"ไข้หวัดใหญ่" โรคยอดฮิตใน "เด็ก" ที่มาพร้อมฝน
อากาศที่เปลี่ยนแปลงบ่อย ส่งผลให้เด็กๆ มีอาการป่วยเป็นไข้หวัดและไข้หวัดใหญ่ได้ง่าย ป้องกันได้ด้วยวัคซีน
ไข้หวัดใหญ่เป็นโรคที่พบได้ตลอดปี แต่จะพบมากในฤดูฝนและฤดูหนาว เกิดได้กับทุกเพศทุกวัย ต้นเหตุคือไวรัสที่มีชื่อว่า “อินฟลูเอนซาไวรัส (Influenza virus)” ที่อยู่ในน้ำมูก น้ำลาย หรือเสมหะของผู้ป่วย และติดต่อผ่านการไอ จาม หรือหายใจรดกัน
รู้จักเชื้อไข้หวัดใหญ่เชื้อไข้หวัดใหญ่มี 3 ชนิดใหญ่ๆ เรียกว่า ชนิด A, B และ C โดยแต่ละชนิดยังแบ่งเป็นพันธุ์ย่อยๆ อีกมาก
เปิดเทอม On-site ห่างไกลโควิด-19 แนะวิธีตรวจ ATK เด็ก
เช็กอาการ"โควิด-ภูมิแพ้-ไข้หวัด-ไข้หวัดใหญ่" แยกความต่าง รักษาถูกวิธี
โดยการเกิดโรคแต่ละครั้งจะเกิดจากพันธุ์ย่อยเพียงพันธุ์เดียว เมื่อเป็นสายพันธุ์ไหนแล้วร่างกายจะมีภูมิต้านทานต่อสายพันธุ์นั้น จึงสามารถติดเชื้อสายพันธุ์ที่ไม่เคยเป็นได้ มีระยะฟักตัว 1-4 วัน
เชื้อไข้หวัดใหญ่บางสายพันธุ์อาจผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนกันทำให้เกิดการระบาดใหญ่ และการระบาดแต่ละครั้งจะตั้งชื่อตามแห่งต้นกำเนิด เช่น ไข้หวัดฮ่องกง, ไข้หวัดรัสเซีย, ไข้หวัดสิงคโปร์ และไข้หวัดใหญ่ A H1N1 2009 เป็นต้น
อาการต้องสงสัยว่าเด็กเป็นไข้หวัดใหญ่
- มีไข้สูงเกิดขึ้นทันทีทันใด ปวดศีรษะ ปวดเมื่อยตามตัว อ่อนเพลีย เบื่อ อาหาร ขมในคอ อาจมีอาการเจ็บในคอ คัดจมูก น้ำมูกไหล ไอแห้งๆ จุกแน่นท้อง แต่บางรายก็อาจไม่มีอาการคัดจมูก หรือเป็นหวัดเลยก็ได้
- ไข้สูงกว่าหวัดธรรมดา ประมาณ 38.5-40 องศาเซลเซียส ประมาณ 2-4 วัน แล้วค่อยๆ ลดลง
- ไอ และอ่อนเพลีย อาจจะเป็นอยู่ 1- 4 สัปดาห์ แม้ว่าอาการอื่นๆ จะทุเลา แล้วก็ตาม
- หน้าแดง เปลือกตาแดง อาจมีน้ำมูกใส คอแดงเล็กน้อยหรือไม่แดงเลย (ทั้งๆ ที่ผู้ป่วยอาจรู้สึกเจ็บคอ) ส่วนมากมักตรวจไม่พบอาการผิดปกติอื่นๆ
การรักษา
- คุณพ่อคุณแม่สามารถดูแลบุตรหลาน ใกล้เคียงกับการดูแลในขณะที่เด็กๆ เป็นไข้หวัด คือ นอนพักผ่อนมากๆ ห้ามทำงานหนัก ห้ามอาบน้ำเย็น ใช้ผ้าชุบน้ำเช็ดตัวเวลามีไข้สูง กินอาหารอ่อนๆ อย่างข้าวต้มและโจ๊ก รวมทั้งดื่มน้ำเปล่า น้ำหวานหรือน้ำผลไม้มากๆ
- ให้ยารักษาตามอาการ เช่น ยาลดไข้แก้ปวด ยาแก้ไอ ยาแก้หวัด เป็นต้น (ใน เด็กควรหลีกเลี่ยงการใช้แอสไพริน)
- กินยาต้านไวรัสไข้หวัดใหญ่ ซึ่งแพทย์จะพิจารณาการรักษาเป็นรายๆ ไป
- หากผู้ป่วยมีภาวะแทรกซ้อนจากการติดเชื้อแบคทีเรียร่วมด้วย อาจจะต้อง ได้รับยาปฏิชีวนะ โดยผู้ป่วยจะมีอาการน้ำมูกหรือเสมหะสีเหลืองหรือเขียว, ไซนัสอักเสบ, หูชั้นกลางอักเสบ, หลอดลมอักเสบหรือปอดอักเสบ เป็นต้น
- สังเกตอาการผิดปกติที่ต้องมาพบแพทย์ เช่น ไข้สูง ซึม หายใจหอบเหนื่อย ผิดปกติ หรือในผู้ป่วยภูมิคุ้มกันบกพร่อง/โรคเรื้อรัง/เด็กเล็กน้อยกว่า 2 ปี/ผู้สูงอายุ ควรดูแลสังเกตอาการอย่างใกล้ชิด
"วัคซีนไข้หวัดใหญ่-โควิด" คือทางรอด ลดอาการรุนแรงจากการติดเชื้อร่วมกัน
ชวนคนไทย“7กลุ่มเสี่ยง”ฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ฟรี เริ่ม 1 พ.ค.-31 ส.ค.นี้
ไข้หวัดใหญ่ในเด็กป้องกันได้
