ไอระบายพิษคั่งออกจากปอด สถาบันโรคทรวงอกชี้ ข่าวปลอม
สถาบันโรคทรวงอก แจงกรณีไอเป็นปฏิกิริยาระบายพิษออกจากปอด เนื่องจากปอดเกิดภาวะคั่งพิษ เป็นข้อมูลเท็จ
จากกรณีมีการเผยแพร่ข้อมูลในสังคมออนไลน์ที่ระบุว่า การไอเป็นปฏิกิริยาระบายพิษออกจากปอด การไอจึงเป็นสภาวะปกป้องปอดเนื่องจากปอดเกิดภาวะคั่งพิษ ทางสถาบันโรคทรวงอก กรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข ได้ตรวจสอบและชี้แจงว่า อาการไอเป็นกลไกการป้องกันของร่างกายในการกําจัดเชื้อโรค เสมหะหรือสิ่งแปลกปลอมที่ผ่านเข้าไปในทางเดินหายใจ โดยอาการไอจะเริ่มจากการที่มีสิ่งกระตุ้นตัวรับสัญญาณการไอในบริเวณทางเดินหายใจส่วนบนและล่าง และส่งสัญญาณไปยังศูนย์ควบคุมการไอในสมองจนกระตุ้นให้เกิดการไอ
นอกจากนี้สาเหตุของอาการไอมีได้หลายสาเหตุ อาจแบ่งตามระยะเวลาการไอได้ 2 แบบ ดังนี้
ข่าวบิดเบือน ผู้หญิงย้อมสีผมบ่อยเสี่ยงเป็นมะเร็งเต้านม
1. ไอเฉียบพลัน คือ มีระยะเวลาของอาการไอน้อยกว่า 3 สัปดาห์ ซึ่งสาเหตุส่วนใหญ่เกิดจากการติดเชื้อในระบบทางเดินหายใจส่วนบน เช่น หวัด, โพรงไซนัสอักเสบ, คออักเสบ, หลอดลมอักเสบ, อาการกําเริบของโรคถุงลมโป่งพอง, ปอดอักเสบ หรือสัมผัสกับสารระคายเคืองในสิ่งแวดล้อม เช่น ควันบุหรี่ มลพิษทางอากาศ เป็นต้น
2. ไอเรื้อรัง คือ มีระยะเวลาของอาการไอนานกว่า 8 สัปดาห์
อาการไอเรื้อรัง...เกิดจากโรคใดบ้าง?
-วัณโรคปอด พบได้ในคนทั่วไปแม้ไม่มีประวัติสัมผัสโรค ในระยะแรกจะไม่มีอาการ แต่สามารถตรวจพบได้จากการเอกซเรย์ปอด เมื่อโรคลุกลามมากขึ้นจะมีอาการไอเรื้อรัง มีไข้ มักเป็นตอนกลางคืน มีอาการอ่อนเพลีย เบื่ออาหาร น้ำหนักลด บางรายอาจไอเป็นเลือด เจ็บหน้าอก หอบเหนื่อย
-มะเร็งปอด ในระยะเริ่มแรกจะไม่มีอาการ เมื่อโรคเป็นมากขึ้นจะมีอาการไอเรื้อรัง บางราย อาจไอออกเป็นเลือดสด บางรายอาจมีอาการเจ็บหน้าอก อ่อนเพลีย เบื่ออาหาร น้ำหนักลด หรือมีไข้ร่วมด้วย ผู้ป่วยมักมีประวัติสูบบุหรี่จัดมานาน แต่บางรายอาจไม่มีประวัติสูบบุหรี่ก็ได้
-ถุงลมโป่งพอง มักพบในคนที่มีประวัติสูบบุหรี่จัดมานาน ผู้ป่วยมักมีอาการไอแบบมีเสมหะเรื้อรัง และหอบเหนื่อยง่าย มีหายใจเสียงดัง
-โรคหืด พบได้ทุกช่วงอายุ มักมีอาการไอ โดยเฉพาะเวลากลางคืน อากาศเย็น ความรุนแรงของโรคขึ้นอยู่กับขนาดหลอดลมฝอยว่าตีบมากหรือน้อย อาการมีได้ตั้งแต่หายใจไม่สะดวก ไอมาก หายใจดัง หอบเหนื่อย อาการมักจะกำเริบเมื่อติดเชื้อทางเดินหายใจร่วมด้วย
-โรคภูมิแพ้อากาศ มักมีอาการคันจมูก คันคอ ไอ จาม บางรายมีน้ำมูกใสๆ ร่วมด้วย มักมีอาการเมื่อสัมผัสสารก่อภูมิแพ้ เช่น ไรฝุ่นละอองเกสร ขนสัตว์ อากาศเย็น เป็นต้น
-กรดไหลย้อน มีอาการไอแห้งๆ โดยเฉพาะหลังอาหาร หรือเวลาล้มตัวลงนอน อาจจะมีอาการแสบร้อนในอก หรือเรอเปรี้ยวร่วมด้วยหรือไม่ก็ได้
-ไซนัสอักเสบ มักจะมีอาการเป็นหวัดหรือโรคภูมิแพ้อากาศนำมาก่อน บางรายอาการหวัดอาจดีขึ้นในช่วงแรก แล้วแย่ลงภายหลัง มักไอเวลากลางคืนเพราะน้ำมูกไหลลงคอ
-ภาวะทางเดินหายใจไวต่อสิ่งกระตุ้น พบตามหลังโรคติดเชื้อทางเดินหายใจ คือเมื่ออาการหวัดหายแล้ว แต่ยังมีอาการไออยู่ โดยไอมากกลางคืนหรือเวลาอากาศเย็นๆ ถูกลม เป็นต้น
อาการไอแบบใดที่เป็นอันตราย และควรรีบพบแพทย์ ?
-ไอนานกว่า 2 สัปดาห์ ขึ้นไป
-อาการไอที่รุนแรงมากขึ้น
-อาการไอที่มีอาการอื่นร่วมด้วย เช่น มีเลือดปน น้ำหนักลด เบื่ออาหาร หอบเหนื่อย อ่อนเพลีย เจ็บหน้าอก เป็นต้น
อย่างไรก็ตาม การวินิจฉัยโรคที่เป็นสาเหตุของการไอ แพทย์จะมีการซักประวัติ ตรวจร่างกายโดยเฉพาะระบบทางเดินหายใจ และอาจส่งตรวจเพิ่มเติมเพื่อหาสาเหตุ เช่น เอกซเรย์ปอด, การตรวจเสมหะ, การตรวจสมรรถภาพปอด เพื่อการรักษาที่ถูกต้องตามสาเหตุต่อไป
รู้ทัน “คอเลสเตอรอล” อาหารที่ควรหลีกเลี่ยง!!
ข้อมูลสุขภาพโดย ศูนย์ต่อต้านข่าวปลอม ประเทศไทย, โรงพยาบาลพญาไท