อนามัยโลก ห่วง “โอมิครอน” ติดเชื้อพุ่งทั่วโลก หวั่นกลายพันธุ์ใหม่

“คิม จอง อึน” ตั้งเป้ามุ่งแก้ศก.เกาหลีหลีเหนือ-ปัญหาปากท้องปชช. ในปี 2022

นักวิเคราะห์คาด จีนอาจดำเนินมาตรการล็อกดาวน์-กักตัวเข้มงวดจนถึงปี 2023

เมื่อวานนี้ (4 ม.ค.65) องค์การอนามัยโลก (WHO) เปิดแถลงข่าวสถานการณ์ภาพรวมโควิด-19 ทั่วโลก ระบุว่า ขณะนี้มีหลักฐานมากขึ้นเรื่อย ๆ ว่า เชื้อโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอน ไม่รุนแรงจริงๆ เหมือนที่ทุกฝ่ายตั้งข้อสันนิษฐานกันไว้ โดยเชื้อแพร่กระจายที่ระบบทางเดินหายใจส่วนบนเป็นหลัก มากกว่าจะแพร่ลงไปที่ปอด ทำให้เกิดอาการป่วยน้อยกว่าสายพันธุ์ก่อนหน้า ซึ่งเพิ่มความหวังที่วิกฤตโรคระบาดนี้จะยุติลง

อย่างไรก็ตาม แคทเทอรีน สมอลวูด เจ้าหน้าที่องค์การอนามัยโลก (WHO) ประจำยุโรป เตือนว่า ศักยภาพของโอมิครอนที่สามารถแพร่ลุกลามรวดเร็วราวไฟป่า และกำลังทำให้จำนวนผู้ป่วยเพิ่มขึ้นเป็นประวัติการณ์ในหลายพื้นที่ทั่วโลก อาจให้ผลลัพธ์ในทางตรงกันข้ามได้ เพราะยิ่งเชื้อแพร่ระบาด และแบ่งตัวมากขึ้นเท่าไหร่ โอกาสที่จะเกิดการกลายพันธุ์ก็เพิ่มมากขึ้นตามไปด้วย และผู้ติดเชื้อโอมิครอนก็ยังเสียชีวิตได้ แม้อัตราจะต่ำกว่าเดลต้าก็ตาม

"เช็ก 5 อาการโอมิครอน" ที่แพทย์ตรวจพบในกลุ่มผู้ติดเชื้อโควิด

ขณะที่สถานการณ์โควิดที่ออสเตรเลีย ล่าสุดกระทรวงสาธารณสุขรายงานจำนวนผู้ป่วยใหม่ในประเทศอีก 64,758 คน เป็นสถิติรายวันสูงสุดครั้งใหม่ และทำนิวไฮเป็นวันที่ 3 ติดต่อกัน ท่ามกลางกระแสความไม่พอใจของประชาชน ปัญหาตอนนี้ คือ ชุดตรวจโควิดด้วยตนเองขาดแคลน และมีราคาสูง ประชาชนแห่ไปใช้บริการตรวจแบบ PCR ตามจุดตรวจต่าง ๆ จนคิวยาวเหยียด และเกิดปัญหาล่าช้า เพราะห้องปฏิบัติการมีงานค้างอยู่จำนวนมาก ขณะที่ระบบสาธารณสุขก็เริ่มตึงตัว เพราะจำนวนผู้ป่วยเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว

ด้านนายกรัฐมนตรี สกอตต์ มอร์ริสัน ซึ่งยืนยันจะไม่ใช้มาตรการล็อกดาวน์ รับปากจะเร่งแก้ไข โดยกำลังตรวจสอบข้อมูลชุดตรวจแบบ ATK กับบริษัทผู้ผลิตและร้านค้า เพื่อหาสาเหตุที่ทำให้ชุดตรวจในท้องตลาดมีราคาสูงขึ้น

ออกกำลังกายเป็นเรื่องที่ดี แต่ออกให้ถูกวิธี จะได้ผลลัพธ์ที่ดีกว่า

ประเด็นชุดตรวจยังไม่คลี่คลาย ก็มีประเด็นดราม่าใหม่ เมื่อรัฐบาลอนุญาตให้ โนวัค ยอโควิช นักเทนนิสมือหนึ่งของโลก ชาวเซอร์เบีย เดินทางเข้าประเทศเพื่อร่วมการแข่งขันออสเตรเลียน โอเพ่น ได้เป็นกรณีพิเศษ ทั้งที่เจ้าตัวยังไม่ได้ฉีดวัคซีนโควิด-19

 

 

Photo : AFP