การเมืองไทยในช่วงนี้กลับมาร้อนแรงอีกครั้งจากความเคลื่อนไหวต่าง ๆ ของหลายฝ่าย แต่ที่คนพูดถึงมากที่สุดคงหนีไม่พ้นการที่ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รมว.หมาดไทยและรองนายกรัฐมนตรี ออกมายอมรับว่า พา “นายเนวิน ชิดชอบ” อดีตสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรเข้าพบ นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีที่บ้านจันทร์ส่องหล้า
ยังไม่นับที่ก่อนหน้านั้นในงานวันเกิดของนายเนวินได้มีการผูกข้อไม้ข้อมือนายอนุทินและอวยพรเสียงดังให้ได้เป็นนายกฯ
เรื่องเหล่านี้ส่งสัญญาณอะไรบ้างนั้น รายการเข้มข่าวเย็น ช่วง Exclusive Talk ทางช่อง PPTV HD 36 วันที่ 8 ต.ค. 67 ได้เชิญ 2 นักวิเคราะห์การเมืองมาร่วมกันถอดรหัส
พระราชทานเพลิงศพ ครู-นักเรียน 23 ร่างเหยื่อรถบัสไฟไหม้ ประชาชนแห่อาลัยแน่นโรงเรียน
รวบ “เชฟอ้อย” คดียักยอกเพชรแฟนคลับสูญเงิน 2 ล้าน!
นักฟิสิกส์ควอนตัมพบเรื่องประหลาด ปรากฏการณ์ “เวลาติดลบ”
กระชับอำนาจให้รัฐบาลมีเสถียรภาพ
คุณสุรนันทน์ เวชชาชีวะ อดีตนักการเมือง บอกว่า สิ่งที่เกิดขึ้นตอนนี้ต้องย้อนไปตั้งแต่สมัยอดีตนายกฯ เศรษฐา ทวีสิน เพราะเป็นช่วงที่ทำให้คนรู้สึกว่า “มีคนอยู่ช้างหลัง” คอยกำกับดูแลการบริหารอีกที
คุณสุรนันทน์กล่าวว่า ตั้งแต่ยุคเศรษฐาแล้ว อำนาจจริง ๆ อยู่ที่นายทักษิณ ทำให้ผู้ที่ดำรงตำแหน่งนายกฯ ไม่ได้มีอำนาจเต็ม และแม้ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร จะขึ้นเป็นนายกฯ แล้ว ก็ยังไม่มีอำนาจเต็มอยู่ดี เวลาคุยเรื่องบารมีหรือมีเรื่องสำคัญยังคงต้องไปคุยกับนายทักษิณอยู่
ส่วนตัวคุณสุรนันทน์มองว่า การที่นายเนวินไปพบกับนายทักษิณนั้น ทำให้เสถียรภาพของรัฐบาลดีขึ้น “ถ้าคุณเนวินไม่ไปคุย หรือไม่มีข่าวอะไรออกมา จะทำใหมีช่องว่าง แต่พอคุณอนุทินให้ข่าว ทำให้เสถียรภาพพรรคร่วมรัฐบาลดีขึ้น ศูนย์อำนาจ 2 ศูนย์คุยกัน เกิดความเสถียร”
ด้าน คุณศิโรตม์ คล้ามไพบูลย์ นักวิชาการอิสระ กล่าวว่า นายทักษิณตอนนี้กำลังพยายามสร้างอำนาจฝั่งรัฐบาลให้เป็นปึกแผ่น ดึงคนเก่า ๆ กลับมา เช่นกรณีของ นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ที่ได้รับแต่งตั้งเป็นที่ปรึกษา
“คุณทักษิณรู้ว่าตัวเองได้อำนาจรัฐจริง แต่ทำเนียบรัฐบาลยังไม่เป็นปึกแผ่น จึงต้องดึงคุณณัฐวุฒิมาช่วยทำสงครามสื่อ สงครามมวลชน ส่วนการคุยกับคุณเนวินคือการกระชับอำนาจ” นักวิชาการอิสระบอก
