ศัลยกรรมแก้ไขหูกาง ทางเลือกเสริมความมั่นใจเพื่อบุคลิกดูดี
ศัลยกรรมทาเลือกเสริมความมั่นใจให้มากขึ้น เมื่อมีความมั่นใจช่วยเพิ่มบุคลิกภาพให้ดีขึ้นตามไปด้วย
โดยทั่วไปใบหูของคนเราจะแนบชิดไปทางด้านหลัง โดยทำมุมประมาณ 25-35 องศา ในกรณีท่านใดที่หูกางโดยหูทำมุมจากศีรษะกว้างกว่าปกติจนผิดธรรมดา หรือมีรูปร่างใบหูไม่สวยงาม ใบหูไม่แนบไปทางด้านหลังเท่าที่ควร หรือขอบใบหูไม่พับไปทางด้านหลัง ซึ่งสาเหตุส่วนใหญ่มักเกิดจากกระดูกอ่อนใบหูไม่พับไปตามปกติ โดยอาจเป็นตั้งแต่เด็กๆ เพราะลักษณะเช่นนี้ส่วนหนึ่งมักถ่ายทอดมาทางพันธุกรรมด้วย
เติมเต็มผิวปรับรูปหน้า ดูดีได้ด้วย "ฟิลเลอร์"
“ฉีดฟิลเลอร์” อย่างไรให้ปลอดภัย พร้อมข้อสังเกตอาการผิดปกติ
ผ่าตัดรักษาแก้ไขหูกาง เริ่มได้ตั้งแต่ 12 ขวบ แต่นิยมทำกันเมื่อเป็นผู้ใหญ่
ปกติแล้ว การแก้ไขหูกางสามารถทำได้ตั้งแต่เด็ก คืออายุประมาณ 12 ขวบ เนื่องจากช่วงอายุนี้ใบหูของเด็กจะมีขนาดโตเต็มที่ คือมีขนาดเท่ากับใบหูของผู้ใหญ่แล้ว
การแก้ไขลักษณะใบหูที่ผิดปกตินั้นทำได้ไม่ยาก และได้ผลดีด้วยการทำศัลยกรรม ซึ่งถือเป็นการแก้ได้เพียงวิธีเดียวเท่านั้น เนื่องจากกระดูกที่เข้ารูปแล้วยากที่จะทำให้เข้าที่ได้ด้วยวิธีอื่นๆ จึงจำเป็นต้องทำให้อ่อนลงแล้วจัดให้เข้ารูปใหม่ ด้วยการเปิดแผลตามแนวหลังใบหูเพื่อปรับแต่งหรือตัด แล้วเย็บกระดูกอ่อนของใบหูให้เข้ารูปแนบไปด้านหลังตามที่ต้องการ
แต่ทั้งนี้ เทคนิคที่ใช้ในการผ่าตัดหูข้างซ้ายกับหูข้างขวาอาจไม่เหมือนกัน เนื่องจากหูแต่ละข้างจะมีความแตกต่างกันไม่มากก็น้อย ทั้งนี้ในการผ่าตัดแก้ไขใบหูคนไข้ไม่ต้องกังวลเรื่องรอยแผลที่จะเกิดขึ้น เพราะจะมีเพียงรอยเส้นบางๆ ที่ถูกซ่อนไว้หลังใบหู คนอื่นจะไม่สามารถมองเห็นได้จากด้านหน้า
การเตรียมตัวก่อนศัลยกรรม (ผ่าตัด) แก้ไขปัญหาหูกาง
ก่อนผ่าตัดแก้ไขหูกาง ผู้เข้ารับบริการต้องมีการเตรียมความพร้อมดังนี้
- งดกินวิตามินและอาหารเสริมทุกชนิด อย่างน้อย 1 สัปดาห์
- งดสูบบุหรี่และงดเครื่องดื่มที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์ 1 วัน
- ควรงดยาที่มีผลต่อการแข็งตัวของเลือด
- ก่อนผ่าตัดสามารถกินอาหารได้ตามปกติ เพราะจะมีการฉีดยาชาเฉพาะจุดที่ต้องผ่าตัดเท่านั้น
- วันผ่าตัด ควรสวมเสื้อผ้าที่สะดวกต่อการถอดและสวมใส่กลับ
- วันผ่าตัด ควรมีผู้ติดตามหรือญาติมาด้วย
ขั้นตอนการศัลยกรรม (ผ่าตัด) แก้ไขปัญหาหูกาง
การผ่าตัดแก้ไขปัญหาหูกาง มีขั้นตอนไม่มากและไม่ยุ่งยาก ดังนี้
- แพทย์จะฉีดยาชาเฉพาะบริเวณที่จะผ่าตัด
- จากนั้นจะเปิดแผลที่หลังหู ตัดผิวหนังจากด้านหลังเล็กน้อย ทำการตกแต่งกระดูกอ่อนใบหู เพื่อให้หูของคนไข้มีความอ่อนตัว จนทำให้ใบหูพับง่ายขึ้น
- ใช้ไหมเย็บแผล เย็บใบหูให้หุบลงไปด้านหลังตามแผนการรักษาที่กำหนดตำแหน่งไว้
