หลังจากคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) เปิดรับสมัครเลือกตั้งสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดและนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด ในหลายพื้นที่ เมื่อวันที่ 23 ธ.ค.ที่ผ่านมา ส่งผลให้บรรยากาศการเมืองในเวทีท้องถิ่นหลายจังหวัดเป็นไปอย่างคึกคัก เนื่องจากสนามท้องถิ่น มักจะใช้เป็นฐานการเมืองต่อยอดสนามเลือกตั้ง สส.
โดยหลังจากเปิดรับสมัครต่างก็มีบรรดาตัวแทนจาก “บ้านใหญ่” – “บ้านเล็ก” ของแต่ละจังหวัด พร้อมใจกันเดินทางไปสมัครวันแรก สนามจังหวัดไหนส่อแววดุเดือดบ้างไปไล่เรียงกัน
โดยสนามที่เป็นที่พูดถึงและดุเดือดตั้งแต่ยังไม่เปิดสมัครรับเลือกตั้ง ก็คือ อบจ.ปราจีนบุรี หลัง “สจ.โต้ง” ถูกยิงเสียชีวิต ในบ้าน “โกทร” โดยการแข่งขันในสนามนี้ “สจ.จอย” ณภาภัช อัญชสาณิชมน ได้รับการสนับสนุนจาก พรรคเพื่อไทย ให้ลงสมัครนายก อบจ. ปราจีนบุรี ในนามพรรคโดย “สจ.จอย” จับได้เบอร์ 4
สำหรับคู่แข่ง ประกอบด้วย “อำไพ กองมณี” อดีต สส. บัญชีรายชื่อปราจีนบุรี พรรคเสรีรวมไทย ลงในนามอิสระ ได้เบอร์ 1 “จำรูญ สวยดี” ลงสมัครในนามพรรคประชาชน ได้เบอร์ 2 และ “กฤษณ์กมล แพงศรี” อดีตผู้สมัคร สส.ปราจีนบุรี พรรคเพื่อไทย ได้เบอร์ 3
อีกสนามเลือกตั้งที่กำลังดุเดือด เพราะการลงพื้นที่ช่วยหาเสียงของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี และนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ อดีตหัวหน้าพรรคก้าวไกล นั้นก็คือ อบจ.เชียงใหม่ โดยการเลือกตั้งสนามนี้นายทักษิณ ประกาศแพ้ไม่ได้ โดยส่ง “สว.ก๊อง” พิชัย เลิศพงศ์อดิศร ลงชิงในนามพรรคเพื่อไทย หวังป้องกันแชมป์อีกสมัย จับได้เบอร์ 2
โดยคู่แข่งคือ “พันธุ์อาจ ชัยรัตน์” อดีตผู้อำนวยการสถาบันนวัตรรมแห่งชาติ จากพรรคประชาชน จับได้เบอร์ 1 ซึ่งได้แรงสนับสนุนจากนางทัศนีย์ บูรณุปกรณ์ อดีต สส.พรรคเพื่อไทย อีกแรงหนึ่ง
เครื่องบิน Azerbaijan Airlines ตกในคาซัคสถาน คาดมีผู้เสียชีวิตจำนวนมาก
รัฐบาลเร่งแก้รถติดชานเมือง อนุมัติทางด่วน “รังสิต-โคราช” เสร็จปี 72
125 แคปชัน-คำอวยพร "วันคริสต์มาส2024" คนโสด คนมีคู่ อวดขึ้น Social