คุณศิโรตม์เสริมว่า ตอนนี้คนมองว่าการเมืองไทยมีอยู่ 3 ก๊ก คือพรรคเพื่อไทย พรรคภูมิใจไทย และพรรคประชาชน ดังนั้น ถ้าฝั่งนายทักษิณและนายเนวินคุยกันได้ อำนาจจะกระชับแน่นมากขึ้น
คุณสุรนันทน์แย้งเล็กน้อยว่า การคุยกับนายเนวินไม่ได้เป็นการกลับมาเป็นลูกร้อง แต่มาในฐานะคนที่มีอำนาจต่อรอง เป็นพาร์ตเนอร์หุ้นส่วน ไม่ใช่ลูกน้อง แต่การคุยกันเป็นเรื่องดี รดับมังกรอย่างนี้ถ้าคุยจริงไม่ได้อะไรหรอก
อดีตนักการเมืองบอกอีกว่า การกระชับอำนาจตอนนี้เกิดจากนิติสงครามมหาศาลที่กำลังเผชิญ จึงต้องกระชับอำนาจสร้างทีมต่อสู้กับนิติสงคราม สู้กลเกมการเมืองทั้งในสภาและนอกสภาที่กำลังถาโถมเข้ามา
ความสัมพันธ์แบบ Hate-Love
คุณศิโรตม์กล่าวว่า ความสัมพันธ์เพื่อไทย-ภูมิใจไทยตอนนี้ ถ้าจับมือกันจะได้ประโยชน์ แต่ถ้าใยใดฝ่ายหนึ่งพัง อีกฝั่งก็ยังได้ประโยชน์ เป็นเหมือนความสัมพันธ์แบบ Hate-Love ทั้งรักทั้งชัง
นักวิชาการอิสระบอกว่า เกมที่นายทักษิณเจอตอนนี้คือสงครามเครือข่าย เป็นการประลองกำลังกันระหว่างเครือข่ายของแต่ละฝั่ง นายเนวิน-นายทักษิณจึงออกมาโชว์พลังว่ามีของ ถ้าฝ่ายลุงจะเอาเครือข่ายมาถล่มต้องคิดดี ๆ ว่าไหวหรือไม่
เขาเสริมว่า ภูมิใจไทยเวลานี้ไม่ได้เล่นเกมชิงอำนาจโดยตรง แต่เป็นการส่งสัญญาณว่าสู้แน่ แค่รอจังหวะส้มหล่น แต่จะเป็นแกนนำเองยังไม่ทำ เพราะถ้าขึ้นเองโดยที่พรรคเพื่อไทยยังมี สส. มากที่สุดจะลำบาก
คุณศิโรตม์บอกว่า ตอนนี้เพื่อไทย-ภูมิใจไทยเหมือนสามีภรรยาที่นอนด้วยกันแต่มีมีดอยู่ข้างหลัง แต่คุณสุรนันทน์เสริมว่า แค่เพิ่งขึ้นเตียงเท่านั้น
คุณสุรนันทน์บอกว่า สมมติเกิดกรณีที่นายกฯ แพทองธารถูกสอยลงจากตำแหน่งเพราะนิติสงครามได้ผล ภูมิใจไทยอาจบอกว่าให้นายอนุทินเป็นนายกฯ ดีกว่าจะได้สงบ ก็เกิดขึ้นได้
แต่ส่วนตัวเชื่อว่าพรรคภูมิใจไทยน่าจะอยากรอการเลือกตั้งปี 2570 มากกว่า จะได้มีเวลาสร้างเนื้อสร้างตัว เพราะตอนนี้นายอนุทินกำลังแกร่งขึ้นเรื่อย ๆ โดยเฉพาะการลงพื้นที่ภาคเหนือในช่วงวิกฤตอุทกภัย และเป็นการไปแบบลุยเดี่ยว ไม่ได้ไปกับนายกฯ แพทองธาร
คุณศิโรตม์บอกว่า “คุณอนุทินได้ซีนกว่า คุณแพทองธารไม่ค่อยไป ตอนนี้คุณอนุทินไปภาคเหนือเหมือนเป็นนายกฯ เลย ทั้งที่เป็นสิ่งที่คุณแพทองธารควรทำ ไม่รู้ทำไมไม่ทำ กำลังถูกคนรอบตัววางยาหรือเปล่าไม่รู้ สุดท้ายคนอาจจะรู้สึกว่า เป็นนายกฯ จริงหรือ”
นักวิชาการอิสระย้ำว่า นายอนุทินตอนนี้กำลังเล่นเกมสะสมกำลัง เหมือนมะม่วงที่รอสุกแล้วหล่นลงมือพอดี เล่นเกมนี้ ขณะที่นายเนวินเองก็แสดงบทบาทเป็น “Kingmaker” ให้เห็นว่าคนที่จะปั้นสร้างนายกฯ ได้ไม่ได้มีแค่นายทักษิณ
