อลังการ ! อียิปต์จัดขบวนพาเหรด "มัมมี่" ไปยังพิพิธภัณฑ์แห่งใหม่

เผยแพร่ 5 เม.ย. 2564 ,11:26น.

อียิปต์จัดขบวนพาเหรดสุดยิ่งใหญ่ ขนทัพราชวงศ์มัมมี่ย้ายไปพิพิธภัณฑ์อารยธรรมอียิปต์แห่งชาติ มีทั้ง มัมมี่กษัตริย์ 18 องค์ ราชินี 4 องค์ ระยะทาง 7 กม.

ขบวนพาเหรดถูกตั้งชื่อว่า “ Pharaohs ’Golden Parade” ซึ่งนอกจาก มัมมี่กษัตริย์ 18 องค์ และราชินี 4 องค์ ภายใต้การรักษาความปลอดภัยที่เข้มงวด ยังมีมัมมี่ของฟาโรห์และราชวงศ์อื่น ๆ ซึ่งบรรจุอยู่ในโลงที่ควบคุมอุณหภูมิ ตั้งไว้บนรถบรรทุกสำหรับเคลื่อนย้าย ซึ่งตกแต่งอย่างสวยงามอลังการ โดยยานพาหนะเหล่านี้ ได้รับการออกแบบให้ดูเหมือนเรือโบราณที่ใช้บรรทุกฟาโรห์ผู้ล่วงลับไปยังสุสาน พร้อมกับมีการถ่ายทอดสดทางสถานีโทรทัศน์ของรัฐและสถานีดาวเทียมอื่น ๆ รวมทั้งบนแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียอย่างเป็นทางการ

สภาพมัมมี่โบราณ หลังรัฐบาลอียิปต์เปิดหนึ่งใน 59 โลงศพอายุ 2,500 ปี

Salima Ikram หัวหน้าหน่วย Egyptology ของ American University เปิดเผยว่า ประชาชนในอียิปต์รู้สึกผลื้มปิติกับสิ่งที่พวกเขาเห็นมาก แม้จะใช้เงินไปหลายล้านดอลลาร์ในการจัดงานครั้งนี้ แต่ก็ถือว่าคุ้มค่าในระยะยาว

Nigel Hetherington นักโบราณคดี ระบุว่า ช่างเป็นคืนที่น่าอัศจรรย์อย่างยิ่งและทำให้คุณอยากอยู่ในอียิปต์

มัมมี่ที่ถูกเคลื่อนย้ายส่วนใหญ่ เป็นของราชวงศ์ที่ปกครองอียิปต์ระหว่าง 1,539 ปีก่อนคริสตกาลถึง 1,075 ปีก่อนคริสตกาล (จักรวรรดิอียิปต์) พวกเขารวมถึง ฟาโรห์แรเมซีสที่ 2 (Ramses II) ซึ่งเป็นหนึ่งในฟาโรห์ที่มีชื่อเสียงที่สุดของประเทศและราชินี แฮตเชปซุต (Hatshepsut) ฟาโรห์หญิงคนเดียวของอียิปต์ที่สวมเคราปลอมเพื่อเอาชนะประเพณีที่กำหนดให้ผู้หญิงมีบทบาทรองในลำดับชั้นของราชวงศ์

เดิมทีมัมมี่ถูกฝังไว้เมื่อ 3,000 ปีก่อนในสุสานลับใน หุบเขากษัตริย์ (Valley of Kings) หุบเขาในประเทศอียิปต์ เป็นที่ตั้งของหลุมศพของกษัตริย์และราชวงศ์ในจักรวรรดิอียิปต์ ตั้งอยู่บนฝั่งตะวันตกของแม่น้ำไนล์ ฝั่งตรงข้ามกับเมืองธีปส์ ตั้งอยู่ใจกลางของธีบันเนโครโปลิส และบริเวณใกล้เคียง Deir el-Bahri พื้นที่ทั้งสองอยู่ใกล้กับเมืองลักซอร์ทางตอนใต้ โดยหลุมฝังศพถูกขุดขึ้นครั้งแรกในศตวรรษที่ 19

การจัดขบวนพาเหรดสุดยิ่งใหญ่ ส่วนหนึ่งของความพยายามของทางการอียิปต์เพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวต่างชาติ หลังอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวได้รับผลกระทบจากความวุ่นวายทางการเมืองจากการจลาจลปี 2554 ซึ่งโค่นล้มนายฮอสนี มูบารัก ซึ่งดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีถึง 4 สมัย ตั้งแต่ 2524-2554 รวมระยะเวลานานนับ 30 ปี รวมถึงผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19)