มิรา ชลวิรัลวานิศร์ หรือ เอ๋ มิรา ภรรยาเก่า นายไพบูลย์ แสงเดือน หรือ ครูไพบูลย์ โพสต์ Facebook ภายหลังทนายเก่ง โพสต์ว่าศาลอุทธรณ์จำคุก 8 ปี ไม่รอการลงโทษ ในคดี พรากผู้เยาว์ เอ๋ มิรา ว่า
"ทุกอย่างเกิดจากการกระทำของเราทั้งนั้น ถ้าวันนั้นเราไม่เลือกทำแบบนั้น มันอาจจะไม่เป็นแบบนี้ หนูทำผิดกับแม่ ทำแม่ร้องไห้เสียใจ หนูพยายามแก้ไขมันมาตลอด เขาคนนั้นที่แม่ไว้ใจ ว่าเขาจะเป็นคนดูแลลูกของแม่ได้ เขาคนนั้นที่ดูถูกเหยียดหยามครอบครัวเรา ซ้ำร้ายยังทิ้งลูกของแม่ไปเลือกชีวิตใหม่
ศาลอุทธรณ์ สั่งจำคุก 8 ปี “ครูไพบูลย์”ไม่รอการลงโทษ พรากผู้เยาว์ “เอ๋ มิรา”
นายห้างประจักษ์ชัย โร่ขึ้นศาล หลังรู้ข่าวถูกออกหมายจับคดีหมิ่น “ครูไพบูลย์”
ทิ้งให้คนอื่นตราหน้าว่าเป็นเด็กที่ไม่มีปัญญาเลี้ยงลูก ไม่มีอนาคต กว่าจะผ่านวันนั้นมาได้ ฉันฝันร้ายซ้ำๆกันทุกคืน ความเจ็บปวด ตราบาปที่มันติดยุในใจ บทเรียนอันยิ่งใหญ่ รักก่อนวัยอันควร มันมีผลกับชีวิตมาก แม่ค่ะ เขาคนนั้นเขากำลังจะได้รับกรรมของเขาแล้วนะแม่ กฏหมายให้ความยุติธรรมกับแม่แล้วนะ"
3 กันยายน 67 ศาลอุทธรณ์พิพากษาตัดสินคดีพรากผู้เยาว์ ติดคุก 8 ปีไม่รอลงอาญา ผู้ต้องหาเข้าเรือนจำเป็นนักโทษแล้ว พรุ่งนี้รอคำสั่งศาลว่าจะให้ประกันหรือไม่
โดยมีผู้เข้ามาแสดงความคิดเห็นให้กำลังใจ สาวเอ๋ มิรา เป็นจำนวนมาก
ด้าน ทนายเก่ง วิษรุษ มณีรัตน์ โพสต์ต่อว่า ผู้เยาว์ คือ บุคคลที่ถูกจำกัดความสามารถในการใช้สิทธิ เพราะเหตุอ่อนอายุ อ่อนประสบการณ์ ยังไม่สามารถช่วยตัวเองได้เป็นอย่างดี จึงต้องอยู่ภายใต้การคุ้มครองช่วยเหลือของบุคคลที่เป็นผู้แทนโดยชอบธรรม ซึ่งได้แก่ บิดา มารดา หรือผู้ปกครอง
ความผิดฐานพรากผู้เยาว์
ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 318 วรรคแรก บัญญัติว่า "ผู้ใดพรากผู้เยาว์อายุกว่า 15 ปี แต่ยังไม่เกิน 18 ปีไปเสียจากบิดามารดา ผู้ปกครอง หรือผู้ดูแล โดยผู้เยาว์นั้นไม่เต็มใจไปด้วยต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่สองปีหรือสิบปีและปรับตั้งแต่สี่พันถึงสองหมื่นบาท"