“พล.อ.ณัฐพล” มั่นใจหลักฐาน คลิปทหารกัมพูชาวางทุ่น กต.ส่งออตตาวาตรวจสอบ

โดย PPTV Online

เผยแพร่

"พล.อ.ณัฐพล​" เผย คลิปหลักฐานทหารกัมพูชาวางทุ่นระเบิด​ กต.เตรียมส่งให้อนุกรรมการออตตาวา​ เร่งประสานญี่ปุ่น​ในฐานะประเทศปฏิบัติเข้ามา​ตรวจสอบ​ก่อนประชุมคณะใหญ่ปลายปี​

เมื่อเวลา 09.00 น.ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ณัฐ​พล​ นาคพาณิชย์​ รมช.กลาโหม​ รักษาราชการแทน รมว.กลาโหม​ ให้สัมภาษณ์ถึงการดำเนินการของไทยกรณี​ทหารไทยพบโทรศัพท์ปริศนาที่ภูมะเขือ ซึ่งเมื่อเปิดออกดู ก็พบภาพและคลิปของทหารกัมพูชากำลังฝังทุ่นระเบิด PMN-2 และในคลิปยังมีการพูดเป็นภาษาเขมร คล้ายกำลังสาธิตทุ่นระเบิด PMN-2 ว่าเราจะทำ 2 อย่าง โดยในส่วนของนานาชาติเราจะเผยแพร่เพื่อให้สังคมโลกได้รับทราบว่าห้วงเวลาที่ผ่านมา​ 

 

 

บิ๊กเล็ก ช่างภาพพีพีทีวี
“พล.อ.ณัฐพล” มั่นใจหลักฐาน คลิปทหารกัมพูชาวางทุ่น กต.ส่งออตตาวาตรวจสอบ

แม้ว่ารัฐบาลกัมพูชา​จะแสดงความจริงใจในการหยุดยิง​ แต่กำลังพลหน้างานยังปฏิบัติการยั่วยุ​ ฝ่าฝืน ทำผิดกฎหมายระหว่างประเทศ ซึ่งหากรัฐบาลกัมพูชามีความจริงใจ ก็แสดงว่าทหารกัมพูชาไม่มีวินัย ขณะนี้ตนมองอย่างนั้นก่อน แต่ถ้าพิสูจน์ได้ว่ารัฐบาลกัมพูชาไม่มีความจริงใจ อย่างนั้นก็ค่อยว่ากันอีกที 

ดังนั้นสิ่งที่ต้องดำเนินการในขณะนี้ คือต้องดำเนินการให้สังคมรับทราบทั้งในและต่างประเทศ พร้อมขอให้สื่อมวลชนเสนอข่าวให้ชัดเจนว่า คณะกรรมการอนุสนธิสัญญาออตตาวา​ คณะกรรมการใหญ่อยู่ที่กรุงเจนีวา ซึ่งไทยมีเอกอัครราชทูตผู้แทนถาวรไทย​ ประจำสหประชาชาติ​ ณ​ นครเจนีวา​ อยู่ ก็จะคอยติดตามขับเคลื่อน ซึ่งตนเคยบอกแล้วว่าจะมีการประชุมประจำปีในช่วงเดือนพฤศจิกายนถึงธันวาคม 

"แต่มีสื่อฯบางสำนักบอกให้รอเดือนพ.ย.- ธ.ค.​ ซึ่งจริงๆไม่ใช่อย่างนั้น นั่นคือกลไกหลัก แต่ขณะเดียวกันเรามีหลักฐานเพิ่มเติมซึ่งผมรับทราบจากกระทรวงการต่างประเทศ ว่า คณะอนุกรรมการออตตาวา ได้ขอหลักฐานมาเรื่อยๆ ดังนั้นกรณีที่พบหลักฐานเพิ่มเติม เราก็จะส่งเพิ่มเติมไป"

พล.อ.ณัฐพล กล่าวว่า ขณะเดียวกันนอกจากคณะกรรมการชุดใหญ่ อยู่ที่นครเจนิวา​แล้ว ยังมีคณะกรรมการปฏิบัติ​ตามกฎออตตาวา อยู่ที่ประเทศญี่ปุ่น​ ซึ่งเราได้พยายามติดต่อประเทศญี่ปุ่นให้คณะกรรมการชุดนี้ลงมาดูก่อน ก่อนที่จะถึงการประชุมใหญ่ ซึ่งทางญี่ปุ่นก็ตอบรับ แต่ไทยยังรอขั้นตอนว่าจะลงมาได้เมื่อใด

