อ่อนเพลีย เครียดง่าย เบื่ออาหาร อาจเพราะร่างกายขาดวิตามิน!
เช็กสัญญาณเตือนจากร่างกาย อาจเป็นได้ทั้งสัญาณจากโรคหรือการขาดวิตามินได้
หากคุณรู้สึกเหนื่อย เครียดง่ายไม่ทราบสาเหตุ อ่อนเพลียทั้งที่ก็คิดว่าพักผ่อนเพียงพอ อาจเป็นสัญญาณเตือนจากร่างกายว่า “ขาดวิตามิน” เพราะวิตามินเป็นสิ่งที่ร่างกายของเราต้องการเป็นประจำในทุกๆวัน จะมากหรือน้อย แตกต่างกันไปตามแต่ละชนิด วิตามินมีส่วนสำคัญในการช่วยให้ระบบการทำงานของร่างกายเป็นปกติ แต่น่าเสียดายที่ร่างกายของเราไม่สามารถสร้างวิตามินได้ด้วยตัวเอง ดังนั้นการขาดวิตามินจึงส่งผลเสียต่อระบบร่างกายและอาจนำมาซึ่งโรคอันตรายชนิดที่คุณคิดไม่ถึงเลยทีเดียว
เช็กเลย! หลังกินวิตามินเสริม ช่วยให้สุขภาพดีขึ้นจริงหรือไม่?
เสริมแกร่งร่างกาย ด้วย 7 วิตามินสร้างภูมิคุ้มกันต้านโควิด-19
เช็กให้ชัวร์ อาการแบบไหนเข้าข่ายขาดวิตามิน
ขาดวิตามินเอ
- เป็นหวัดง่าย การขาดวิตามินเอ ทำให้ภูมิต้านทานต่ำลง จึงเกิดการติดเชื้อในระบบทางเดินหายใจได้ง่าย และทำให้เกิดการอักเสบในโพรงจมูก ช่องปาก คอ และที่ต่อมน้ำลายได้ จึงทำให้เป็นหวัดง่ายนั่นเอง
- ตาฟาง มองไม่เห็นในที่แสงน้อย โดยธรรมชาติแล้วคนเราจะสามารถปรับสายตาให้เข้ากับความมืดได้ แต่ในผู้ที่ขาดวิตามินเอ จะมองเห็นในที่มืดได้น้อยลง จนอาจนำไปสู่ภาวะตาบอดกลางคืนได้
ขาดวิตามินบี
- ชาตามแขนตามขา หรือเป็นเหน็บชาบ่อย เพราะวิตามินบีมีส่วนช่วยในการบำรุงปลายประสาท การขาดวิตามินบี จึงทำให้เกิดอาการเหน็บชาขึ้นได้
- เครียดง่าย หรือปวดหัวไมเกรนบ่อยครั้ง เพราะวิตามินบีได้รับการยกย่องให้เป็นวิตามินต้านความเครียด คอยกระตุ้นให้ต่อมหมวกไตผลิตฮอร์โมนลดเครียด ทำให้รู้สึกผ่อนคลาย การได้รับวิตามินบีไม่เพียงพอจึงอาจกระตุ้นให้เกิดความเครียด ความวิตกกังวล จนนำมาซึ่งโรคที่เกิดจาดความเครียดได้
- เบื่ออาหาร อะไรที่เคยชอบ เคยอยากกินก็พาลไม่น่ากินไปหมด เพราะวิตามินบีมีส่วนสำคัญในการย่อยอาหาร และกระตุ้นการดูดซึมของไขมันและโปรตีนในร่างกาย การที่ระบบย่อยอาหารทำงานไม่ปกติ จึงทำให้รู้สึกไม่อยากอาหารนั่นเอง
- โลหิตจาง เนื่องจากวิตามินบีมีส่วนในการเสริมสร้างเม็ดเลือดแดง ช่วยให้เม็ดเลือดแดงสามารถลำเลียงออกซิเจนไปตามอวัยวะต่างๆได้ตามความต้องการของร่างกาย การได้รับวิตามินที่ไม่เพียงพอจึงทำให้การทำงานของเม็ดเลือดแดงผิดปกติ และยังอาจส่งผลให้อวัยวะรวมไปถึงกล้ามเนื้อต่างๆทำงานผิดปกติด้วย
