สิงห์อมควัน! “บุหรี่ไฟฟ้า” สูบแล้วติดใช้เลิกบุหรี่ไม่ได้ เสี่ยงมะเร็งปอดหลายโรครุมเร้า
“บุหรี่ไฟฟ้า” ถือเป็นไอเทมติดมืออย่างกว้างขวางของวัยรุ่น-วัยทำงานในปัจจุบันและเป็นค่านิยมที่เท่กว่าบุหรี่ปกติ อีกทั้งยังถูกเข้าใจผิดว่าสามารถใช้ในการเลิกบุหรี่ปกติและอันตรายน้อยกว่าบุหรี่ปกติด้วย
ถกเถียงกันมาหลายต่อหลายครั้งว่าพอตบุหรี่ไฟฟ้าหรือบุหรี่ที่อันตรายกว่ากัน อันที่จริงแล้วแทบไม่แตกต่างเพราะมีสารนิโคติน ที่หากได้รับปริมาณมากๆ ทำให้เพิ่มปัจจัยเสี่ยงมะเร็งปอด,โรคเบาหวาน,โรคหัวใจและหลอดเลือดสมองถึงขั้นเสียชีวิตได้
น้ำยาขอบบุหรี่ไฟฟ้าสามารถก่อให้เกิดอันตรายต่อร่างกายได้ เช่น
นิโคติน เมื่อเข้าสู่ร่างกายจะไปกระตุ้นระบบประสาทส่วนกลาง เพิ่มความดันโลหิต เพิ่มอัตราการเต้นของหัวใจและการหายใจ เพิ่มความเสี่ยง
- มะเร็งปอด
- โรคเกี่ยวกับทางเดินหายใจ
มะเร็งปอด พบบ่อยในคนไทย แนะหลีกเลี่ยงปัจจัยเสี่ยง
หมอมนูญ ยกเคสผู้ป่วยมะเร็งปอด ไม่มีประวัติสูบบุหรี่ พบดมควันธูปนาน6ปี
- มะเร็งช่องปากหลอดอาหาร และตับอ่อน
- กระตุ้นให้มีการหลั่งฮอร์โมนคอร์ติซอลเพิ่มขึ้น ซึ่งสารนี้ทำให้น้ำตาลในเลือดเพิ่มขึ้น เป็นสาเหตุของการเป็นโรคเบาหวาน
- กระตุ้นให้จำนวนเซลล์ผนังหลอดเลือดเพิ่มขึ้น ทำให้เส้นเลือดตีบ เพิ่มความเสี่ยงโรคหัวใจ และหลอดเลือดสมอง
- สำหรับหญิงตั้งครรภ์นิโคตินส่งผลต่อการพัฒนาของสมองทารกในครรภ์
- การได้รับสารนิโคตินในระดับที่สูงเสี่ยงต่อการเสียชีวิต
โพรไพลีนไกลคอล และสาร Glycerol/Glycerin เมื่อสัมผัสหรือสูดดมเข้าไปอาจทำให้เกิดการระคายเคืองที่ผิวหนัง ดวงตา และปอดได้ โดยเฉพาะในผู้ที่เป็นโรคปอดเรื้อรัง โรคหอบหืด และโรคถุงลมโป่งพอง
สารประกอบอีกมากมายในไอของบุหรี่ไฟฟ้า ที่มีข้อมูลว่าเป็นอันตรายต่อร่างกาย เช่น โลหะหนัก สารหนู สารกลุ่ม Formaldehyde และกลุ่ม Benzene เป็นต้น
จริงอยู่ที่ว่า บุหรี่ไฟฟ้ามีกลไกการทำงานที่ไม่มีกระบวนการเผาไหม้เหมือนบุหรี่ธรรมดา ทำให้ผู้สูบลดความเสี่ยงที่จะได้รับสารที่เป็นอันตรายจากการเผาไหม้บางตัวเช่นน้ำมันดินหรือทาร์ (Tar) และคาร์บอนมอนอกไซด์ (Carbon Monoxide) แต่จากสารตั้งต้นสาร ที่พบในบุหรี่ไฟฟ้าก็ก่อให้เกิดอันตรายต่อร่างกายได้ไม่แพ้กัน
นอกจากนี้ยังมีบางงานวิจัยที่ระบุว่า ไอระเหยของบุหรี่ไฟฟ้ามีขนาดอนุภาคที่เล็กกว่าบุหรี่ธรรมดา ทำให้สามารถถูกสูดเข้าไปในปอดส่วนลึกได้มากกว่า อนุภาคที่เล็กนี้จะจับเข้ากับเนื้อเยื่อปอดและดูดซึมเข้าสู่กระแสเลือดได้อย่างรวดเร็วและยากที่กลไกธรรมชาติของร่างกายจะขับออกมาได้ และแน่นอนว่าบุหรี่ไฟฟ้ามีสารนิโคติน ซึ่งทำให้ผู้สูบติด ได้ไม่ต่างจากบุหรี่ธรรมดา
มีวิจัยจำนวนมากกว่าพยว่าการสูบบุหรี่ไฟฟ้าไม่ได้ช่วยลดการสูบบุหรี่ธรรมดาลงเลย ร้ายไปกว่านั้นยังทำให้อัตราการสูบบุหรี่โดยรวมทั้งธรรมดาและไฟฟ้าเพิ่มมากขึ้นอีกด้วย
ขณะนี้บุหรี่ไฟฟ้าถือเป็นสินค้าต้องห้าม บุคคลที่มีบุหรี่ไฟฟ้าไว้ในความครอบครอง ถือว่ามีความความผิดทั้งผู้นำเข้า ผู้ขาย และผู้ใช้ เมื่อเจ้าหน้าที่พบเห็นความผิดซึ่งหน้าสามารถเข้าจับกุมได้ กรณีเป็นผู้นำเข้ามีโทษจำคุกไม่เกิน 10 ปี หรือปรับเป็นเงิน 5 เท่าของสินค้าที่นำเข้า หรือทั้งจำทั้งปรับ กรณีจำหน่ายจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 5 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ส่วนกรณีผู้สูบหรือมีบุหรี่ไฟฟ้าไว้ในครอบครอง ถือว่ามีความผิดในฐานครอบครองสิ่งที่นำเข้ามาโดยผิดกฎหมาย ต้องระวังโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับเป็นเงิน 4 เท่าราคาของซึ่งรวมค่าอากรเข้าด้วยแล้ว หรือทั้งจำทั้งปรับ
ข้อมูลจาก : โรงพยาบาลกรุงเทพ