ขณะเดียวกันพล.อ.ณัฐพล​ กล่าวว่า​ กลไก การประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไปหรือ​ GBC​ ก็พยายามจะพูดคุยกับกัมพูชา ด้วยสภาพแวดล้อมสังคมข้อมูลข่าวสาร ก็น่าจะมีความกดดันกับกัมพูชาได้พอสมควร ดังนั้นในการประชุม GBC รอบหน้า จะยกเรื่องนี้มาหารืออีกว่าการเก็บกู้ทุ่นระเบิดจะทำอย่างไร​ ก็อยากจะให้สื่อมวลชนเข้าใจ​ว่า​ GBC​ หรือ​ ศูนย์เฉพาะกิจบริหารสถานการณ์ชายแดนไทยกัมพูชาหรือ​ ศบ.ทก.​ จะใช้กลไกการปฏิบัติการเก็บกู้ทุนระเบิดเพื่อมนุษยธรรม​ หรือ​  RMAC  โดยเราจะทำในกรอบอาเซียนเอง แม้ประเทศอื่นจะเข้ามา​ ก็ขอในลักษณะการบริจาค หรือการสนับสนุนเครื่องมือ จะไม่เอากำลังจากนอกภูมิภาคอาเซียน ดังนั้นแนวทางการทำงานของ GBC และศบ.ทก.​ จะเน้นในเรื่องทวิภาคี​ แต่ถ้าเป็นพหุภาคีก็ขอให้อยู่ในกรอบอาเซียน เราต้องทำให้เวทีโลกเห็นว่าอาเซียนเราดูแลกันเองได้เป็นสิ่งที่ตนได้เน้นย้ำกับหน่วยปฏิบัติ ดังนั้นจึงอยากให้สื่อมวลชนเห็นว่าการทำงานมันมีเรื่องต้องคิดมากมาย และความมั่นคง ไม่ใช่เฉพาะเรื่องทหาร แต่ยังรวมถึง​ สังคมจิตวิทยาเศรษฐกิจ​ การเมือง​ ไม่ใช่ดูเรื่องการทหารอย่างเดียว 

"ในส่วนของการทหาร​ ผมสบายใจ​ ผมมั่นใจในความพร้อมของกองทัพ​  ว่าพร้อมตลอดเวลา​ สื่อมวลชนไม่ต้องกังวลว่าเขามาแบบนี้ จะทำอะไรหรือเปล่า​ ยืนยันเราพร้อมขอให้ดูเวลานั้น​ ผมจะไม่พูดก่อน" 

ผู้สื่อข่าวถามถึง การที่จะทำให้ประเทศจีนอาสาเข้ามาช่วยเก็บกู้ทุ่นระเบิด ซึ่งถือว่าเป็นประเทศผู้สังเกตการณ์ ในอาเซียน จะสามารถเข้ามาได้หรือไม่ หรือจะแก้ไขปัญหากันเองในกรอบอาเซียนก่อน พล.อ.ณัฐพล กล่าวยืนยันว่าใช่ ในวันที่ตนไปประชุม GBC ก่อนการประชุมได้พบกับนายอันวาร์​ อิบราฮิม นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ในฐานะประธานอาเซียนได้ยืนยันกับตนว่า จีนกับสหรัฐฯขอเป็นแค่ผู้สังเกตการณ์ เพราะฉะนั้นเป็นธรรมดา เรื่องการสื่อสาร ไม่ว่าจะเป็นไทย กัมพูชา​ จีน หรือสหรัฐฯ​ การสื่อสารระหว่างกันของหน่วยงานภาครัฐ ยังไม่ชัดเจน 

"หลักของเราคือ เมื่อผมรับผิดชอบ​ GBC และศบ.ทก.​ ไม่ว่าจะเป็นประเทศใหญ่อย่างไรก็ตาม ก็ถือหลักการเดิมว่า ขอแก้ปัญหาด้วยกลไกทวิภาคีเป็นหลัก หลังจากนั้นในส่วนของพหุภาคีขอให้อยู่ในอาเซียน ประเทศอื่นขอให้เป็นเพียงผู้สังเกตการณ์อย่างเดียว พร้อมย้ำว่าฝ่ายความมั่นคงยึดถือนโยบายความสมดุลมาตลอด และที่เราอยู่ได้จนถึงทุกวันนี้ก็เพราะนโยบายความสมดุล​ สมมุติถ้าจีนเข้ามา ต่อไปสหรัฐก็จะขอเข้ามา หรือต่อไปประเทศอื่นก็จะขอเข้ามาอีก ซึ่งตรงนี้คือกรอบที่เราใช้อยู่"