- ผิวหนังอักเสบ แสบคันตามผิวหนัง เป็นสิว การขาดวิตามินบีทำให้ร่างกายเผาผลาญไขมันได้ไม่ดีเท่าที่ควร ไขมันจึงถูกขับออกมาตามส่วนต่างๆ ของผิวหนัง จนทำให้เกิดการอุดตัน อักเสบ และเป็นสิว ได้ด้วยนะ
ขาดวิตามินซี
- อ่อนเพลีย ไม่สดชื่นกระปรี้กระเปร่า รู้สึกง่วงนอนตลอดเวลา อ่อนล้าเหมือนผ่านการออกกำลังกายมาอย่างหนัก หรือต้องออกแรงยกของหนักทั้งๆที่ไม่ได้ทำอะไร
- เลือดออกตามไรฟัน เพราะวิตามินซีมีส่วนช่วยในการบำรุงผนังหลอดเลือดฝอยให้แข็งแรง การขาดวิตามินจึงทำให้หลอดเลือดเประบางและแตกง่าย จึงทำให้เกิดปัญหาเลือดออกตามไรฟัน เกิดการอักเสบตามร่องเหงือก จนทำให้เกิดปัญหาในช่องปากตามมา
- ไม่สบายเล็กๆ น้อยๆ บ่อยครั้ง เพราะวิตามินซีมีส่วนช่วยในการเสริมสร้างภูมิคุ้มกันของร่างกาย การขาดวิตามินซีจึงทำให้ร่างกายของเราไม่สามารถเอาชนะเชื้อโรค เชื้อไวรัส หรือแบคทีเรียที่เข้ามาในร่างกายของเราได้ จึงทำให้ไม่สบายบ่อยนั่นเอง
- ผิวหยาบกร้าน หมองคล้ำ สาวๆคงไม่ถูกใจสิ่งนี้เป็นแน่ ดังนั้นอย่าปล่อยให้ร่างกายขาดวิตามินซีโดยเด็ดขาด เพราะวิตามินซีมีส่วนช่วยในการเสริมสร้างคอลลาเจน และต่อต้านอนุมูลอิสระ จึงทำให้ผิวพรรณดูสดใส เปร่งปลั่ง ป้องกันริ้วรอยก่อนวัยอันควรมาเยือน
ขาดวิตามินดี
แม้การขาดวิตามินดีจะได้มีอาการแสดงออกที่แน่ชัด เพราะวิตามินดีมีหน้าที่หลักในการช่วยดูดซึมแคลเซียมและฟอสฟอรัส การขาดวิตามินดีจึงทำให้เสี่ยงต่อโรคกระดูกพรุนซึ่งเป็นโรคที่ไร้สัญญาณเตือน จะทราบได้ก็ต่อเมื่อกระดูกของเราแตกหักไปแล้วเท่านั้น นอกจากนี้ยังเพิ่มโอกาสเสี่ยงการเป็นโรคมะเร็ง โรคเบาหวาน และโรคกล้ามเนื้ออ่อนแรงด้วยนะ ดังนั้นทางที่ดีที่สุดคือการทำให้ร่างกายไม่ขาดวิตามินดี ซึ่งร่างกายของเราสามารถรับวิตามินดีได้ ทั้งจากอาหารและแสงแดดเลย รู้อย่างนี้แล้วเราทุกคนคงต้องหาเวลาออกไปรับแดดเพิ่มวิตามินดีให้ร่างกายกันบ้างแล้วหล่ะ
ขาดวิตามินอี
การขาดวิตามินอีจะส่งผลกระทบต่อระบบประสาทโดยตรง แต่ต้องใช้ระยะเวลานานกว่าจะทราบได้ว่าร่างกายขาดวิตามินอี โดยอาจแสดงออกในรูปแบบการตอนสนองต่อสิ่งเร้าช้าลง ทรงตัวได้ยาก กล้ามเนื้ออ่อนแรง ส่วนใหญ่การขาดวิตามินอีมักเกิดจากความผิดปกติของการดูดซึมไขมันของตับ ตับอ่อน และลำไส้ หรือพบในผู้ที่มีโรคทางพันธุกรรม เราจึงไม่จำเป็นต้องกังวลเกี่ยวกับวิตามินชนิดนี้เท่าไหร่นัก เพราะวิตามินอีสามารถสะสมอยู่ตามกล้ามเนื้อได้ การรับประทานอาหารครบ 5 หมู่เป็นประจำ ก็ทำให้ร่างกายได้รับวิตามินอีอย่างเพียงพอแล้ว
ขอบคุณข้อมูลสุขภาพจาก โรงพยาบาลพญาไท