คนที่ถูกหมายหัวตอนนี้คือทักษิณ
คุณสุรนันทน์กล่าวว่า นิติสงครามที่เกิดขึ้นตอนนี้ จริงอยู่ที่ส่วนหนึ่งมีเป้าหมายอยู่ที่นายกฯ แพทองธาร แต่ความจริงแล้วคนที่ตกเป็นเป้าจริง ๆ คือนายทักษิณต่างหาก เพราะหากนายกฯ แพทองธารล้ม ยังมีแคนดิเดตคนอื่นรอเสียบได้อยู่ แต่ถ้าตัวนายทักษิณซึ่งมีอำนาจใหญ่ที่สุดล้มเอง จะส่งผลร้ายแรง
คุณศิโรตม์เสริมว่า “ไม่เล่นคุณแพทองธาร แต่จ้องทำลายคุณทักษิณ เพราะถ้าเล่นนายกฯ ก็ยังอยู่ในระบบ ยังหานายกฯ ใหม่ได้ แต่ถ้าทำให้คุณทักษิณล้ม ไปหมดทั้งแผง ... อย่างเรื่องชั้น 14 คนไทยมีใครเชื่อว่าคุณทักษิณป่วยจริงหรือไม่ การทำลายคุณทักษิณคือการทำลายความชอบธรรม เมื่อหมดความชอบธรรม ต่อให้หานายกฯ ใหม่ได้ คนก็ไม่เชื่อถือแล้ว”
นอกจากนี้ยังมีกรณีคดีตากใบที่กลับมาเป็นทู่ดถึงอีกครั้งในขณะนี้ ทำให้เครดิตพรรคเพื่อไทยตก คุณสุรนันทน์บอกว่าความไม่ยุติธรรมตรงนี้ยิ่งตอกย้ำให้คนรู้สึกว่า คุณทักษิณกลับมาแล้วอยู่เหนือความยุติธรรม ไม่ต้องติดคุก แม้แต่ สส.ในพรรคอย่าง “พล.อ.พิศาล วัฒนวงษ์คีรี” ยังไม่ต้องเข้ากระบวนการสอบสวน และแม้ไม่มาตามที่ศาลนัด ก็ไม่ได้รับโทษใด ๆ
“เมื่อ สส.ในพรรคไม่ต้องเข้ากระบวนการยุติธรรม ยิ่งตอกย้ำภาพนั้น เรื่องนี้ละเอียดอ่อน ทำให้อารมณ์คนขึ้นได้ง่าย บวกกับปัญหาเศรษฐกิจ อาจจุดไฟได้ง่าย” คุณสุรนันทน์กล่าว
อดีตนักการเมืองเสริมว่า “คุณทักศิณจำเป็นต้องดับไฟ การเสริมสร้างกำลังจะไหวหรือไม่ไม่รู้ แต่ความยุติธรรมต้องเกิด ถ้าไม่เกิดผลเสียจะย้อนกลับไปที่คุณทักษิณ และตอนนี้มีทั้งเรื่องคุณพิศาล มีทั้งเรื่องชั้น 14”
คุณศิโรตม์กล่าวว่า เคส พล.อ.พิศาล ถ้าคิดแบบคนธรรมดา ต้องตัดตอนแล้ว ให้มาศาล หรือขับออก หรือขอให้ลาออก ซึ่งเป็นเรื่องง่ายมาก ให้ออกเพื่อรักษาพรรค
เขาบอกว่า ถ้าเป็นอย่างนี้ต่อไป โดยที่ พล.อ.พิศาล ไม่เข้ารับกระบวนการยุติธรรม นโยบาย 3 จังหวัดภาคใต้ทั้งหมดของรัฐบาลถือว่าจบเลย “ถ้าคดีหมดอายุความแล้วเดินลอยหน้าลอยตาเข้าสภา บอกเลยว่า เพื่อไทยไม่ต้องกลับไปเหยียบ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้อีกเลย”
คุณศิโรตม์มองว่า ตอนนี้นายทักษิณกำลังทำทุกทาง ยกเว้นการสร้างความยุติธรรม ไม่ยอมปลดระเบิดแต่จะเอาแต่ได้ ทำไมไม่เล่นเกมดักความเสี่ยง แต่กลับเดินหน้าเพิ่มความเสี่ยงเสียอย่างนั้น
- คอนเทนต์พิเศษ
สำหรับคุณ - TOP การเมือง
- วิดีโอยอดนิยม