พล.อ.ณัฐพล​ ยังกล่าวอีกว่า ขอให้สื่อมวลชน ช่วยอธิบายกับสังคมและนักวิชาการให้ เข้าใจความคิดของศบ.ทก.  และ GBC เราคิดเยอะ คิดทุกด้าน

ส่วนที่ทางกัมพูชา​ออกมาระบุว่าภาพและคลิปที่ได้จากโทรศัพท์มือถือของกัมพูชานั้น เป็นการสร้างหลักฐานเท็จของฝ่ายไทยเอง โดยอ้างว่า ชุดทหารในคลิปเป็นชุดจากทหารเชลยศึกทั้ง 18 คน​นั้น พล.อ.ณัฐ​พล​ ยืนยันว่า​ ตราบใดที่ยึดมั่นในความจริง เครดิตเป็นสิ่งที่สังคมเชื่อถือ หลักฐานที่มีชาวโลกจะเชื่อถือใคร​ เราหรือกัมพูชา ตนถึงบอกว่าเราต้องไม่ไปสู้กับเฟคนิวส์​ เพราะเราจะเสียเครดิตไปด้วย​  

"อย่างที่ผมเคยบอกว่า ศีลเสมอกัน ตราบใดที่เรายึดหลักความจริง ซึ่งอาจช้าไปบ้าง​ ก็ต้องขออภัยสื่อมวลชน แต่เพราะเราต้องตรวจสอบ เราไม่สามารถสวนได้ทันที แต่ถ้าเป็นเฟคนิวส์ เราสวนได้หมด  พร้อมยกตัวอย่างถ้าผมเป็นลุง​ ผมสวนได้ทันที​ เพราะข้อมูลมีอยู่แล้ว สวนได้​ หรือเป็นนักวิชาการต่างๆ ที่ออกมาวิพากษ์วิจารณ์​ ก็สวนได้ทันที​ จะพูดอะไรก็ได้แต่ผมเป็นผอ.ศบ.ทก. เป็นประธาน GBC  และเป็น รมช.กลาโหม จะพูดอย่างนั้นไม่ได้ ต้องตรวจสอบก่อน การใช้ความจริงสู้กับเฟคนิวส์ นั่นคือเครดิตในระดับประเทศหรือแม้แต่พวกเราเอง​ หากสื่อช่องไหนบิดเบือนจะเชื่อเขาหรือไม่​ ประชาชนมีดุลยพินิจ​ ไม่ใช่บิดเบือนง่ายๆ​ เพียงแต่อาจจะชอบหรือสะใจเท่านั้น จึงเออออไปด้วย ดังนั้นหลักของศบ.ทก. คือยึดความจริงไปสู้กับเฟคนิวส์​" 

พล.อ.ณัฐพล​ ย้ำด้วยว่า จะส่งหลักฐานที่พบไปที่กระทรวงการต่างประเทศ เพื่อนำส่งหลักฐานที่พบใหม่นี้ให้กับประเทศที่ให้เงินทุนสนับสนุนในการเก็บกู้ทุ่นระเบิดกับประเทศกัมพูชา และขณะนี้เรามีรายชื่อประเทศที่ให้การสนับสนุนทั้งหมดแล้ว ดังนั้นแต่ละประเทศ จะตัดสินอย่างไรก็ต้องรอฟังข้อมูลอย่างรอบด้าน และตนมั่นใจว่าข้อมูลของเรามีความน่าเชื่อถือ​ เมื่อเป็นความจริง ถึงอย่างไรก็บิดเบือนไม่ได้อยู่แล้ว

เมื่อถามย้ำว่า RMAC มีกัมพูชาเป็นประธาน เขาจะให้ความร่วมมือหรือไม่ พล.อ.ณัฐพลกล่าวว่ากัมพูชา เป็นประธานแต่อีก 9 ประเทศสมาชิก คงไม่ถูกครอบงำ​ได้ทั้งหมด​ พร้อมย้ำคำเดิมว่า​ เราต้องค่อยๆ เพราะการสู้ด้วยความจริง​ทางกฎหมาย สู้ด้วยความถูกต้อง​ มันก็ยาก แต่มันยั่งยืน​

วิดีโอยอดนิยม

ข่าวเด่นในรอบสัปดาห์

PPTVHD36

เพิ่ม PPTVHD36
ลงในหน้าจอหลักของคุณ