เปิดหัวใจฉบับ “ได๋ ไดอาน่า” พร้อมเผยแพลนแต่งหนุ่มนอกวงการ

“แพทตี้” เล่าวินาทีถูกขอแต่งงาน “แดน วรเวช” เฉลยแผนที่วางไว้เยอะมาก

หวานมาก! “มาร์ช จุฑาวุฒิ” เปิดตัวแฟนสาวดีกรีหมอ เซอร์ไพรส์เบิร์ธเดย์

เรียกว่าเป็นเพื่อนซี้ย่ำปึ้ก สำหรับ 2 สาวมากความสามารถอย่าง “ได๋ – ไดอาน่า จงจินตนาการ” และ “นิหน่า - สุฐิตา ปัญญายงค์” ที่วันนี้ทั้งคู่ไม่ได้มานั่งเมาท์กันเอง แต่ “นิหน่า” อาสามาล้วงเรื่องหัวใจของเพื่อน รวมถึงพูดคุยถึงเรื่องราวโครงการ “เราต้องรอด” ช่วยเหลือผู้ป่วยโควิด-19และผู้ที่ได้รับความเดือดในช่วงวิกฤตที่ผ่านมา 

โดย “ได๋” ได้เล่าว่า “ส่วนตัวแล้วทุกปีเราจะมีโปรเจ็กต์ที่จะช่วยเหลือสังคม ก็เหมือนป็นการปลูกฝังตั้งแต่ประถมว่าเราจะต้องรักเพื่อนมนุษย์ ถ้าเห็นอื่นที่ต้องการความช่วยเหลือแล้วเราช่วยได้ก็พยายามช่วยเต็มที่

พอเราได้ลงไปทำปุ๊ปเราอาจจะไม่ได้รับค่าตอบแทนเป็นเงิน แต่ว่าคำขอบคุณที่ส่งผ่านทางสายตามาที่ว่า “ขอบคุณนะที่ทำให้กลับมาอยู่กับครอบครัวได้” มันเป็นรางวัลชีวิตที่มันประเมินเป็นเงินไม่ได้เลย

หรือในโมเมนต์ที่เราร้องไห้ เราเฟลที่เราช่วยเขาไม่ได้ แต่กลับมีครอบครัวเขาที่ส่งข้อความมาในอินบ็อกซ์ว่าขอบคุณที่อยู่ตรงนี้ ที่ช่วยเขา โห! แล้วเราช่วยคนมาหลายหมื่นเคส มันมีทั้งร้องไห้สลับกับหัวเราะ มันหลายอย่างมากแต่ทุกอย่างมันล้วนทำให้เราได้เห็นโลกอีกแบบนึง

จากที่ทำ “เราต้องรอด” มา ได้บทเรียนที่ยิ่งใหญ่เลยคือ “ทุกชีวิตมีค่า” ต้องใช้ชีวิตในทุก ๆ ให้มีความสุข ประหนึ่งว่าพรุ่งนี้เราจะไม่ตื่นแล้ว ทุกคนที่ทำตรงนี้จะรู้สึกว่าชีวิตทำไมเปาะบางจัง  ทำให้เราปลงและเข้าใจในสัจจธรรมคำว่า “ชีวิต” ก่อนหน้านี้เราก็คิดแต่ว่าหาเงินในบัญชีเพิ่มขึ้น ต้องมีเงินนะ ต้องซื้อบ้าน ซื้อรถ อยากจะไปเที่ยวโน่น นี่ นั่น โดยลืมคิดและหยุดมองไปว่าที่วิ่งทำอยู่ทุกวันนี้ “เราเจอคุณค่าและความหมายของชีวิตแล้วหรือยัง” ใช้ทุกนาทีให้มีความสุขที่สุด”

อัปเดตความรักกับหนุ่มนอกวงการหน่อย?

