โรคพิษสุนัขบ้า ไม่มีทางรักษา แต่ป้องกันได้ เผยวิธีล้าแผลเบื้องต้นหากถูกสัตว์กัด
จากกรณีที่ ปศุสัตว์ขอนแก่น ประกาศเขตโรคระบาดชั่วคราว หลังพบโคเนื้อและสุนัขในพื้นที่ติดเชื้อพิษสุนัขบ้า เผยอาการเริ่มแรก และวิธีป้องกันและการล้างแผลเบื้องต้นหากถูกสัตว์หรือสุนัขกัด รีบรับการฉีดวัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้าและวัคซีนป้องกันบาดทะยัก
โรคพิษสุนัขบ้า (Rabies) หรือที่เรียกติดปากกันว่า โรคกลัวน้ำ เป็นโรคที่เกิดจากเชื้อไวรัสพิษสุนัขบ้า ซึ่งสามารถติดต่อได้ทางน้ำลายของสัตว์ที่ติดเชื้อโดยเข้าทางบาดแผลที่ถูกกัด ข่วน หรือเพียงแค่สัตว์ที่ติดเชื้อมาเลียบาดแผลของเราก็ทำให้ติดเชื้อได้ นอกจากนี้เชื้อไวรัสพิษสุนัขบ้ายังสามารถเข้าได้ทางเยื่อเมือก เช่น เยื่อบุตา เยื่อบุจมูก ปาก แม้ว่าเยื่อเมือก จะไม่มีบาดแผลก็ตาม
มากกว่า 90% ของโรคพิษสุนัขบ้าในประเทศไทยเกิดจากถูกสุนัขกัด
งดกินเนื้อดิบ! ขอนแก่นพบโคเนื้อ-สุนัข ติดเชื้อโรคพิษสุนัขบ้า ประกาศเขตโรคระบาดชั่วคราว
รายแรกในรอบ 3 ปี! อังกฤษพบผู้ป่วยไข้หวัดนก H5N1 สธ.ย้ำไทยยังเสี่ยงต่ำ

แต่ในความเป็นจริงแล้วสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมทุกชนิดไม่ว่าจะเป็น แมว ค้างคาว ลิง ชะนี กระรอก หนู หรือแม้แต่ วัว ควาย ก็สามารถติดเชื้อ โรคพิษสุนัขบ้าได้เช่นกัน
อาการโรคพิษสุนัขบ้า แสดงในคน
- มีไข้ต่ำ เจ็บคอ เบื่ออาหาร อ่อนเพลีย ต่อมามีอาการคัน มักเริ่มจากบริเวณแผลที่ถูกกัด แสบๆ ร้อนๆ แล้วลามไปส่วนอื่น
- บางคนคันมากจนกลายเป็นแผลอักเสบ มีน้ำเหลือง
- ผู้ป่วยชายบางรายอาจจะมีอสุจิหลั่งออกมาโดยไม่รู้ตัว
- ผู้ป่วยหญิงอาจจะพบว่ามีอาการปวดเสียว บริเวณหน้าท้องคล้ายกับจะมีประจำเดือน
ต่อมากระสับกระส่าย กลัวแสง กลัวลม กลัวน้ำ คือมีอาการอยากดื่มน้ำแต่ดื่มไม่ได้ เพราะดื่มแล้วจะสำลักและแสบหลอดลมอย่างรุนแรง ผู้ป่วยจึงแสดงอาการกลัวน้ำทุกครั้งที่มีผู้ยื่นขันน้ำ หรือแก้วน้ำให้ดื่ม ไม่ชอบเสียงดัง เพ้อเจ้อ หลุกหลิก กระวนกระวาย หนาวสั่น ตามักเบิกโพลงบ่อยๆ บางครั้งเข้าใจผิดคิดว่าเป็นโรคทางจิต มีอาการกลืนลำบาก น้ำลายไหล บางคนอาจปวดเท้าและขา กล้ามเนื้อกระตุก แน่นหน้าอก หายใจไม่ออก หรืออาจชักเกร็ง อัมพาต หมดสติ และตายในที่สุด
แต่ในระยะหลัง โดยเฉพาะตั้งแต่ปี พ.ศ. 2540 เป็นต้นมา พบว่าผู้ป่วยมีอาการได้หลากหลายขึ้น ไม่ต่ำกว่า 1 ใน 3 จะมีอาการแขนขาอ่อนแรง อัมพาต หายใจไม่ได้และเข้าใจผิดว่าเป็น ประสาทอักเสบ ทำให้รักษาผิดโดยนำไปเปลี่ยนถ่ายน้ำเหลือง รวมทั้งมีอาการหลากหลายอื่นๆ เช่น ไม่มีความแปรปรวนทางอารมณ์ ไม่เอะอะอาละวาด แต่กลับมีหัวใจเต้นผิดปรกติเป็นอาการเด่น หรือมีแขนอ่อนแรงเพียงอย่างเดียวโดยไม่มีความผิดปรกติอื่นๆ
วิธีป้องกันโรคพิษสุนัขบ้า
