ความอ้วน ไม่ใช่แค่เสียสุขภาพแต่เสี่ยง “หมอนรองกระดูกสันหลังเสื่อม”
“อ้วน” ปัญหากวนใจของคนทุกเพศทุกวัย และรู้หรือไม่ ? นอกจากจะบั่นทอนสุขภาพแล้วยังเสี่ยงเป็น “โรคหมอนรองกระดูกเสื่อม” ด้วย
การมีน้ำหนักตัวเกิน หรือ โรคอ้วน ไม่เพียงแค่ส่งผลต่อบุคลิกภาพ แต่ยังเพิ่มโอกาสในการเกิดโรคต่างๆ ตามมาอีกเพียบ เช่นกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือด เส้นเลือดในสมองตีบ เสี่ยงต่อการเกิดอัมพฤกษ์ อัมพาต แขนขาอ่อนแรง และยังเพิ่มอัตราการเกิดโรคเบาหวานและความดันโลหิตสูงมากกว่าคนปกติ 2-10 เท่า และการที่มีน้ำหนักเกินนี้ ก็ยังทำให้ร่างกายต้องแบกรับน้ำหนักที่มากเกินไป จนทำให้เกิดอาการปวดหลังได้ ที่สำคัญ ยังมีโอกาสเสี่ยงในการเป็น “โรคหมอนรองกระดูกสันหลังเสื่อม” ได้อีก

โดยโรคหมอนรองกระดูกทับเส้นประสาท เป็นโรคที่เกิดจากหมอนรองกระดูกที่อยู่บริเวณกระดูกสันหลังถูกทำลายจนเสียหาย จากการได้รับบาดเจ็บ หรือ กระดูกเสื่อม ส่งผลให้หมอนรองกระดูกแตกและกระดูกอ่อนส่วนที่อยู่ภายในหมอนรองกระดูกโผล่ออกมากดทับเส้นประสาท ซึ่งอยู่ด้านหลังหมอนรองกระดูกจนทำให้มีอาการปวดเฉพาะที่ เช่น
- ปวดหลังไม่หาย
- ปวดบริเวณเอวด้านล่างลงมาถึงสะโพกหรือต้นขาด้านหลัง
หากกดทับเส้นประสาทผู้ป่วยจะมีอาการปวดขา ชา อ่อนแรง หรือเจ็บบริเวณแนวเส้นประสาทที่ถูกกดทับ ยิ่งกดทับมากขึ้นเท่าไร อาการปวดจะเพิ่มมากขึ้น และในบางคนอาจรู้สึกปวดตลอดเวลา
อันที่จริง หมอนรองกระดูกสันหลังเสื่อม ไม่ต้องอ้วน..ก็เป็นได้
แน่นอนว่าคนที่มีน้ำหนักตัวมาก ย่อมมีความเสี่ยงต่อการเกิดโรคหมอนรองกระดูกสันหลังเสื่อม แต่นั่นก็ไม่ได้หมายความว่า คนที่มีน้ำหนักตัวปกติแล้วจะรอดจากโรคนี้แบบร้อยเปอร์เซ็นต์ เพราะถ้าคุณเป็นคนที่นั่งทำงานหน้าจอคอมพิวเตอร์เป็นเวลานานๆ ยกของหนัก เดิน ยืน หรือ นั่งผิดท่า เล่นกีฬารุนแรง ไม่ออกกำลังกายเลย หรือแม้แต่อายุที่เพิ่มมากขึ้น ก็ทำให้มีความเสี่ยงในการเกิดโรคหมอนรองกระดูกทับเส้นประสาทได้เหมือนกัน
ถึงจะ Big Size ก็ผ่าตัดแผลเล็กได้นะ!
น้ำหนักตัวที่มาก อาจมาพร้อมกับชั้นไขมันที่หนากว่าคนปกติ ทำให้ในการผ่าตัดแพทย์ต้องเปิดแผลใหญ่ ใช้เวลาในการผ่าตัดนาน แถมผู้ป่วยยังฟื้นตัวได้ช้าอีก ปัจจุบันมีเทคโนโลยีการผ่าตัดแผลเล็ก หรือ “Minimally Invasive Spine Surgery” มาใช้กับผู้ป่วยที่มีน้ำหนักตัวมากกว่า 100 กิโลกรัม โดยแพทย์จะทำการผ่าตัดกระดูกสันหลังด้วยกล้องขนาดเล็ก อย่าง Endoscope / Microscope ซึ่งช่วยให้ผู้ป่วยที่มีน้ำหนักมากได้รับการรักษาอย่างปลอดภัย ฟื้นตัวเร็ว เจ็บน้อย และแผลผ่าตัดมีขนาดเล็กเพียง 2-3 เซนติเมตรเท่านั้น และยังลดความเสี่ยงต่าง ๆ ที่อาจเกิดขึ้น เพราะการผ่าตัดโดยใช้กล้องช่วยให้แพทย์เห็นรายละเอียดได้ชัดเจนกว่าการผ่าตัดด้วยตาเปล่านั่นเอง
นอกจากการทานอาหารที่ถูกต้องเพื่อ “ลดน้ำหนัก” แล้ว ผู้ป่วยควรต้องทำการฟื้นฟูร่างกายตามคำแนะนำของแพทย์ ไม่ว่าจะเป็นการออกกำลังกายที่เหมาะสม เพื่อสร้างความแข็งแรงให้กับกล้ามเนื้อ การปรับเปลี่ยนท่าทางที่ใช้ในชีวิตประจำวัน เพื่อลดอัตราเสี่ยง หมอนรองกระดูกหลังเสื่อมเร็ว
ขอบคุณข้อมูลจาก : โรงพยาบาลพญาไท 3