“ผู้สูงอายุ” การเปลี่ยนแปลงของร่างกาย แนะวิธีการปรับตัวตามวัย
รู้หรือไม่? เมื่อเริ่มเข้าสู่วัย60+ การเปลี่ยนแปลงทางด้านร่างกายและจิตใจมากมายจะเกิดขึ้น เผยวิธีการปรับตัว ยอมรับได้ ช่วยป้องกันโรคทางกายและใจได้มากกว่า
ผู้สูงอายุเป็นวัยที่มีการเปลี่ยนแปลงทั้งทางร่างกายและจิตใจ ซึ่งความเสื่อมของร่างกายที่โดยทั่วไปเริ่มเมื่อวัย 30 การเตรียมความพร้อมในการดูแลสุขภาพที่ถูกต้อง ถูกสุขลักษณะตั้งแต่ต้น จะช่วยลดโอกาสการเกิดโรคหรือปัญหาด้านสุขภาพต่างๆ ได้ วิธีหนึ่งที่ช่วยป้องกันโรคได้ก็คือ การตรวจสุขภาพประจำปีและการรับวัคซีนป้องกันโรคให้ครบถ้วน และนอกจากการดูแลกายแล้ว การดูแลสภาพจิตใจ ปรับตัวให้ดีก็ช่วยได้เช่นกัน
“ผู้สูงอายุ” ควรวางแผนตรวจสุขภาพอะไรบ้าง? เผยโรคเรื้อรังที่พบบ่อย!
ตรวจสุขภาพผู้สูงอายุแบบเชิงลึกคืออะไร ดีต่อผู้สูงวัยมากน้อยแค่ไหน?
Freepik/Lifestylememory
ดูแลผู้สูงอายุ

การเปลี่ยนแปลงในด้านต่างๆของผู้สูงอายุ
- ด้านร่างกาย เริ่มอ่อนแอลงและเชื่องช้า ร่างกายเสื่อมโทรม บางรายมือเท้าสั่นการทรงตัวไม่ดี ปรับตัวกับสภาพดินฟ้าอากาศได้ยาก ทำให้เจ็บป่วยได้ง่าย
- ด้านสมอง หลงลืมง่าย ความจำไม่ดี แต่เหตุผลและความสุขุมรอบคอบอาจจะยังคงที่
- ด้านอารมณ์ อารมณ์ไม่คงที่ อ่อนไหวง่าย มักเอาแต่ใจตัวเอง โกรธง่าย ชอบบ่น แต่บางรายใจดี ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับสภาพเศรษฐกิจในครอบครัวด้วย
- ด้านการเข้าสังคมส่วนมากก็มักจะฝากจิตใจไว้กับวัดและยึดศาสนาเป็นที่พึ่ง บางรายอาจต้องหาเลี้ยงชีพอยู่หรือเลี้ยงดูลูกหลานในบ้าน จึงกลายเป็นที่พึ่งและเพื่อนเล่นของลูกๆหลาน ซึ่งก็ช่วยให้มีความสุขเพลิดเพลิน
ปัญหาที่พบได้บ่อยในวัยนี้
- ปัญหาเกี่ยวกับสุขภาพร่างกายไม่ค่อยดี
- ปัญหาด้านจิตใจ วิตกกังวลกลัวลูกหลานจะไม่เลี้ยงดู กลัวถูกทอดทิ้ง
- การเกษียณอายุต้องออกจากหน้าที่การงาน และไม่มีงานอดิเรกทำ ทำให้รู้สึกว่าตนเองไร้ค่า หมดศักดิ์ศรี
- การสูญเสียคู่ชีวิต ญาติมิตร ลูกหลาน ทำให้เกิดความว้าเหว่
- การถูกทอดทิ้ง ปัจจุบันครอบครัวมักแยกอยู่อย่างอิสระจากพ่อแม่ ทำให้ผู้สูงอายุรู้สึกเดียวดาย จิตใจหดหู่ ไม่ได้รับการดูแล ขาดเพื่อนฝูง ขาดการสังสรรค์
- ผู้สูงอายุมักคิดถึงแต่เรื่องในอดีตด้วยความเสียดาย และคิดถึงปัจจุบันด้วยความหวาดกลัว และวิตกกังวลต่ออนาคต
6 วัคซีนที่จำเป็นสำหรับผู้สูงอายุ ลดอัตราการป่วยหนักและเสียชีวิต