“คบกันมาปีนี้น่าจะ 11-12ปีแล้ว ถามว่ามีเวลาให้เขาไหม ไม่มีเลยค่ะ แต่ช่วง 1 ปีที่ผ่านมาเขาอยู่ด้วยตลอด เป็นเสบียง แล้วก็เคยโกรธกับเขาเพราะเขาทำอาหารมาให้ แต่ไม่บอกเราก็โฟกัสที่หน้าจออยู่ ซึ่งหลายคนมองว่าเป็นเรื่องตลก แต่ทะเลาะกันจริง ๆ นะ (หัวเราะ) เพราะเขาก็รู้สึกว่าเขาเป็นห่วงเราอยากให้กินข้าว ทำไมพูดกับเขาแบบนั้นว่าทำไมไม่เรียก นี่ก็เป็นส่วนนึงที่ทำให้เราดึงตัวเองออกมาจากสิ่งที่ทำ

กับเขาถามว่าเป็นยังไง เขาก็ยังคอยอยู่ข้าง ๆ เรายังคงคอนเซ็ปต์ในการมีความรักซึ่งเป็นแบบนี้ตั้งแต่เด็ก ๆ แล้ว ตั้งแต่สมัยวัยรุ่นตอนปลาย จะมองว่าความรักคือนัมเบอร์วัน คือทุกอย่าง ต้องแต่งตัวสวยเดี๋ยวมีหนุ่มมารับไปกินข้าว แต่ตอนนี้ไม่แล้ว

ความรักเป็นเหมือนว่า เราเป็นต้นไม้ต้นหนึ่ง ความรักจะต้องเป็นปุ๋ยที่มีแล้วทำให้เรารู้สึกสดชื่น ทำให้เรางอกงามได้อย่างสวยงามมากกว่าการที่ไม่มี แต่ถามว่าไม่มีได้ไหม ไม่มีก็ต้องอยู่ได้ คือไม่มีใครในโลกนี้อยู่ได้โดยไม่มีใคร เพราะฉะนั้นเราสิ่งที่บอกเราว่าเราเจอสิ่งที่มีความสุขแล้วหรือยัง

เรื่องการจูนกัน ก็ต้องบอกว่ากว่าจะมาถึงตรงนี้ได้ก็ต้องใช้เวลา เพราะเราเป็นคนไม่ติดโทรศัพท์และถ้าทำงานก็จะไม่รับสาย ไลน์มาก็จะไม่อ่าน สมมติถ้าโฟกัสกับอะไรอยู่พูดด้วยก็จะไม่ได้ยิน เดินไปเดินมาอยู่ด้วยกันก็เหมือนไม่ได้อยู่ด้วยกัน เพราะฉะนั้นต้องใช้ความเข้าใจเป็นอย่างมาก แล้วก็เรามีความสุขที่มีกันและกันในวันนี้ไหม

ถามว่ามีแพลนแต่งงานไหม พ่อแม่ทั้งสองฝ่ายโทรหาทุกวัน เขาเลิกคำว่า “ฮัลโหล” แต่เขาจะถามว่า “จะแต่งงานหรือยัง?” (หัวเราะ) จริง ๆ มีแพลนเอาไว้ตั้งแต่ปีที่แล้วแต่ว่าพอทุกอย่างมันสะดุดมันก็ทำให้เรามองโลกไม่เหมือนเดิม มองชีวิตไม่เหมือนเดิม แต่ก็น่าจะเร็ว ๆ นี้แหละมั้ง (ยิ้ม) คุณแม่ได๋เขาอยากอุ้มหลาน นี่เขาข้ามช็อตไปแล้ว เขาเตรียมคนอยู่ไฟจองคิวไว้แล้วตั้งแต่ 2 ปีที่แล้วก็เลื่อนทุกปี ๆ (หัวเราะ) แม่ก็มาถามว่าตกลงเอายังไง เพราะฉะนั้นถามว่าคุณแม่เตรียมอะไร เตรียมไว้หมดแล้ว แล้วที่สำคัญที่สุดเราก็เตรียมโรงเรียนไว้ให้ลูกแล้วด้วย (หัวเราะ) แต่ก็คือจินตนาการค่ะ คนเราต้องมีการวางแผนค่ะ ถึงจะล่วงหน้านานไปหน่อยก็ตาม (หัวเราะ)”