เช็กเลย! อาการแบบนี้ ซีสต์ธรรมดา หรือ มะเร็งรังไข่ ใครบ้างเสี่ยง?
ปวดท้อง นับเป็นอาการยอดฮิตของสาวๆ ยิ่งช่วงมีประจำเดือนก็มักจะมีอาการปวดท้องมากเป็นพิเศษ แต่อาจเป็นสัญญาณเตือนของโรค “ถุงน้ำในรังไข่” หรือซีสต์ ก็เป็นได้ วิธีเช็คอัพแยกให้ออกว่าอาการแบบนี้มะเร็งหรือไม่ ?
ถุงน้ำรังไข่หรือซีสต์ที่รังไข่แม้ส่วนใหญ่มักไม่เป็นอันตราย เมื่อหมดประจำเดือนถุงน้ำก็จะยุบหายไปได้เองตามธรรมชาติ แต่ก็มีถุงอีกชนิดหนึ่ง คือซีตส์ชนิดที่เป็นโรค ลักษณะจะโตขึ้นเรื่อยๆ มีของเหลวอย่างเลือดหรือหนองขังอยู่ภายในหากปล่อยทิ่งไว้ก็จะทำให้ปวดท้องรุนแรงจนเดินไม่ได้ หรือเกิดภาวะแทรกซ้อนต่างๆ เช่น หากถุงน้ำรังไข่แตกก็มักจะทำให้มีพังผืดในท้อง ทำให้ปวดท้องน้อยเรื้อรัง ลามไปถึงการมีลูกยาก หรือถ้าถุงน้ำมีการบิดขั้วเกิดขึ้น อาจทำให้ต้องรับทำการผ่าตัดแบบเสียรังไข่ข้างนั้นไปเลยก็ได้
“ซีสต์รังไข่”อันตรายหรือไม่ ? อาการปวดประจำเดือนที่ควรพบแพทย์
เช็กก่อนเชื่อโดนทำของ หรือ“โรคถุงน้ำเดอร์มอยด์” เจอฟัน-เส้นผมในรังไข่
สัญญาณเตือนแบบไหนที่มาพร้อมความเสี่ยงถุงน้ำรังไข่?
- หน้าท้องโตขึ้นผิดปกติ
- มีอาการปวดท้องน้อย และมักปวดช่วงมีประจำเดือน
- ปวดท้องน้อยเฉียบพลัน ซึ่งอาจเกิดจากขั้วถุงน้ำรังไข่บิดหรือแตก
- รู้สึกปวดปัสสาวะบ่อยขึ้น ซึ่งอาจเกิดจากการที่ซีสต์โต และไปเบียดกระเพาะปัสสาวะ
- ประจำเดือนมามาก หรือมากะปริบกะปรอยผิดปกติ มีอาการปวดที่รุนแรงมากขึ้นทุกเดือน
ซีตส์มีโอกาสกลายเป็นมะเร็งได้หรือไม่ ?
ถึงแม้ว่าถุงน้ำรังไข่ จะมีโอกาสกลายเป็นมะเร็งได้ค่อนข้างน้อย แต่แพทย์ก็ต้องระวังและรอบคอบในการตรวจวินิจฉัย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในผู้หญิงที่มีปัจจัยเสี่ยงของมะเร็งรังไข่ต้องทำการตรวจเพิ่มเติมเพื่อการวินิจฉัยเพิ่มเติมในส่วนของมะเร็งต่อไป ความเสี่ยงได้แก่
- มีประวัติว่าคนในครอบครัวเป็นมะเร็งรังไข่
- มีประวัติเคยเป็นมะเร็งเต้านม มะเร็งลำไส้
- อัลตราซาวด์พบลักษณะของถุงน้ำขอบไม่เรียบ มีก้อนเนื้อตันภายใน
- ตรวจพบน้ำในช่องท้อง
ซีสต์รังไข่มี 3 ประเภท
- ถุงน้ำที่เกิดขึ้นได้เองตามฮอร์โมน ในร่างกายที่มีการเปลี่ยนแปลง (Functional Cyst ) คือ ถุงน้ำรังไข่ที่เกิด จากการทำงานตามปกติของรังไข่เพื่อสร้างไข่ที่เป็นเซลล์สืบพันธุ์ของฝ่ายหญิง จะเป็นถุงน้ำที่โตขึ้นเองจากการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมน หลังจากนั้นถุงน้ำนี้ก็จะค่อยๆ ยุบตัวไปเอง