- รักษาร่างกายให้อบอุ่นอยู่เสมอ หลีกเลี่ยงการตากฝน การย่ำน้ำที่ชื้นแฉะ
- รับประทานอาหารและน้ำที่สะอาด สุก
- ควรล้างมือก่อนรับประทานอาหาร หลังเล่น และหลังถ่ายอุจจาระ
- หลีกเลี่ยงการใกล้ชิดกับผู้ป่วยที่มีโรคติดต่อทางเดินหายใจ
- หลีกเลี่ยงการไปในแหล่งชุมชนโดยเฉพาะช่วงที่มีการระบาดของโรค
- อย่าใช้ผ้าหรือมือสกปรกขยี้ตาหรือเช็ดตา ระวังอย่าให้น้ำสกปรกเข้าตา
- ฉีดวัคซีนตามนัด และ ตามคำแนะนำของแพทย์ ได้แก่ วัคซีนป้องกัน Rota Virus, วัคซีนป้องกันไข้สมองอักเสบ,วัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่ และวัคซีน IPD เป็นต้น
- สวมหน้ากากอนามัยเพื่อป้องกันการแพร่เชื้อ
เปิดวิธีปฏิบัติเมื่อ "เด็ก" ป่วยโควิด-19 ยาบรรเทาอาการระหว่างรอรักษา
ผู้ปกครองเช็กเลย "เด็ก" ฉีดวัคซีนโควิดอะไรได้บ้าง-จุดรับวัคซีน
ใครบ้างควรฉีดวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่
- เด็กอายุ 6-23 เดือน และผู้ที่ใกล้ชิดกับบุคคลที่ได้รับเชื้อไข้หวัดใหญ่
- ผู้ใหญ่อายุ 55 ปีขึ้นไป
- เด็กอายุ 6-18 ปี ที่มีโรคเบาหวาน, โรคไต, โรคเลือด, ภูมิคุ้มกันเสื่อม หรือต้องรักษาด้วยยาแอสไพริน เป็นประจำนานๆ
- ผู้ที่มีโรคเรื้อรัง เช่น โรคปอดเรื้อรัง, หอบหืด, โรคหัวใจ, โรคไต, เบาหวาน, ภูมิคุ้มกันบกพร่อง, ผู้พิการทางสมองช่วยเหลือตนเองไม่ได้, ผู้ที่อ้วนมาก
- ผู้ที่ต้องเข้ารับการรักษาเป็นผู้ป่วยในโรงพยาบาลอยู่เป็นประจำในปีที่ผ่านมา
- ผู้ป่วยที่เคยเป็นปอดอักเสบมาก่อน
- บุคคลากรทางการแพทย์, เจ้าหน้าที่ในห้องปฏิบัติการ, เจ้าหน้าที่ในสถานเลี้ยงเด็ก, สถานบริบาลคนชรา, สถานบำบัดผู้ป่วยโรคเรื้อรัง
- หญิงมีครรภ์ที่มีอายุครรภ์ตั้งแต่ 4 เดือนขึ้นไป โดยเฉพาะอย่างยิ่งในไตรมาสที่ 3 ของครรภ์
- นักทัศนาจร ที่จะเดินทางไปต่างถิ่นที่อาจมีการระบาด
*** ในกลุ่มเหล่านี้ควรฉีดวัคซีนทุกปี เพื่อกระตุ้นภูมิคุ้มกันทุกปี โดย ภูมิคุ้มกันจะเกิดขึ้นสูงสุดหลังฉีดวัคซีนประมาณ 2 สัปดาห์ และอยู่ได้นานประมาณ 1 ปี โดยมีความสามารถในการป้องกันสูงสุดที่ 6-8 เดือนแรก จากนั้นภูมิคุ้มกันจึงค่อยๆ ลดลง ***
กลุ่มนี้ห้ามฉีดวัคซีน
- เด็กอายุน้อยกว่า 6 เดือน
- ผู้มีประวัติแพ้ไข่ไก่ชนิดรุนแรง ถ้าแพ้แบบไม่รุนแรง เช่น เป็นผื่นสามารถฉีดวัคซีนได้ แต่ต้องเฝ้าดูอาการอย่างน้อย 30 นาที หลังฉีด
- ผู้ที่เจ็บป่วยเฉียบพลัน
- มีไข้สูง แต่ถ้าป่วยด้วยโรคเล็กๆ น้อยๆ ไม่เป็นข้อห้ามในการฉีดวัคซีน
- ผู้ที่มีปฏิกิริยาแทรกซ้อนที่รุนแรง หลังได้รับวัคซีนครั้งที่ผ่านมา
คุณพ่อคุณแม่ควรตระหนักในเรื่องการฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ให้กับลูกน้อยเพื่อป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเด็กเล็กที่มีอายุ 6 เดือนขึ้นไป และคนที่อยู่ใกล้ชิดเด็ก เพราะการฉีดวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่สามารถช่วยปกป้องคนที่คุณรักและตัวคุณเองได้
ขอบคุณข้อมูลสุขภาพจาก โรงพยาบาลพญาไท
โปรแกรมถ่ายทอดสดซีเกมส์ 2021 นักกีฬาไทย ประจำวันพุธที่ 18 พ.ค. 65
สรุปเหรียญ ซีเกมส์ 2021 ล่าสุด ประจำวันจันทร์ที่ 23 พ.ค. 65