- เย็บปิดแผลให้เข้ารูป
- ในการผ่าตัดตั้งแต่เริ่มต้นจนเสร็จสิ้นกระบวนการ จะใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง
- ติดพลาสเตอร์รอบใบหูไว้ 2 วัน
- ใช้เวลาพักฟื้นประมาณ 2 สัปดาห์ จึงกลับมาตัดไหมตามที่แพทย์นัดหมาย
ปัญหาที่พบได้ หลังจากการศัลยกรรม (ผ่าตัด) แก้ไขปัญหาหูกาง
- มีเลือดซึมจากแผลผ่าตัดเล็กน้อย แต่มักจะค่อยๆ ดีขึ้น และหยุดซึมได้เอง
- ปัญหาเรื่องการเด้งกลับของใบหู มีโอกาสเกิดขึ้นได้
- กรณีผ่าตัดหูทั้ง 2 ข้าง เมื่อหูหุบแล้ว หูทั้งสองข้างอาจจะไม่เหมือนกัน ทั้งนี้ไม่สามารถการันตีได้ว่าหูทั้งสองข้างจะหุบเท่ากันหรือเหมือนกัน 100% ถ้าข้างใดข้างหนึ่งไม่เด้งก็จะดูคล้ายกันไป แต่โดยมากแพทย์จะผ่าตัดให้ใบหูหุบเข้ามาให้ใกล้เคียงกันมากที่สุดอยู่แล้ว
- กรณีหูเด้งกลับ ซึ่งส่วนใหญ่กว่าจะเด้งกลับต้องใช้เวลานาน หรือหูอาจจะเด้งออกมาเล็กน้อยเท่านั้น ถ้าคนไข้ยังพอใจในลักษณะที่เกิดขึ้น ก็ไม่จำเป็นต้องผ่าตัดแก้ไข แต่ถ้ารู้สึกเด้งออกมามากจนทำให้ดูไม่สวยงาม ก็สามารถผ่าตัดซ่อมแก้ไขใหม่ได้ แต่ส่วนใหญ่จะต้องทิ้งระยะเวลาให้ผ่าน 3 เดือนแรกไป เพื่อให้แผลหายดีก่อน เพราะหากรีบแก้ไขทันที อาจเกิดปัญหาเย็บไม่ติดดี และมีโอกาสเด้งกลับเหมือนเดิมได้
การดูแลหลังการศัลยกรรม (ผ่าตัด) แก้ไขปัญหาหูกาง
- หลีกเลี่ยงแผลโดยน้ำ อย่างน้อย 2 วันขึ้นไป
- คนไข้จะรู้สึกปวดแผลหลังทำใน 2 คืนแรกที่ปิดแผล แต่เมื่อทำการเปิดแผลจะรู้สึกดีขึ้น ควรกินยาตามแพทย์สั่งจะช่วยได้
- หลังผ่าตัดให้คนไข้นอนหัวสูง จะช่วยลดการปวดได้
- หลังผ่าตัด 2 วัน สามารถเปิดแผลและโดนน้ำได้ แต่ต้องเช็ดแผลให้แห้ง สามารถทำแผลและป้ายยาได้เอง ทั้งนี้ต้องป้ายยาที่แผลเช้าและเย็นด้วย
- หลังครบ 2 สัปดาห์ ให้มาตัดไหมตามนัดหมาย
- หลังตัดไหมให้ใส่ผ้ารัด (Face Support) หรือผ้าคาดผม ซึ่งควรคาดทับใบหูตั้งแต่เปิดแผล โดยให้ทำการคาดทับใบหูเป็นระยะเวลาประมาณ 3 เดือนเพื่อกันหูเด้งกลับ สามารถคาดทับใบหูตามความสะดวกของคนไข้ คือ จะคาดกลางวัน หรือกลางคืนก็ได้ ระยะเวลาในการคาดทับใบหู ประมาณ 2-3 ชม. หรือ ตามสะดวกของคนไข้ที่คนไข้ทำได้โดยไม่เจ็บ หลังจากระยะ 3 เดือนไปแล้ว ถ้าใบหูไม่เด้งมักจะไม่เด้งกลับแล้ว
- หลังการผ่าตัดควรงดออกกำลังกาย หรือทำกิจกรรมที่ต้องมีการกระทบกระเทือนศีรษะอย่างน้อย 1 สัปดาห์ขึ้นไป
- งดดื่มเครื่องดื่มที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์ รวมไปถึงการสูบบุหรี่ อย่างน้อย 1 สัปดาห์ หรือจนกว่าแผลจะหายดี หากมีเลือดออกผิดปกติควรเข้ามาพบแพทย์ทันที
หมายเหตุ: เนื่องจากใบหูมีโอกาสเด้งกลับได้ การผ่าตัดจึงไม่มีการรับประกันผล
ขอบคุณข้อมูลสุขภาพจาก โรงพยาบาลพญาไท