เปิดวิธีเอาตัวรอด“รสบัสไฟไหม้”และสาเหตุที่มักทำให้เกิดอุบัติเหตุขึ้นบ่อย

จากกรณีเกิดอุบัติเหตุรถบัสทัศนศึกษาไฟไหม้ จนกลายเป็นเหตุสลด ในเบื้องต้นมีรายงานผู้เสียชีวิตหลายราย ซึ่งนับเป็นเหตุที่ไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้น และนับเป็นเรื่องที่ต้องมาพูดถึงความปลอดภัยและการเอาตัวรอดจากเหตุการณ์ในลักษณะดังกล่าว

รถไฟไหม้ เกิดจากอะไร ?

• ระบบเชื้อเพลิงรั่ว สาเหตุอันดับต้นๆ ที่ทำให้เกิดเหตุไฟไหม้ หากได้กลิ่นน้ำมัน กลิ่นแก๊สขณะขับรถ ให้รีบหาที่จอดและออกห่างจากรถ

ด่วน! ไฟไหม้รถบัสทัศนศึกษา มีรายงานผู้เสียชีวิตหลายราย

นายกฯ "อิ๊งค์" ร่ำไห้ หลังทราบเหตุรถบัสไฟไหม้ มีผู้เสียชีวิตหลายราย

• ระบบไฟฟ้าลัดวงจร การเดินสายไฟไม่เหมาะสม หรืออุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องกับระบบไฟฟ้าเสื่อมสภาพ อาจทำให้เกิดการช็อตได้
• สิ่งของในรถเกิดลุกไหม้ จอดรถทิ้งไว้กลางแดดเป็นเวลานาน จนภายในตัวรถร้อนระอุ อันตราย! หากมีไฟแช็ก สเปรย์กระป๋อง

ซึ่งผู้ขับขี่ ควรตรวจเช็กท่อน้ำมัน ตรวจสอบใต้ท้องรถ ว่าไม่มีรอยน้ำมันรั่วซึมหยดที่พื้น ตรวจสภาพรถ ตามกำหนด เพื่อป้องกันอุปกรณ์เสื่อมสภาพ ช่วยยืดอายุการใช้งานรถ ขับขี่รถได้อย่างปลอดภัย ตรวจเช็กสายไฟต่างๆ ว่าหลุดหลวม ชำรุดหรือไม่ รวมถึงไม่ควรดัดแปลงระบบไฟฟ้าเอง  เครื่องยนต์ร้อนเกินไป ทำให้ของเหลวต่างๆ มีอุณหภูมิสูงขึ้น รั่วซึมได้ง่าย อาจกระจายเข้าสู่ห้องเครื่อง เกิดไฟไหม้ได้ สังเกตไฟเตือน สัญลักษณ์อุณหภูมิเครื่องยนต์ บนหน้าปัดรถ ให้รีบจอดพักทันที รอให้รถหายร้อนและรีบแก้ไข  

ทำอย่างไรเมื่อเกิดเหตุรถไฟไหม้

• ตั้งสติ ประครองรถเข้าไหล่ทาง เพื่อจอด และเปิดไฟฉุกเฉิน
• กรณีที่มีควันออกมา ให้ดับเครื่องยนต์ ลดโอกาสเพลิงไหม้
• กรณีที่ไฟลุกไหม้ ให้ทิ้งสัมภาระ และออกจากรถทันที อยู่ห่างจากรถอย่างน้อย 30 เมตร
• หาทางออกฉุกเฉินทันที ทุกครั้งที่ขึ้นรถ ให้สังเกตตำแหน่งของประตูทางออกฉุกเฉิน หน้าต่างฉุกเฉิน หรือจุดที่สามารถหนีออกจากรถได้
• ใช้ค้อนทุบกระจก รถทัวร์มักจะมีค้อนทุบกระจกติดไว้ใกล้หน้าต่างฉุกเฉิน
• ก้มตัวต่ำเพื่อหลีกเลี่ยงควัน หากมีควันไฟหนา ควันจะลอยขึ้นข้างบน
• หากไม่สามารถหาทางออกได้ ให้ตะโกนขอความช่วยเหลือจากคนที่อยู่ภายนอก หรือติดต่อเจ้าหน้าที่ เมื่อออกจากรถได้แล้ว รีบโทรแจ้งเหตุฉุกเฉินที่เบอร์ 191 หรือ 1669

 

นั่งรถโดยสาร ให้ปลอดภัย

• เลือกรถโดยสารที่ปลอดภัย และมั่นใจได้ว่า จะส่งเราไปถึงจุดหมายปลายทางโดยสวัสดิภาพอย่างแน่นอน
• เลือกใช้บริการรถโดยสารสาธารณะป้ายเหลือง ที่ผ่านการตรวจสภาพรถ และชำระภาษีถูกต้องเท่านั้น
• เลือกบริษัทรถโดยสารที่มีความน่าเชื่อถือ ได้รับตั๋วโดยสารทันทีหลังชำระเงิน มีช่องทางการชำระเงินที่เชื่อถือได้ มีแผนการเดินทางและเส้นทางการเดินรถชัดเจน
• ตรวจสอบรายเอียดภายในตั๋ว เช่น วันที่ เวลา ตำแหน่งที่นั่ง หากไม่ถูกต้อง รีบแจ้งพนักงานให้แก้ไขในทันที
• ภายในรถโดยสารสาธารณะมีอุปกรณ์ความปลอดภัย เช่น เข็มขัดนิรภัย ค้อนทุบกระจก ถังดับเพลิง ประตูทางออกฉุกเฉิน

พนักงานขับรถมีความพร้อมปฎิบัติหน้าที่ พักผ่อนเพียงพอ ไม่แสดงอาการอ่อนเพลีย ไม่ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ในการขับรถ สามารถขับติดต่อได้ไม่เกิน 4 ชม. หยุดพักไม่น้อยกว่า 30 นาที และขับต่ออีกได้ไม่เกิน 4 ชม. รวมไม่เกิน 8 ชม. หรือมีพนักงานอย่างน้อย 2 คน

ทั้งนี้ทีมข่าวพีพีทีวีขอแสดงความเสียใจกับอุบัติเหตุครั้งนี้ด้วยค่ะ 

ขอบคุณข้อมูลจาก : สำนักสวัสดิภาพการขนส่งทางบก