คัดกรอง 3 มะเร็งยอดฮิต ขั้นตอนและการเตรียมตัว พบเร็วเพิ่มโอกาสรักษา
แพทย์เผยวิธีคัดกรองโรคมะเร็งยอดฮิต โรคมะเร็งเต้านม โรคมะเร็งลำไส้ใหญ่ โรคมะเร็งปากมดลูก ป้องกันเซลล์มะเร็งลุกลามเพิ่มโอกาสการรักษาได้มากขึ้น ก่อนลุกลามไม่รู้ตัว
โรคมะเร็ง (Cancer) เกิดขึ้นจากการกลายพันธุ์ของยีน หรือสารพันธุกรรมที่อยู่ในเซลล์ ทำให้เซลล์มีลักษณะผิดปกติแตกต่างจากเซลล์ทั่วไป ทำให้ร่างกายควบคุมไม่ได้ทั้งยังสามารถมีชีวิตอยู่นานกว่าเซลล์ปกติทั่วไป โดยเซลล์เหล่านี้แพร่กระจายไปทั่วร่างกาย ส่งผลให้อวัยวะต่างๆ ในร่างกายทำงานผิดปกติและเป็นสาเหตุของการเสียชีวิตในที่สุด
การตรวจคัดกรองโรคมะเร็ง (Cancer Screening or Cancer Early Detection) เป็นวิธีการรักษาโรคมะเร็งที่ทางการแพทย์นิยมใช้

เนื่องจากเป็นการตรวจเพื่อค้นหาโรคมะเร็งตั้งแต่ก่อนเป็นโรคจนถึงระยะเริ่มต้น แม้ว่าผู้ป่วยจะยังไม่มีอาการที่แสดงออกมา ส่งผลให้มีอัตราการอยู่รอดจากโรคมะเร็งภายหลังการรักษาเพิ่มขึ้น หรือสามารถลดอัตราการเสียชีวิตจากโรคมะเร็งได้มากขึ้น แม้ว่าการตรวจคัดกรองโรคมะเร็งจะยังไม่สามารถคัดกรองโรคมะเร็งได้ทุกชนิด หลายๆ โรคอาจยังไม่สามารถตรวจเจอได้ ปัจจุบันที่สามารถทำการตรวจคัดกรองโรคมะเร็งได้ เช่น โรคมะเร็งเต้านม โรคมะเร็งลำไส้ใหญ่ โรคมะเร็งปากมดลูก เป็นต้น โดยการตรวจคัดกรองโรคมะเร็งแต่ละชนิดจะมีความถี่ในการตรวจที่แตกต่างกัน ดังนี้
- การตรวจคัดกรองโรคมะเร็งเต้านม (Breast Cancer Screening)
การตรวจหาเซลล์มะเร็งโดยการทำเอกซเรย์หรือที่เรียกว่าการตรวจแมมโมแกรม (Mammogram) ผู้ป่วยที่มีปัจจัยความเสี่ยงต่อการเกิดโรคมะเร็งเต้านม ได้แก่ มีประจำเดือนตั้งแต่อายุน้อย ไม่มีบุตร เคยได้รับการฉายรังสีที่เต้านม ซึ่งแพทย์ได้แนะนำให้ผู้ป่วยที่มีอายุตั้งแต่ 50 ปี ขึ้นไป เข้าพบแพทย์เพื่อทำการตรวจคัดกรอง
- การตรวจคัดกรองโรคมะเร็งปากมดลูก (Cervical Cancer Screening)
เป็นการตรวจภายในหรือที่เรียกว่า การตรวจแปปสเมียร์ (Pap Smear หรือ Pap Test) เพื่อตรวจดูความผิดปกติของเซลล์ที่ปากมดลูก โดยจะนำเซลล์เหล่านั้นมาตรวจเพื่อค้นหาเซลล์มะเร็ง
- การตรวจคัดกรองโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่ (Colorectal Cancer Screening)
โดยการส่องกล้องตรวจภายในลำไส้ ผู้ป่วยที่มีความเสี่ยงต่อการเป็นโรคโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่สามารถพบได้ในทุกช่วงอายุ ซึ่งจะพบมากในกลุ่มคนอายุ ตั้งแต่ 50 ปี เป็นต้นไป
ตรวจคัดกรองโรคมะเร็งมีผลข้างเคียงหรือไม่ ?
