“เสื่อมสมรรถภาพทางเพศ” จุดเปลี่ยนสุขภาพที่ “พีเค” ร่วมคุย “น้าเน็ก” ในวัยขึ้นเลข 5

ผ่านประสบการณ์ชีวิตมาอย่างโชกโชน สำหรับ “พีเค-ปิยวัฒน์ เข็มเพชร” พิธีกรชื่อดัง ไม่ว่าจะเคยย้ายไปอยู่ที่นิวยอร์กมานาน 17 ปี ก่อนจะกลับมาตามหาความฝันที่เมืองไทยอีกครั้ง และเริ่มต้นเส้นทางของความโด่งดังด้วยการเป็นดีเจ นักลงเสียงสปอต จนมาเป็นพิธีกรที่หลายคนรู้จัก

แต่นอกจากความเก่งกาจเหล่านี้ หลายคนอาจมองว่าเขาคือคาสโนวาตัวพ่อ ซึ่งล่าสุด “พีเค” ได้ออกมาเล่าถึงจุดเปลี่ยนที่ส่งผลกระทบกับชีวิต ที่ทำให้เขากลายเป็นเขาในทุกวันนี้

ผ่านรายการ “จุดเปลี่ยนสายแข็ง by BDMS” โดยมี “น้าเน็ก-เกตุเสพย์สวัสดิ์ ปาลกะวงศ์ ณ อยุธยา” รับหน้าที่พิธีกรดำเนินรายการ

โดยหนึ่งในจุดเปลี่ยนทางสุขภาพ ที่หนุ่มพีเคได้มาร่วมพูดคุยในรายการ คือปัญหาสุขภาพทางเพศ ปัญหาของคนวัยขึ้นเลข 5 ที่เมื่อเวลาผ่านไป มีการใช้งานมากๆ ก็อาจเกิดความเสื่อมถอยเป็นเรื่องธรรมดา

แต่อะไรที่เป็นสาเหตุ ที่ทำให้ผู้ชายอายุมากประสบภาวะเสื่อมสมรรถภาพทางเพศ น.พ. สรรชัย วิโรจน์แสงทอง ศัลยแพทย์ระบบทางเดินปัสสาวะ โรงพยาบาล BNH ได้มาไขคำตอบ พร้อมแนะนำวิธีการสังเกต ให้รู้ทันปัญหาหากเกิดภาวะหย่อนสมรรถภาพทางเพศดังนี้

สาเหตุ “เสื่อมสมรรถภาพทางเพศ”

สาเหตุการเกิดภาวะเสื่อมสมรรถภาพทางเพศ มีอยู่ 2 ปัจจัยหลักใหญ่ๆ คือ

1.) สภาวะของร่างการที่เริ่มเสื่อมถอยลงไปตามเวลา

2.) โรคประจำตัว หรือสภาวะของร่างกายในแต่ละคน

การสังเกต “ภาวะเสื่อมสมรรถภาพทางเพศ”

สัญญาณของภาวะเสื่อมสมรรถภาพทางเพศ ผู้ชายบางคนจะเริ่มมีอาการตั้งแต่อายุ 30 ปีขึ้นไป โดยมักจะเริ่มรู้สึกว่า ใช้งานได้ไม่เต็มที่ เช่น เวลาพยายามทำกิจกรรมทางเพศ แต่มีไม่ได้ หรือมีแล้วแต่ไม่เหมือนเดิม นี่ถือเป็นสัญญาณเริ่มต้น แต่ส่วนมากมักจะเริ่มเกิดกับเพศชายที่มีอายุ 50 - 60 ปีขึ้นไปมากกว่า

อย่างไรก็ตามภาวะเสื่อมสมรรถภาพทางเพศ ไม่ได้เกี่ยวข้องกับความบ่อยของการมีเพศสัมพันธ์ เพราะฉะนั้นใครที่ใช้งานมากไม่จำเป็นว่าจะต้องมีปัญหาสุขภาพทางเพศ หรือเกิดขึ้นเร็วกว่าคนอื่น ในทางกลับกันมีผลการศึกษาออกมาด้วยซ้ำว่า การมีเพศสัมพันธ์สม่ำเสมอสามารถลดโอกาสการเกิดโรคมะเร็งต่อมลูกหมากได้อีกด้วย

“ภาวะเสื่อมสมรรถภาพทางเพศ” กับการค้นพบโรค

ภาวะเสื่อมสมรรถภาพทางเพศ สามารถเป็นต้นต่อในการไปตรวจค้นพบโรคจากอวัยวะอื่นๆร่วมด้วย เช่น โรคหัวใจ ค้นพบว่าเส้นเลือดของอวัยวะเพศชายมันเล็กพอๆกับเส้นเลือดหัวใจ ถ้ามีการหย่อนสมรรถภาพทางเพศก็มีโอกาสค้นพบโรคที่หัวใจได้ด้วยถ้าเส้นเลือดหัวใจผลิตเลือดไปเลี้ยงไม่พอ

