"สเปน" แล้งหนัก-เขื่อนแห้ง ซากหมู่บ้านเก่าโผล่พ้นน้ำ

หมู่บ้านอาเซเรโด (Aceredo) ในแคว้นกาลิเซีย (Galicia) ทางตะวันตกเฉียงเหนือของสเปน โผล่ขึ้นมาให้เห็นอีกครั้ง หลังปริมาณน้ำในเขื่อนอัลโตลินโดโซ (Alto Lindoso) ลดลงเหลือเพียง 15 เปอร์เซ็นต์ของความจุ
หมู่บ้านแห่งนี้หยุดนิ่งและจมอยู่ใต้น้ำตั้งแต่ปี 1992 ที่มีการสร้างเขื่อน

ซากหมู่บ้านเก่าดึงดูดนักท่องเที่ยวให้มาเยือน รายละเอียดต่าง ๆ ทั้งซากบ้านเรือนที่พังถล่ม รถยนต์เก่าเป็นสนิมที่จอดอยู่ข้างกำแพงหิน ลังใส่ขวดเบียร์ที่วางซ้อนกันในที่ที่เคยเป็นร้านอาหารมาก่อน หรือแม้แต่น้ำพุที่ยังคงมีน้ำไหลออกมาจากท่อ

ปรากฎการณ์น้ำทะเลลดต่ำ ทำปะการังโผล่ที่เกาะทะลุ

ตัวเลข 3 ปีย้อนหลัง พบเขื่อนจีนไม่ได้ปล่อยน้ำมากกว่าปกติ จับตาการทูตแบบตีกิน

นายกเทศมนตรีเมืองโลบิออส (Lobios) ซึ่งเป็นที่ตั้งของหมู่บ้านอาเซเรโด ระบุว่า สถานการณ์ภัยแล้งที่เกิดขึ้นขณะนี้เป็นผลจากฝนที่ไม่ตกในช่วงสองสามเดือนที่ผ่านมา โดยเฉพาะในเดือนมกราคม รวมถึงการใช้ทรัพยากรอย่างหนักหน่วงโดยบริษัทผลิตไฟฟ้าของโปรตุเกสที่บริหารจัดการเขื่อนดังกล่าว

เมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา รัฐบาลโปรตุเกสได้สั่งให้เขื่อน 6 แห่ง ซึ่งรวมถึงเขื่อนอัลโตลินโดโซ ลดการดึงน้ำไปใช้เพื่อผลิตกระแสไฟฟ้าและทำชลประทาน เกือบร้อยเปอร์เซ็นต์ เนื่องจากภาวะแล้งที่รุนแรงขึ้น

ข้อกังขาเกี่ยวกับความยั่งยืนของเขื่อนและอ่างเก็บน้ำนั้นไม่ใช่เรื่องใหม่ ปีที่แล้ว หมู่บ้านในสเปนหลายแห่งได้ร้องเรียนเกี่ยวกับการใช้น้ำในเขื่อนของบริษัทผลิตไฟฟ้า หลังน้ำในทะเลสาบแห่งหนึ่งทางตะวันตกของประเทศถูกบริษัทผลิตไฟฟ้าอีกรายดึงไปใช้จนลดลงอย่างรวดเร็ว อย่างไรก็ตาม บริษัทดังกล่าวก็ระบุว่า ได้ดำเนินการทุกอย่างตามกฎระเบียบ

ข้อมูลจากกระทรวงสิ่งแวดล้อมของสเปนระบุว่า เขื่อนและอ่างเก็บน้ำในสเปนทั้งหมดขณะนี้มีปริมาณน้ำอยู่ที่ 44 เปอร์เซ็นต์ของความจุ ซึ่งต่ำกว่าค่าเฉลี่ยในช่วงสิบปีที่ผ่านมาที่ 61 เปอร์เซ็นต์

แต่แม้ว่าปริมาณน้ำในขณะนี้จะยังสูงกว่าระดับในช่วงเกิดภัยแล้งปี 2018 แต่แหล่งข่าวในกระทรวงก็ระบุว่า ตัวชี้วัดภัยแล้งแสดงให้เห็นว่าสถานการณ์อาจเลวร้ายลงในช่วงไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า

 

ภาพ AFP