ท้องเสียก่อนมีประจำเดือนของสาวๆ เกิดจากอะไร อันตรายหรือไม่?
เรื่องที่สาว ๆส่วนใหญ่เข้าใจดี ถึงอาการท้องเสียก่อนมีประจำเดือน ซึ่งชวนหน้าหงุดหงิด เผยสาเหตุ ไขข้อสงสัย อันตรายหรือไม่?
ปัญหาสำหรับผู้หญิงที่เป็นในทุกเดือน ในช่วงที่มีประจำเดือน มักมาคู่กับอาการท้องเสีย ที่มักเกิดก่อนการมีประจำเดือน ซึ่งทางการแพทย์ระบุไว้ว่า เกิดจากการเปลี่ยนแปลงของ ฮอร์โมนเอสโตรเจนและโปรเจสเตอโรนของเพศหญิงที่ทำให้ระดับเซโรโทนินเพิ่มขึ้น จึงส่งผลกระทบต่อระบบทางเดินอาหารให้เกิดความแปรปรวน
ขณะที่สาวๆ บางคนที่ประจำเดือนมามาก จะทำให้เลือดไหลไปที่ท่อรังไข่และอุ้งเชิงกราน ซึ่งส่งผลต่อระบบขับถ่าย เป็นการกระตุ้นให้ท้องเสียได้

นอกจากนี้อาการท้องเสียก่อนเป็นประจำเดือนเป็นอาการของ PMS (Premenstrual syndrome) หรืออาการผิดปกติก่อนเป็นประจำเดือน ซึ่ง 80% ของสาวๆ มักประสบกับปัญหานี้ โดยเฉพาะในช่วงอายุ 20-40 ปี อาการที่สังเกตได้คือ การรู้สึกเหมือนว่าตัวเองป่วย ไม่สบายตัว มีอารมณ์หงุดหงิด เหวี่ยงวีนง่ายกว่าปกติ และมักเป็นในช่วงก่อนมีประจำเดือนประมาณ 5-11 วัน ซึ่งอาการเหล่านี้จะเริ่มดีขึ้นและหายได้เองหลังประจำเดือนมาแล้ว 4-7 วัน
บรรเทาอาการ PMS ต้องทำอย่างไร?
- ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ
- กินอาหารที่มีประโยชน์ หลีกเลี่ยงเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ อาหารที่มีรสเค็มหรือหวานจัด
- เมื่อมีความอยากอาหารบ่อย ให้แบ่งอาหารเป็นมื้อเล็กๆ แล้วกินวันละหลายๆ มื้อแทน ป้องกันการกินเยอะเกินไป
- นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ
- หากรู้ตัวว่าเป็นคนเครียดง่าย ให้ทำกิจกรรมที่ชอบหรือที่ทำแล้วรู้สึกผ่อนคลาย
นอกจากนี้ยังเสี่ยง พัฒนาเป็น PMDD (Premenstrual Dysphoric disorder) หรือกลุ่มอาการอารมณ์ผิดปกติก่อนมีประจำเดือน ซึ่งสังเกตได้ว่ากลุ่มนี้จะมีอาการก้าวร้าว ซึมเศร้า อยากฆ่าตัวตาย โดยมีอารมณ์รุนแรงมากกว่า PMS ใครที่เป็นแบบนี้หรือสังเกตเห็นคนใกล้ตัวมีอาการแบบนี้ ควรรีบพบแพทย์เพื่อรับการวินิจฉัยและรักษาอย่างเหมาะสม
ขอบคุณข้อมูลจาก : โรงพยาบาลเปาโล โชคชัย 4