“หมอชลน่าน” สั่งสอบด่วน! รพ.เอกชน ปฏิเสธรักษา นทท. ย้ำพบมูลเอาผิดถึงที่สุด
รมว.สธ! สั่งเข้าตรวจสอบข้อเท็จจริงโดยด่วน กรณีโรงพยาบาลเอกชนปฏิเสธการรักษานักท่องเที่ยวชาวไต้หวันที่ประสบอุบัติเหตุทางถนนจนหมดสติ และเสียชีวิตในเวลาต่อมาสั่ง เข้าตรวจสอบข้อเท็จจริงโดยด่วน หากพบว่ามีมูลความจริง ให้ดำเนินการเอาผิดจนถึงที่สุดหตุไร้มนุษยธรรม ด้าน กรม สบส. พร้อม สพฉ. เตรียมลงพื้นที่พรุ่งนี้!
จากกรณีข่าวนักท่องเที่ยวชาวไต้หวันถูกรถเฉี่ยวชนจนหมดสติ ทีมกู้ชีพของมูลนิธิได้ช่วยทำ CPR และนำส่งโรงพยาบาลเอกชนย่านพัฒนาการซึ่งอยู่ใกล้ที่เกิดเหตุประมาณ 500 เมตร แต่ถูกปฏิเสธรับตัวผู้ป่วยและให้นำส่งโรงพยาบาลรัฐที่อยู่ห่างออกไปประมาณ 10 กิโลเมตรแทน ทำให้ผู้ป่วยเสียชีวิตระหว่างนำส่งนั้น
นายแพทย์ชลน่าน ศรีแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า ทันทีที่ได้รับรายงานกรณีดังกล่าว ได้สั่งการให้กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ และสถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ
6 อาการป่วย "ฉุกเฉินวิกฤต" สิทธิบัตรทอง รักษาได้ด้วยสิทธิ UCEP
สิทธิ สปสช. ต้องรู้! ผู้ป่วยติดบ้านติดเตียงรับการดูแลสุขภาพที่บ้านได้
ส่งเจ้าหน้าที่ลงตรวจสอบข้อเท็จจริงโดยเร่งด่วนแล้ว ซึ่งหากพบว่าโรงพยาบาลมีการปฏิเสธรับผู้ป่วยจริงตามที่เป็นข่าว จะถือว่ามีความผิดทั้งหลักมนุษยธรรมและหลักกฎหมายที่เกี่ยวข้อง ให้ดำเนินการเอาผิดตามกฎหมายอย่างถึงที่สุด
เบื้องต้น เจ้าหน้าที่จะตรวจสอบใน 2 ประเด็นสำคัญ ได้แก่
- ในเวลาที่ผู้ป่วยถูกส่งตัวมาถึงโรงพยาบาล ได้มีการประเมินและช่วยเหลือผู้ป่วยฉุกเฉิน ซึ่งอยู่ในสภาพอันตรายและจำเป็นต้องได้รับการรักษาพยาบาลเพื่อให้พ้นจากอันตรายตามมาตรฐานวิชาชีพ หรือถ้ามีความจำเป็นต้องส่งต่อเพื่อไปรับการรักษาพยาบาลที่สถานพยาบาลอื่น ได้จัดให้มีการส่งต่อผู้ป่วยไปยังโรงพยาบาลอื่นอย่างเหมาะสมหรือไม่ และ
- โรงพยาบาลมีการประเมินผู้ป่วยว่าเข้าข่ายฉุกเฉินวิกฤติ ตามนโยบาย “เจ็บป่วยฉุกเฉินวิกฤติ มีสิทธิทุกที่” (UCEP) หรือไม่
ทั้งนี้ ยืนยันว่า รัฐบาลไทยให้ความสำคัญกับการดูแลนักท่องเที่ยวต่างชาติทุกคนที่เดินทางเข้ามาเยือนประเทศไทย จะไม่ปล่อยให้ไม่ได้รับความปลอดภัย หรือถูกกระทำการใดๆ ที่ไม่ชอบด้วยกฎหมายโดยเด็ดขาด
สั่งด่วน! สธ.รับตัวหญิงป่วยโรคแผลพุพอง เข้ารักษาตัวที่สถาบันโรคผิวหนัง
ด้าน กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ (กรม สบส.) กระทรวงสาธารณสุข พร้อมสถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ (สพฉ.) เตรียมลงสอบข้อเท็จจริงจากโรงพยาบาลวิภาราม ในวันพรุ่งนี้ (13 ธันวาคม 2566) หลังพบเบาะแสการปฏิเสธรักษาผู้ป่วยต่างชาติ จนเป็นเหตุให้การรักษาล่าช่าจนผู้ป่วยเสียชีวิตในเวลาต่อมา
โดยจะมีการตรวจสอบเอกสารหลักฐานต่างๆ และสอบถ้อยคำจากเจ้าหน้าที่ของโรงพยาบาลฯ ซึ่งอยู่ในช่วงเวลาที่เกิดเหตุอย่างถี่ถ้วน เพื่อให้ความเป็นธรรมแก่ทั้ง 2 ฝ่าย หากพบข้อมูลการกระทำผิด หรือพยานหลักฐานที่เชื่อได้ว่าโรงพยาบาลวิภารามมีการปฏิเสธการรักษาผู้ป่วยฉุกเฉินวิกฤติจริง ซึ่งถือเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมายพระราชบัญญัติสถานพยาบาล พ.ศ.2541 มาตรา 36 ซึ่งกำหนดให้ผู้รับอนุญาตประกอบกิจการ หรือผู้ดำเนินการสถานพยาบาล ผู้รับอนุญาตและผู้ดำเนินการของสถานพยาบาลต้องควบคุมและดูแลให้มีการช่วยเหลือเยียวยาแก่ผู้ป่วย ซึ่งอยู่ในสภาพอันตรายและจำเป็นต้องได้รับการรักษาพยาบาลโดยฉุกเฉิน เพื่อให้ผู้ป่วยพ้นจากอันตรายตามมาตรฐานวิชาชีพและตามประเภทของสถานพยาบาลนั้น ๆ ซึ่งผู้กระทำผิดจะต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 40,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