“มันฝรั่ง” ผักโพแทสเซียมสูง ที่ควรหลีกเลี่ยงในผู้ป่วย “โรคไตเรื้อรัง”
“มันฝรั่ง” ผักโพแทสเซียมสูง มีส่วนช่วยกล้ามเนื้อ-ระบบประสาท แต่ควรหลีกเลี่ยงในผู้ป่วยโรคไตเรื้อรัง
สิทธิบัตรทอง 'ฟอกไต' ได้กี่วิธี เผยมีข้อดี-ข้อเสียต่างกันอย่างไร?
8ประโยชน์"กล้วย"ป้องกันโรคทางสมองมีฤทธิ์ต้านมะเร็งช่วยลดซึมเศร้าได้
“โพแทสเซียม” เป็นสารอาหารที่สำคัญต่อร่างกายก็จริง เพราะเป็นตัวช่วยสนับสนุนสุขภาพของเซลล์ กล้ามเนื้อ และระบบประสาท อีกทั้งยังเป็นตัวช่วยในการเปลี่ยนคาร์โบไฮเดรตเป็นพลังงาน แต่สำหรับผู้เป็น “โรคไตเรื้อรัง” นั้น สารอาหารนี้กลับเป็นสิ่งที่ควรหลีกเลี่ยง
อย่างไรก็ตาม โรคไตเรื้อรังกับการเผลอกินอาหารที่มีโพแทสเซียมสูง ยิ่งน่าห่วง เพราะตามรายงานของศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคแห่งสหรัฐอเมริกา (CDC) คาดว่า ผู้ใหญ่มากถึง 9 ใน 10 คน ไม่รู้เลยว่า ตัวเองป่วยเป็นโรคไตเรื้อรังด้วยซ้ำ

รู้จัก “โรคไตเรื้อรัง”
โรคไตเรื้อรัง เกิดขึ้นเมื่อไตไม่สามารถกรองของเสียออกจากเลือดของเราได้อย่างมีประสิทธิภาพอีกต่อไป เนื่องจากไตถูกทำลายในระยะยาว ในที่สุดสิ่งนี้อาจทำให้บุคคลอ่อนแอต่อโรคหลอดเลือดสมอง ความดันโลหิตสูง โรคหัวใจ หรือเสียชีวิตก่อนวัยอันควรได้
ป่วยไตเรื้อรังควรเลี่ยงอาหารโพสแทสเซียมสูง
เหตุผลที่โพแทสเซียมอาจก่อให้เกิดความเสี่ยงต่อสุขภาพของผู้ป่วยโรคไตเรื้อรัง มูลนิธิโรคไตแห่งชาติอธิบายว่า การกินโพแทสเซียมเพิ่มอาจทำให้ผู้ป่วยโรคไตเรื้อรังที่เสี่ยงต่อภาวะโพแทสเซียมสูงอยู่แล้วยิ่งเสี่ยง ซึ่งหากเกิดภาวะโพแทสเซียมสูงแล้วล่ะก็ อาจเกิดอาการดังต่อไปนี้ได้
- คลื่นไส้
- กล้ามเนื้ออ่อนแรง
- เสียวซ่า
- ถ้าร้ายแรงอาจถึงชีวิตได้
ด้วยเหตุนี้ผู้ป่วยโรคไตเรื้อรังจึงควรรับประทานอาหารที่มีโพแทสเซียมต่ำ โดยเฉพาะเมื่ออยู่ในระยะหลังของโรค แม้ในช่วงระยะแรกของโรค ข้อจำกัดด้านอาหารดังกล่าวอาจไม่จำเป็นก็ตาม
อย่างไรก็ตามผู้ป่วยที่แพทย์สั่งให้รักษาปริมาณการกินโพแทสเซียมให้น้อยที่สุด อาจต้องการหลีกเลี่ยง “มันฝรั่ง” เพราะจากข้อมูลของกระทรวงเกษตรของสหรัฐอเมริกา (USDA) พบว่า ในมันฝรั่งต้มปราศจากเกลือ ทั้งเปลือกมีโพแทสเซียม 515 มิลลิกรัม
แต่ใช่ว่าจะต้องห้ามกินเลย เพราะงานวิจัยบางชิ้นชี้ให้เห็นด้วยว่า วิธีการปรุงมันฝรั่งบางวิธีอาจช่วยลดปริมาณโพแทสเซียมได้มาก

วิธีปรุงมันฝรั่งแบบลดปริมาณโพแทสเซียม
ในการศึกษาปี 2020 ที่ตีพิมพ์ในวารสาร Journal of Renal Nutrition นักวิจัยได้ศึกษาผลของ การแช่ การทอด และการปรุงอาหารตามปกติต่อปริมาณโพแทสเซียมของมันฝรั่ง
โดยทีมวิจัยใช้มันฝรั่งสามประเภทในการศึกษา ได้แก่ มันฝรั่งสด มันฝรั่งกระป๋อง และมันฝรั่งทอดฝรั่งเศสแช่แข็ง พบว่าการแช่มันฝรั่งดิบสดในน้ำสะอาดไม่ส่งผลต่อปริมาณโพแทสเซียมของมันฝรั่ง ในขณะที่การนำไปทำให้สุกเพื่อประกอบอาหารก็ยังลดโพแทสเซียมได้ไม่เพียงพอ
แต่การรวมทั้งสองวิธีเข้าด้วยกัน กลับพิสูจน์แล้วว่าได้ผล เมื่อใช้วิธีการแช่มันฝรั่งสด แล้วนำไปทำให้สุก ปริมาณโพแทสเซียมจะลดลง 70% นักวิจัยสรุปว่าด้วยเทคนิคการทำอาหารเหล่านี้ ผู้ที่เป็นโรคไตเรื้อรัง อาจรวมมันฝรั่งไว้ในอาหารได้
นอกจากนี้มูลนิธิโรคไตแห่งชาติยังสนับสนุนวิธีการต้มมันฝรั่งแบบต้มสองครั้ง ซึ่งเกี่ยวข้องกับการปอกเปลือกและหั่นผัก นำไปต้ม สะเด็ดน้ำ จากนั้นจึงปิดท้ายกระบวนการปรุงอาหารด้วยหม้อน้ำสะอาด
อย่างไรก็ตามผู้ป่วยที่เป็นโรคไตเรื้อรังหรือปัญหาไตอื่นๆ ควรปรึกษากับแพทย์หรือนักโภชนาการเกี่ยวกับไตก่อนว่าแผนการรับประทานอาหารแบบใดดีที่สุด แม้ว่าบางคนอาจได้รับคำแนะนำไม่ให้กินมันฝรั่งเลย แต่ผู้ป่วยบางคนที่ได้รับการฟอกไตอาจจำเป็นต้องเพิ่มปริมาณโพแทสเซียมเพื่อชดเชยสารอาหารที่สูญเสียไป
ขอบคุณข้อมูลจาก : Healthdigest
“กล้วยน้ำว้า” สรรพคุณสมุนไพร กินได้ทั้งผลดิบและสุกช่วยสุขภาพลำไส้
ภูมิปัญญาไทย! น้ำสมุนไพรคลายร้อนตามแพทย์แผนไทยแนะนำ! ลดโรคยอดฮิต!