ตามมาตรฐาน WLTP
Hyundai Santa Fe เอสยูวีพร้อมเบาะแบบ 3 แถว 7 ที่นั่ง ใน Segment D-SUV เปิดตัวในงาน มอเตอร์ เอ็กซ์โป 2023 เป็นครั้งแรกของประเทศไทย ขับเคลื่อนด้วยขุมพลัง Hybrid ที่ผสานมอเตอร์ไฟฟ้าและเครื่องยนต์ ขนาด 1.6 ลิตร เทอร์โบ ให้กำลังสูงสุด 230 แรงม้า ที่ 5,500 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุดแบบ Combined System 350 นิวตันเมตร ที่ 1,000 - 4,500 รอบต่อนาที พร้อมระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ Active On-demand โดยใช้ล้อ Aero type alloy ขนาด 19 นิ้ว ส่วนกระจังหน้าเป็นโครเมียมแบบ Cascade ที่สอดรับกับมือจับประตููที่ตกแต่งด้วยโครเมียมเช่นกัน หลังคาพาโนรามิกซันรูฟ โดดเด่นด้วยไฟหน้าแบบ Dual LED Projector T-design และไฟ LED ส่องสว่างเวลากลางวัน Daytime Running Lights ด้านหลังสง่างามด้วยการตกแต่งสปอยเลอร์หลังพร้อมเสริมไฟท้าย LED ด้วยไฟเบรก LED ดวงที่ 3 เพิ่มความสว่างและการมองเห็นที่ชัดเจน
Hyundai Elantra N มาพร้อมเครื่องยนต์ Theta-II 2.0 T-GDi เทอร์โบ กำลังสูงสุด 280 แรงม้า ที่ 5,500 - 6,000 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 392 นิวตันเมตร ที่ 2,100 - 4,700 รอบต่อนาที ใช้ระบบส่งกำลังแบบ N 8-speed Wet Dual Clutch Transmission (DCT) ทั้งยังมีระบบผู้ขับขี่เปลี่ยนเกียร์ได้เอง ขับเคลื่อนล้อคู่หน้า มาพร้อมเทคโนโลยีระบบวาล์วท่อไอเสียแบบแปรผันที่สร้างเสียง Pop-corn Sound และระบบกันสะเทือนแบบ Adaptive ใช้ระบบบังคับเลี้ยวแบบ Rack-mounted Motor Driven Power Steering (R-MDPS) และเบรกอย่างแม่นยำ ด้วยระบบดิสก์เบรกประสิทธิภาพสูงพร้อมช่องระบายความร้อนขนาด 360 x 30 มม. (ล้อหน้า) และขนาด 314 x 20 มม. (ล้อหลัง)
โหมดการขับขี่อัจฉริยะทั้ง N, N Custom 1 และ N Custom 2 พร้อมระบบเฟืองท้าย e-LSD (electronic-Limited Slip Differential) ที่ทำงานร่วมกับะบบช่วงล่างไฟฟ้า ECS (Electronically Controlled Suspension) และระบบปรับเสียงท่อไอเสียแบบ Active Variable Exhaust ที่ให้เสียงเร้าใจเสมือนโลดแล่นในสนามแข่ง
นอกจากนี้ ยังมาพร้อมระบบความปลอดภัยขั้นสูง ตามมาตรฐานรถยนต์ระดับพรีเมียมและ Hyundai SmartSense ที่มีทั้งระบบเตือนและเบรกฉุุกเฉินอัตโนมัติ FCA (Forward Collision-avoidance Assist), ระบบควบคุุมรถในเลน LKA (Lane Keeping Assist), ระบบเตือนและคุุมพวงมาลัยเมื่อมีรถในจุดอับสายตา BCA (Blind-spot Collision-avoidance Assist), ระบบเตือนและเบรกอัตโนมัติขณะถอยรถ RCCA (Rear Cross-traffic Collision-avoidance Assist) และอีกมากมาย
อีกทั้ง ยังได้จัดแสดงยานยนต์แห่งอนาคตทั้งจากแบรนด์ IONIQ อาทิ IONIQ 6 รถยนต์ไฟฟ้าที่พัฒนาต่อจาก Prophecy Concept EV รวมถึงยานยนต์สมรรถนะสูงจาก N Brand ทั้งรถยนต์ต้นแบบ N Vision 74 สมดุลที่สมบูรณ์แบบระหว่างเทคโนโลยีล้ำสมัยและการออกแบบอันเป็นเอกลักษณ์ เพื่อการขับขี่ที่รื่นรมย์, รถแข่งแรลลี่ดีกรีเจ้าสนาม I20 WRC ซึ่งคว้าตำแหน่งผู้ผลิต WRC ยอดเยี่ยมเป็นปีที่ 2 ติดกัน จากชัยชนะ 3 สนาม ทั้งมอนติคาร์โล เอสโทเนีย และซาร์ดิเนีย
ฮุนได โมบิลิตี้ ประเทศไทย มอบข้อพิเศษแก่ผู้จองรถยนต์รุ่นต่าง ๆ ในงานอีกมากมาย ผู้สนใจสามารถเยี่ยมชมบูธรถยนต์ฮุนไดที่บูธหมายเลข A07 งานมหกรรมยานยนต์ครั้งที่ 40 ณ อาคารชาเลนเจอร์ฮอลล์ 2 อิมแพ็ค เมืองทองธานี ระหว่างวันที่ 30 พฤศจิกายน - 11 ธันวาคม 2566
สพฐ.ประกาศวันหยุด 4 - 8 ธ.ค. เพื่อให้นักเรียนเตรียมสอบ TGAT - TPAT