ทั้งนี้สำหรับผู้ป่วยเพศชายอายุ 50-60ปีขึ้นไป ควรระวังโรคมะเร็งต่อมลูกหมากด้วย ควรตรวจสุขภาพประจำปีเพื่อเช็ก เพราะเป็นอวัยวะระบบเดียวกัน

“ต่อมลูกหมากโต” กับผลข้างเคียงจากภาวะเสื่อมสมรรถภาพทางเพศ

ยืนยันว่าต่อมลูกหมากโต ไม่ใช่ผลข้างเคียงเสื่อมสมรรถภาพทางเพศ แต่ในทางกลับกัน การโตของต่อมลูกหมากในบางระยะนั้นมีผลกระทบเสื่อมสมรรถภาพทางเพศ และ การรับประทานยารักษาต่อมลูกหมากโตบางตัว จะทำให้มีผลประทบเสื่อมสมรรถภาพทางเพศได้

“ต่อมลูกหมากโต” คืออะไร

ต่อมลูกหมากโต มักเกิดขึ้นกับเพศชายอายุ 50-60 ปีขึ้นไป ซึ่งมักมีอาการ ได้แก่

• ปัสวะไม่พุ่ง ปัสวะลำบาก
• ตื่นมาเข้าห้องน้ำบ่อยๆตอนกลางคืน
• กลั้นปัสวะไม่ค่อยได้

ส่วนการวินิจฉัยต่อมลูกหมากโต หากผู้ป่วยมีอาการปัสวะลำบาก แพทย์จะตรวจร่างกาย สอบถามประวัติ และตรวจทางห้อง Lab หรือบางเคสก็ต้องมีการอัลตร้าซาวด์เพื่อวินิจฉัย เจาะเลือดดูค่า PSA (ผู้ป่วยเพศชายอายุ 50-60 ปีขึ้นไปการตรว PSA นั้นมีความสำคัญมากเพราะเป็นการคัดกรองมะเร็งต่อมลูกหมาก)

อย่างไรก็ตามโรคมะเร็งต่อมลูกหมากกับต่อมลูกโตเป็นคนละโรคกัน แต่สามารถเกิดร่วมกันได้

การรักษา “ภาวะเสื่อมสมรรถภาพทางเพศ”

การรักษาภาวะเสื่อมสมรรถภาพทางเพศมีหลากหลายรูปแบบ ซึ่งเปลี่ยนตามยุคตามสมัย ได้แก่

• การผ่าตัด (ดั้งเดิม) : มีผลข้างเคียงคือไม่สามารถปล่อยน้ำอสุจิออกมาได้
• การรักษาด้วยไอน้ำ : เป็นการเอาไอน้ำเข้าไปฉีด เพื่อลดขนาดของเนื้อต่อมลูกหมากลง รูเปิดกว้างขึ้นก็สามารถทำให้ปัสวะโล่งขึ้น
• การรักษาด้วยการใช้ขนลวดตัวถ่างขยายต่อมลูกหมาก : เป็นการนำขนลวดเข้าไปตรงรูตรงกลางเพื่อถ่างขยายดูด้านกว้างขึ้น เพื่อให้ปัสวะออกมาง่ายขึ้น
• ฉีดยาไปที่ตัวอวัยวะเพศ

วิธีการป้องกัน  “ภาวะเสื่อมสมรรถภาพทางเพศ”

เมื่อเข้า 30 หรือ 40 ปี ผู้ชายจะเริ่มเสื่อมสมรรถภาพทางเพศแล้ว แต่วิธีที่ดีที่สุดที่จะช่วยชะลอหรือป้องกัน ได้แก่

•  การออกกำลังกาย การดูแลสุขภาพ
•  การรับประทานอาหารที่มีประโยชน์
•  การการพักผ่อน นอนหลับให้เพียงพอ
•  หมั่นตรวจสุขภาพประจำปี

ดังนั้นแล้วสำหรับผู้ชาย อย่าให้อดีตที่เคยสุดต้องมาอยู่ที่หมอ แนะให้หมั่นตรวจเช็กสุขภาพร่างกาย เรื่องสุขภาพทางเพศไม่น่าอายอย่างที่คิด หากรีบแก้ กินดีๆ หมั่นดูแลตัวเอง แล้วชีวิตที่ดีคงรออยู่ไม่ไกล