เรียกได้ว่าเป็นข่าวช็อกที่สร้างความตกตะลึงให้กับแฟน ๆ ทั่วโลก สำหรับการจากไปอย่างกะทันหันของ “ต้าเอส“ หรือ “สวี ซีหยวน” นักแสดง นักร้อง และพิธีกรชื่อดังชาวไต้หวัน เมื่อวันที่ 2 ก.พ. ที่ผ่านมา ด้วยอายุเพียง 48 ปีเท่านั้น
สำนักข่าวไต้หวันโดยอ้างข้อมูลจาก “เสี่ยวเอส” น้องสาวของต้าเอสว่า เธอเสียชีวิตกะทันหันขณะเดินทางไปเที่ยวญี่ปุ่นกับครอบครัว โดยสาเหตุมาจากโรคไข้หวัดใหญ่และมีอาการปอดบวมร่วม
ทั้งนี้ มีข้อมูลที่น่าตกใจออกมาด้วยว่า ครอบครัวของต้าเอสพาเธอไปที่โรงพยาบาลในญี่ปุ่นถึง 4 ครั้ง แต่ไม่ได้เข้ารับการรักษา และแพทย์เพียงแค่จ่ายยามาให้เธอเท่านั้น
สำนักข่าว ET Today รายงานว่า ได้รับข้อมูลจากไกด์ที่นำทัวร์ให้กับครอบครัวของต้าเอสว่า ในวันที่ 29 ม.ค. ต้าเอสและครอบครัวสวีได้เดินทางจากไต้หวันเพื่อไปเที่ยวช่วงวันหยุดตรุษจีนที่ประเทศญี่ปุ่น โดยที่ต้าเอสแสดงอาการไอและอาการคล้ายหวัดอยู่ก่อนแล้ว
ในคืนวันเดียวกัน พวกเขาเดินทางถึงเมืองฮาโกเนะ ในจังหวัดคานางาวะ และหลังจากนั้นต้าเอสไม่ออกไปไหนเลย พักผ่อนอยู่แต่ในที่พักเท่านั้น จนในวันที่ 31 ม.ค. “เธอถูกนำตัวไปโดยรถพยาบาลในตอนกลางคืน และถูกส่งตัวกลับมาในช่วงกลางดึก”
ต่อมาวันที่ 1 ก.พ. ครอบครัวพาต้าเอสไปที่โรงพยาบาลเล็ก ๆ เพื่อทำการตรวจสุขภาพ “แต่โรงพยาบาลเล็ก ๆ ไม่สามารถรักษาเธอได้ จึงแนะนำให้ไปโรงพยาบาลใหญ่แทน โดยวินิจฉัยว่าเธอป่วยเป็นไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์เอ” จากนั้นได้มีการจ่ายยาให้ต้าเอสทาน
แต่ในคืนวันที่ 1 ก.พ. อาการของต้าเอสแย่ลงอย่างไม่คาดคิด และเธอ “รู้สึกไม่สบายกลางดึก” ครอบครัวจึงโทรเรียกรถพยาบาลมาที่โรงพยาบาล แต่สุดท้ายเธอก็เสียชีวิตในเวลา 7.00 น. ของวันที่ 2 ก.พ.
ซู อีเฟิง แพทย์โรคทรวงอก โรงพยาบาลไทเปมูนิซิเพิลยูไนเต็ด ให้ความเห็นต่อเรื่องนี้ว่า “การรักษาพยาบาลในต่างประเทศไม่สะดวกและเธอไม่ได้เข้าโรงพยาบาล เธอไปหาหมอถึง 4 ครั้งแต่ถูกขอให้กลับบ้านซ้ำแล้วซ้ำเล่า การดูแลทางการแพทย์ของไต้หวันดีที่สุดในโลกจริง ๆ ไม่ต้องสงสัยเลย”
เขาเสริมว่า “เมื่อไข้หวัดใหญ่โจมตีร่างกายทั้งหมดและทำให้เกิดอาการอักเสบทั่วร่างกาย ควรรักษาด้วยยาฉีดเข้าเส้นเลือดและเสริมน้ำโดยเร็วที่สุด”
นอกจากนี้ ชาวเน็ตในไต้หวันได้ตั้งข้อสังเกตด้วยว่า ต้าเอสอาจติดไข้หวัดใหญ่มาจากคู่สามีภรรยา “คริสทีน ฟ่าน” นักร้องชาวไต้หวัน-อเมริกันและ “แบล็กกี้ เฉิน” อดีตพิธีกรโทรทัศน์ไต้หวัน
โดยวันที่ 22 ม.ค. คริสทีน ฟ่าน แชร์ภาพลูกชายฝาแฝดของเธอเข้าโรงพยาบาลเนื่องจากติดเชื้อไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์เอบนอินสตาแกรม และโพสต์ว่า “ครอบครัวสี่คนป่วยกันหมด”
อย่างไรก็ตาม เพียง 3 วันต่อมา ในวันที่ 25 ม.ค. ฟ่านและเฉินเดินทางมาร่วมงานแต่งงาน ซึ่งต้าเอสเองก็มางานนี้ด้วย โดยที่ฟ่านและเฉินไม่ได้สวมหน้ากากเลยตลอดงาน ต่อมา ต้าเอสเริ่มมีอาการไอในวันที่ 29 ม.ค.
ซู อีเฟิง บอกว่า ระยะฟักตัวของไข้หวัดใหญ่โดยทั่วไปคือ 3-5 วัน และบางครั้งอาจยาวถึง 6-7 วัน ดังนั้นเมื่อพิจารณาจากช่วงเวลาดังกล่าว “เป็นไปได้จริง ๆ ว่าเธอติดเชื้อจากพวกเขา (ฟ่านและเฉิน)”
เขาเสริมว่า “ผู้ที่ป่วยไข้หวัดใหญ่ นอกจากการรักษาระยะห่างทางสังคมกับคนในครอบครัวแล้ว ยังต้องใส่หน้ากากอนามัยเมื่อออกไปข้างนอกเพื่อปกป้องผู้อื่นด้วย และควรหลีกเลี่ยงกิจกรรมทางสังคม”
การคาดเดานี้ทำให้เริ่มเกิดการล่าแม่มดในสังคมไต้หวัน โดยคนจำนวนมากออกมาต่อว่าฟ่านและเฉินว่าอาจเป็นต้นเหตุที่ทำให้ต้าเอสเสียชีวิต