- คัดกรองโรคมะเร็งเต้านมหรือแมมโมแกรม (Mammogram) ผู้ป่วยอาจจะมีอาการเจ็บเล็กน้อยในขณะกำลังตรวจคัดกรอง ซึ่งเป็นผลกระทบจากการบีบของเครื่องเอกซเรย์
- คัดกรองโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่ เนื่องจากเป็นการตรวจด้วยวิธีการส่องกล้อง จึงต้องมีการเตรียมตัวคนไข้ก่อนการตรวจ คือ ต้องมีการทำความสะอาดลำไส้โดยการทานยาระบาย เพื่อนำเอาอุจจาระในลำไส้ออกมาให้หมด ซึ่งอาจจะทำให้คนไข้เกิดอาการอ่อนเพลียได้
การตรวจคัดกรองโรคมะเร็งในเพศชายและเพศหญิงจะมีความเสี่ยงที่แตกต่างกัน เช่น โรคมะเร็งเต้านม เพศชายก็มีความเสี่ยงเป็นมะเร็งเต้านมได้ แต่เพศหญิงมีความเสี่ยงเยอะกว่า ในส่วนของโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่ก็มีโอกาสเป็นได้ทั้ง 2 เพศ โดยส่วนใหญ่แพทย์มักจะแนะนำผู้ป่วยที่อายุ ตั้งแต่ 50 ปี ขึ้นไป จัดอยู่ในกลุ่มผู้ป่วยที่มีความเสี่ยงสูง ควรเข้ามาพบแพทย์เพื่อทำการตรวจคัดกรองโรคมะเร็ง
การเตรียมความพร้อมก่อนตรวจคัดกรอง
มะเร็งปากมดลูก
- ตรวจหนึ่งสัปดาห์หลังหมดประจำเดือน
- ก่อนได้รับการตรวจผู้ป่วยควรงดการมีเพศสัมพันธ์ เหน็บยาในช่องคลอด หรือสวนล้างช่องคลอด 24-48 ชั่วโมง
มะเร็งเต้านม
- สามารถรับประทานอาหาร และเครื่องดื่มได้ตามปกติ
- ไม่ควรทาโลชั่น แป้งฝุ่น รวมไปถึงสเปรย์ต่างๆ ที่บริเวณเต้านมและรักแร้ สิ่งเหล่านี้อาจทำให้เกิดจุดบนภาพ ทำให้การวินิจฉัยคลาดเคลื่อนได้
- หากเคยตรวจแมมโมแกรม (Mammogram) มาก่อน ควรนำผลการตรวจเพื่อเปรียบเทียบความแตกต่าง
มะเร็งลำไส้ใหญ่
- ควรงดอาหารหรือควบคุมอาหารก่อนเข้ารับการตรวจ
- ทานอาหารที่มีกากใยน้อยลงและทานยาระบาย เพื่อขับสิ่งต่างๆ ในลำไส้ใหญ่ออกมา
การเป็นโรคมะเร็งขึ้นอยู่ที่ตัวบุคคล อาจมีส่วนเกี่ยวข้องกับพันธุกรรมหรือคนในครอบครัว เพราะฉะนั้นตัวเราเองก็มีความเสี่ยงจะเป็นโรคมะเร็ง และคนที่ไม่มีประวัติคนในครอบครัวป่วยเป็นโรคมะเร็งเลย ก็ไม่ใช่ว่าจะไม่เสี่ยงนะครับ ดังนั้นเราควรหมั่นดูแลสุขภาพร่างกาย ด้วยการตรวจสุขภาพเป็นประจำทุกปี
ขอบคุณข้อมูล : โรงพยาบาลพญาไท 2