สนามเลือกตั้งอีกพื้นที่ที่น่าจับตาคือ อบจ.ชลบุรี โดย “บ้านใหญ่คุณปลื้ม” ส่ง “วิทยา คุณปลื้ม” อดีตนายก อบจ.ชลบุรี ลงในนามกลุ่มเรารักชลบุรี โดยที่ นายสุชาติ ชมกลิ่น รมช.พาณิชย์ เชื่อมสัมพันธ์กับ “บ้านใหญ่คุณปลื้ม” ออกโรงสนับสนุน “วิทยา” ส่วนคู่แข่งคือ “ชุดาภัค วสุเนตรกุล” พรรคประชาชน จับได้เบอร์ 2
ขณะที่สนามเลือกตั้ง อบจ.สมุทรปราการ ถือเป็นสนามใหญ่ที่ “บ้านใหญ่อัศวเหม” ต้องกอบกู้คืนมาหลัง เลือกตั้งปี 2566 เสียเก้าอี้ สส. ให้พรรคก้าวไกล ยกจังหวัด โดยตัวแทนของบ้านใหญ่อัศวเหม คือ “สุนทร ปานแสงทอง” อดีต รมช.เกษตรและสหกรณ์ สมัครในนามกลุ่มสมุทรปราการก้าวหน้า ได้เบอร์ 1 ขณะที่คู่แข่งสำคัญคือ “นพดล สมยานนทนากุล” ตัวแทนจากพรรคประชาชน จับได้เบอร์ 3
ส่วนสนามเลือกตั้ง อบจ.นครราชสีมา “บ้านใหญ่แป้งมัน” ส่ง “มาดามหน่อย” ยลดา หวังศุภกิจโกศล ลงป้องกันแชมป์ ในนามพรรคเพื่อไทย จับได้เบอร์ 2 แม้คู่แข่งอย่างพรรคประชาชน จะไม่ส่งผู้สมัคร แต่ก็มีชื่อของ “มารุต ชุ่มขุนทด” เจ้าของร้านกาแฟชื่อดัง ลงสมัครในนามอิสระ จับได้เบอร์ 3 โดยก่อนหน้านี้มีกระแสข่าวว่า “มารุต” จะลงสมัครในนามพรรคประชาชน
นอกจากนั้นยังมีสนามเลือกตั้ง อบจ.ศรีสะเกษ ซึ่งสนามเลือกตั้งนี้ นายทักษิณ ก็เคยบอกว่าแพ้ไม่ได้เช่นกัน โดยจะมีการส่ง “วิวัฒน์ชัย โหตระไวศยะ” อดีต สส.ศรีสะเกษ เขต 3 เป็นตัวแทนพรรคเพื่อไทย จับได้เบอร์ 1 ลงแข่งกับ “บ้านใหญ่ไตรสรณกุล” ที่ส่ง “วิชิต ไตรสรณกุล” แชมป์เก่า ตัวแทนกลุ่มฅนท้องถิ่นลงป้องกันแชมป์ จับได้เบอร์ 7
อีกสนามเลือกตั้งที่น่าสนใจคือ สนามเลือกตั้ง อบจ.นครพนม ศึกเดิมพันอนาคตของ “สหายแสง” ศุภชัย โพธิ์สุ อดีต สส.พรรคภูมิใจไทย หลังพ่ายแพ้การเลือกตั้ง สส. ปี 2566 โดยในรอบนี้ได้ส่งลูกสาว “ศุภพานี โพธิ์สุ” ลงสมัคร จับได้เบอร์ 2 ส่วนคู่แข่งจากทีมฮักนครพนม “อนุชิต หงษาดี” ลงสมัครในนามพรรคเพื่อไทย ยังไม่มาจับเบอร์ โดยมี นางมนพร เจริญศรี รมช.คมนาคม คอยให้การสนับสนุน
นอกจากนั้นยังมีสนามเลือกตั้ง อบจ.เชียงราย ซึ่งเดิมพัน “บ้านใหญ่” สู้กันเอง โดย “อทิตาธร วันไชยธนวงศ์” แชมป์เก่า ลงสมัครในนามอิสระไม่สังกัดพรรค จับได้เบอร์ 1 ด้าน “สลักจฤฎดิ์ ติยะไพรัช” ผู้ท้าชิงจากพรรคเพื่อไทย ภรรยา “ยงยุทธ ติยะไพรัช” คนสนิทนายทักษิณ จับได้เบอร์ 2 ซึ่งศึกเลือกตั้งนายก อบจ. เชียราย รอบนี้เป็นเดิมพันของสองตระกูล โดยมีหลายตระกูลการเมืองสนับสนุนอยู่เบื้องหลังของแต่ละฝ่าย