การปรับตัวให้มีความสุขให้วัยสูงอายุ
- เตรียมใจยอมรับความรู้สึกสูญเสีย ซึ่งเป็นธรรมชาติของวัยนี้ เช่น สูญเสีย สมรรถภาพทางกาย ลูกหลานจากไปมีครอบครัว บางครั้งก็ต้องอยู่ตามลำพังคนเดียว
- ไม่ควรคิดถึงอายุซึ่งลวงเลยไป หรืออดีตด้วยความวิตกกังวล
- อย่าคิดว่าอายุทำให้คนอื่นเลิกเคารพตัวท่าน
- เมื่อมีปัญหาควรปรึกษาขอคำแนะนำจากคนอื่นบ้าง
- ไม่ควรจริงจังกับชีวิตมากนัก ดำเนินชีวิตด้วยทางสายกลาง
- ดูแลสุขภาพอนามัยให้ถูกต้อง เช่น รับประทานอาหารที่มีคุณค่า มีโปรตีนปานกลาง ไขมันน้อย วิตามินมาก ปริมาณต้องจำกัด
- การออกกำลังกายให้เหมาะสมกับวัยและควรพบแพทย์เพื่อตรวจสุขภาพอย่างสม่ำเสมอเป็นประจำทุกปี ปีละ 2 ครั้ง
- ควรมีการพักผ่อนหย่อนใจและทำงานอดิเรกเล็กๆน้อยๆเพื่อความเพลิดเพลินใจ เช่น ปลูกต้นไม้ ไปวัดทำบุญศึกษาและปฏิบัติธรรม
- ในขณะที่ยังทำงานมีรายได้ก็ควรออมทรัพย์ไว้เพื่อจุนเจือใช้จ่ายในวัยสูงอายุจะได้ ไม่ลำบาก และไม่เป็นภาวะแก่ผู้อื่น จะได้พึ่งตนเองได้
- ไม่เก็บตัว แยกตัวอยู่ตามลำพังคนเดียว ควรร่วมวงสนทนากับเพื่อนๆและผู้อื่นที่มีอายุอ่อนกว่าจะช่วยทำให้สังคมของผู้สูงอายุกว้างมากขึ้น และยอมรับการเปลี่ยนแปลงใหม่ๆในสังคม ช่วยให้ปรับตัวเข้ากับเหตุการณ์ปัจจุบันได้อย่างมีความสุข ไม่คับข้องใจมากนัก
- การยอมรับว่าตนเองเป็นผู้สูงอายุ ประพฤติปฏิบัติตัวให้ถูกกาลละเทศะและเหมาะสม กับอายุ
- ไม่ทำตนให้เป็นที่รำคาญแก่ลูกหลานหรือผู้อื่น ไม่จู้จี้ขี้บ่น ซึ่งจะช่วยให้ผู้อื่นและ ลูกหลานรู้สึกอบอุ่นและอยากเข้ามาใกล้ชิด
- ทำจิตใจให้เบิกบานอยู่เสมอ รู้จักสร้างอารมณ์ขัน
ลูกหลานญาติพี่น้อง มีส่วนสำคัญยิ่งในการช่วยให้ผู้สูงอายุปรับตัวได้อย่างมีความสุขยิ่งขึ้น โดยให้เกียรติแก่ผู้สูงอายุ และช่วยให้ท่านมีความภาคภูมิใจ เช่น เวลามีปัญหาอาจไปขอคำปรึกษาจากท่าน ไม่ดูถูกเหยียดหยามท่าน ให้การเลี้ยงดูและดูแลท่าน คอยถามไถ่เวลาท่านไม่สบายพาไปหาหมอ ช่วยดูแลจนหายจากเจ็บไข้ ท่านจะได้รู้สึกว่าตนเองยังมีความสำคัญต่อครอบครัวยังมีคนห่วงใยคอยดูแลอยู่ทำให้ท่านรู้สึกอบอุ่นใจ และสามารถที่จะต่อสู้กับชีวิตในวัยสูงอายุได้ดีขึ้น
ขอบคุณข้อมูลจาก : คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล
6 วัคซีนที่จำเป็นสำหรับผู้สูงอายุ ลดอัตราการป่วยหนักและเสียชีวิต
10 วิธีดูแลผู้สูงอายุที่ช่วยเหลือตัวเองได้น้อย ลดการหกล้ม โรคแทรกซ้อน