- เนื้องอกรังไข่ (Ovarian Tumor) คือ เนื้องอกชนิดไม่ร้ายแรง (ไม่ใช่มะเร็ง) หรือ ชนิดร้ายแรง (มะเร็ง) ก็ได้ โดยมากเนื้องอกแต่ละชนิดมักจะมีลักษณะเฉพาะที่พอจะบอกได้ว่าเป็นชนิดใด เช่น Dermoid Cyst (ถุงน้ำเดอร์มอยด์) ซึ่งภายในถุงน้ำมักจะมีน้ำ, ไขมัน เส้นผม กระดูกและฟัน เมื่อเอกซเรย์ดูหรือตรวจอัลตราซาวด์ก็มักจะบอกได้ว่าเป็นเนื้องอกชนิดนี้ส่วนเนื้องอกชนิดที่เป็นมะเร็งบางชนิด จะมีการสร้างสารเคมีที่ตรวจพบว่ามีปริมาณสูงมากๆ ในกระแสเลือดได้ เช่น CA 125 ดังนั้นการตรวจเลือดก็สามารถบ่งบอกล่วงหน้าได้ว่าอาจจะเป็นมะเร็งชนิดนี้
- ถุงน้ำที่คล้ายเนื้องอก (Tumor like condition) คือ ถุงน้ำที่เกิดจากเยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่ ที่เกิดขึ้นที่รังไข่ เมื่อมีรอบเดือนเยื่อบุโพรงมดลูกที่เกาะอยู่ที่รังไข่จะทำให้มีการอักเสบที่รังไข่ กลายเป็นถุงน้ำที่มีของเหลวภายในคล้ายเลือดเก่าๆ ข้นๆ สีคล้ายช็อกโกแลต จึงเรียกว่า ช็อกโกแลตซีสต์ (Chocolate Cyst)
9 สัญญาณเตือนช็อกโกแลตซีสต์ โรคใกล้ตัวที่ผู้หญิงทุกคนเสี่ยง
กรณีที่สงสัยว่าจะเป็นถุงน้ำรังไข่ แพทย์ก็จะนัดตรวจติดตามว่าจะยุบไปเองหรือไม่ บางรายแพทย์อาจให้รับประทานยาแล้วนัดมาตรวจซ้ำ ถ้าซีสต์ไม่ยุบหรือโตขึ้น อาจแสดงว่าไม่ใช่ก็จะให้การรักษา หรือผ่าตัดออก
- ผ่าตัดฉุกเฉิน เช่น ถุงน้ำรังไข่แตก ถุงน้ำรังไข่มีขั้วบิด เหล่านี้เกิดได้ทั้ง Functional Cyst และเนื้องอกถุงน้ำรังไข่ ผู้ป่วยจะมีอาการปวดมาก และต้องรับการผ่าตัดฉุกเฉิน ยกเว้นในรายที่เลือดออกในท้องไม่มาก อาจสังเกตอาการภายในโรงพยาบาล ถ้าอาการดีขึ้นก็กลับบ้านได้
- กรณีที่ต้องผ่าตัดไม่ฉุกเฉิน เมื่อแพทย์ตรวจจนมั่นใจแล้วว่าเป็นซีสต์ที่รังไข่ชนิดที่ไม่ใช่ Functional Cyst เช่น ช็อกโกแลตซีสต์ขนาดใหญ่ หรือมีผลต่อการมีบุตรยาก, ซีสต์ที่เป็นเนื้องอกรังไข่ เป็นต้น แพทย์ก็จะวางแผนการรักษาว่าจะผ่าตัดอย่างไร เช่น ผ่าตัดเปิดหน้าท้องตามปกติ หรือใช้วิธีผ่าตัดแบบส่องกล้อง และจะผ่าตัดเลาะเอาซีสต์ออกอย่างเดียวดีหรือตัดรังไข่ หรือจำเป็นต้องตัดมดลูกด้วยหรือไม่ เหล่านี้ขึ้นอยู่กับอายุผู้ป่วย ชนิดและขนาดของซีสต์ ความจำเป็นที่จะมีบุตรได้อีกด้วย
ขอบคุณข้อมูลจาก : โรงพยาบาลเปาโล
ซีสต์-ก้อนเนื้อ-มะเร็งเต้านม ต่างกันอย่างไร? ทำไมผู้ชายถึงเสี่ยงด้วย?
“ก้อนเนื้อไขมัน” ใต้ชั้นผิวหนัง เมื่อไหร่ควรพบแพทย์เพื่อผ่าออก