โรคพิษสุนัขบ้าสามารถป้องกันได้ หากผู้ที่ติดเชื้อได้รับวัคซีน Post-Exposure Prophylaxis (PEP) หลังจากถูกสุนัขหรือสัตว์อื่นๆ กัด แต่มีคนจำนวนไม่น้อยที่ไม่ตระหนักถึงอันตราย ปล่อยปละละเลย ไม่มาพบแพทย์ ไม่รับการฉีดวัคซีน จึงทำให้เกิดอันตรายถึงชีวิตได้ เพราะไม่มีใครรอดชีวิตจากการติดเชื้อโรคพิษสุนัขบ้า หรือถ้าหากมีปาฏิหาริย์รอดมาได้ก็ต้องอยู่ในอาการโคม่าหลายอาทิตย์และได้รับความความเสียหายทางระบบประสาทอย่างรุนแรงซึ่งต้องใช้เวลาหลายปีในการฟื้นฟู
เพราะฉะนั้นถ้าถูกสุนัขจรจัด หรือ แม้แต่สัตว์เลี้ยงในบ้านกัด ข่วน หรือเลียแผล ควรปฏิบัติตามขั้นตอนดังนี้
- ล้างแผลด้วยน้ำสะอาดและสบู่ ให้ลึกถึงก้นแผลเป็นเวลาอย่างน้อย 15 นาที
- เช็ดแผลด้วยแอลกอฮอล์ เบตาดีน หรือ น้ำเกลือ ที่มีอยู่ที่บ้าน
- รีบมาพบแพทย์ เพื่อรับการฉีดวัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้าและวัคซีนป้องกันบาดทะยัก โดยเฉพาะเมื่อสัตว์ที่กัดไม่มีเจ้าของหรือกัดแล้วหนี ไม่จำเป็นที่จะต้องรอให้สุนัขหรือสัตว์ที่กัดแสดงอาการหรือตายก่อน
(หากถูกสุนัขกัดควรกักสุนัขเพื่อสังเกตอาการเป็นเวลาอย่างน้อย 10 วัน การสังเกตว่าสัตว์ตัวใดมีเชื้อโรคพิษสุนัขบ้า สามารถดูว่าสัตว์ตัวนั้นมีอาการอาละวาด ดุร้าย หรือไม่ แต่สัตว์ที่ติดเชื้อบางตัวอาจดูเชื่อง เซื่องซึม ลิ้นห้อย และสุดท้ายไม่ว่าจะเป็นอาการใด สัตว์ที่ติดเชื้อก็จะตายในที่สุด)
ปกติแล้วอัตราเฉลี่ยในการได้รับเชื้อจนแสดงอาการของโรคพิษสุนัขบ้าคือประมาณ 30-90 วัน แต่บางรายอาจใช้เวลาสั้นกว่านั้น เพียงแค่ไม่ถึง 10 วัน หรือบางรายอาจใช้เวลานานเป็นปีก็มี เชื้อไวรัสเรบีส์จะแพร่กระจายไปตามเซลล์ประสาทไปยังสมองและเพิ่มจำนวนขึ้นอย่างรวดเร็ว อาการที่แสดงออกจะมีหลากหลาย ทั้งไข้สูง กระสับกระส่าย กลืนลำบาก หายใจลำบาก กลัวน้ำ กลัวลม ชัก เกร็ง และโคม่าในที่สุด
วัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้า (PEP)
ในปัจจุบันมีประสิทธิภาพและความปลอดภัยสูง ผลข้างเคียงที่อาจพบได้จากการฉีดวัคซีน คือ ปวดบริเวณที่ฉีดยาหรือมีไข้ต่ำๆ ซึ่งควรจะหายไปได้เองใน 24-48 ชั่วโมงคล้ายกับวัคซีนอื่นๆ ซึ่งเป็นอาการปกติของการฉีดวัคซีนทั่วไป ส่วนใหญ่แล้วจะไม่พบอาการแพ้ตัวยารุนแรง วัคซีน PEP 1 ชุดประกอบด้วยวัคซีน 5 เข็ม ควรฉีดให้ครบตามที่แพทย์แนะนำ ทางที่ดีที่สุดที่จะหลีกเลี่ยงจากโรคพิษสุนัขบ้าคือ การป้องกันไม่ให้ได้รับเชื้อโรคพิษสุนัขบ้า สามารถทำได้โดย ไม่เข้าไปใกล้ หรือเล่นกับสัตว์ที่ไม่มีเจ้าของ ไม่เข้าไปแหย่สัตว์หรือทำร้ายสัตว์เพื่อความสนุกสนาน และควรนำสุนัข หรือแมว ที่เลี้ยงไปรับวัคซีนโรคพิษสุนัขบ้าทุกปี หากถูกสุนัขหรือสัตว์กัด โดยเฉพาะสัตว์ที่ไม่มีเจ้าของ อย่าชะล่าใจ ควรรีบมาพบแพทย์เพื่อรับการรักษาและฉีดวัคซีน เพื่อให้ห่างไกลจากโรคพิษสุนัขบ้า โรคที่ไม่มีทางรักษาแต่สามารถป้องกันได้
ขอบคุณข้อมูลจาก : โรงพยาบาลสมิติเวช สุขุมวิท และ กระทรวงสาธารณสุข กรมควบคุมโรคติดต่อ