ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูตินของรัสเซีย ระบุว่า มาตรการคว่ำบาตรของพันธมิตรตะวันตกที่มีต่อรัสเซีย คล้ายกับการประกาศสงคราม และเตือนว่า ประเทศใดก็ตามที่พยายามจะกำหนดเขตห้ามบินเหนือน่านฟ้ายูเครน รัสเซียจะถือว่าชาตินั้น ๆ พร้อมก้าวเข้าร่วมสงครามและความขัดแย้งทางทหาร ซึ่งจะนำไปสู่หายนะใหญ่หลวงของทั้งยุโรปและประชาคมโลก
"ตอนนี้เราได้ยินว่า เราต้องกำหนดเขตห้ามบินเหนือน่านฟ้ายูเครน มันเป็นไปไม่ได้ที่จะทำเช่นนั้นจากในยูเครนเอง..
"ชาวยูเครน” ในไทยรวมตัวเรียกร้องยุติสงคราม
ส่องมาตรการคว่ำบาตรรัสเซียของสิงคโปร์ ก้าวใหญ่ของประเทศเล็ก
..มันเป็นไปได้ที่จะทำจากประเทศเพื่อนบ้านเท่านั้น แต่การเคลื่อนไหวใดๆ ที่ไปในทิศทางนี้ จะถือว่าชาตินั้นๆ ได้เข้าร่วมในการสู้รบนี้ด้วย เนื่องจากเป็นภัยคุกคามทางดินแดนต่อทหารของเรา"
ถ้อยแถลงดังกล่าวของประธานาธิบดีปูติน มีขึ้นหลังจากชาติสมาชิกขององค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือหรือนาโต (NATO) ปฏิเสธข้อเรียกร้องของรัฐบาลเคียฟ ให้ประกาศเขตห้ามบินเหนือน่านฟ้ายูเครน โดยให้เหตุผลว่าอาจทำให้สงครามในยูเครนขยายวงกว้างมากขึ้น และอาจทำให้สหรัฐฯ ต้องเผชิญหน้าโดยตรงกับรัสเซีย
ทั้งนี้ เขตห้ามบิน (no-fly zone) หมายถึง บริเวณใด ๆ ของน่านฟ้าที่กำหนดห้ามอากาศยานบางชนิดบินผ่าน เพื่อปกป้องพื้นที่ที่มีความอ่อนไหว เช่น เขตพระราชฐาน ส่วนในทางการทหาร การประกาศเขตห้ามบิน มีขึ้นเพื่อป้องกันการโจมตีหรือการสอดแนม และจะส่งผลให้มีการลาดตระเวน โจมตีระบบป้องกัน หรือยิงเครื่องบินที่ล่วงล้ำเขตหวงห้าม
ซึ่งปัญหาเกี่ยวกับเขตห้ามบินทางทหาร คือจะต้องบังคับใช้โดยกำลังทหาร หากมีเครื่องบินรัสเซียบินเข้ามาในเขตห้ามบินของนาโต นาโตก็จะต้องดำเนินมาตรการกับเครื่องบินลำนั้น ซึ่งมาตรการนั้นอาจรวมถึงการยิงเครื่องบินให้ตก และในสายตาของรัสเซีย นั่นจะเป็นการประกาศสงครามโดยนาโต และอาจทำให้ความขัดแย้งทวีความรุนแรงขึ้น
นอกจากนี้ ทั้งยูเครนและรัสเซียไม่ได้เป็นสมาชิกนาโต ขณะที่ปูตินเองก็มองว่านาโตเป็นภัยคุกคามอำนาจของตัวเองโดยตรงอยู่แล้ว และเพิ่งจะวิพากษ์วิจารณ์การขยายอาณาเขตเข้าใกล้รัสเซียไม่นานมานี้ นาโตจึงระมัดระวังอย่างมากที่จะเข้ามายุ่งเกี่ยวโดยตรงในปัญหายูเครน
อย่างไรก็ตาม ประธานาธิบดีโวโลดิเมียร์ เซเลนสกีของยูเครน ได้กล่าวประณามชาติสมาชิกนาโต ที่ไม่ประกาศเขตห้ามบิน เหนือน่านฟ้ายูเครน โดยระบุว่า การตัดสินใจดังกล่าวของชาติพันธมิตรนาโต เปรียบเสมือนไฟเขียวให้กองทัพรัสเซียเดินหน้าโจมตีทิ้งระเบิดถล่มยูเครนต่อไป พร้อมระบุด้วยว่า ผู้คนทั้งหมดที่บาดเจ็บล้มตาย นับตั้งแต่วันนี้ ก็เป็นเพราะการตัดสินใจของนาโต
"วันนี้มีการประชุมสุดยอดนาโต เป็นการประชุมที่อ่อนแอ เป็นการประชุมที่สับสน การประชุมที่เห็นได้ชัดว่าไม่ใช่ทุกคนที่มองว่าการต่อสู้เพื่ออิสรภาพของยุโรปนั้นคือ เป้าหมายอันดับหนึ่ง... ผู้คนทั้งหมดที่บาดเจ็บล้มตายนับตั้งแต่วันนี้ เป็นเพราะพวกคุณ เพราะความอ่อนแอของพวกคุณ เพราะความไม่สามัคคีของพวกคุณ"
ล่าสุด นายดมิโทร คูเลบา รัฐมนตรีต่างประเทศยูเครน ได้ย้ำกับนายแอนโทนี บลิงเคน รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ ระหว่างการหารือที่ชายแดนยูเครน-โปแลนด์วานนี้ (5 มี.ค.) ว่า ยูเครนต้องการเครื่องบินรบและระบบป้องกันภัยทางอากาศ พร้อมกับระบุว่า การที่นาโตปฏิเสธที่จะกำหนดเขตห้ามบินเหนือน่านฟ้ายูเครนเป็น "สัญญาณของความอ่อนแอ"
บลิงเคน กำลังอยู่ระหว่างเดินสายหารือกับชาติพันธมิตรนาโตเกี่ยวกับการรุกรานยูเครนของรัสเซีย และการเพิ่มแรงกดดัน
ยูเครนเผยรัสเซียกำลังตระหนักถึงราคาสงคราม ขณะเดียวกัน นายมิคาอิโล โปโดลยัก (Mykhailo Podolyak) หัวหน้าคณะผู้แทนเจรจาของยูเครน เปิดเผยกับสื่อแคนาดา Globe and Mail ว่า การเจรจากับรัสเซียเริ่มเห็นผล โดยตนรู้สึกได้ถึงการมุมมองที่เปลี่ยนไปอย่างชัดเจนของมอสโกที่มีต่อการต่อต้านของยูเครน และการคว่ำบาตรจากนานาชาติ
บริษัทต่าง ๆ ทั่วโลกเองก็หันหลังให้รัสเซียมากขึ้นเรื่อยๆ ล่าสุด มาสเตอร์การ์ด และวีซ่า ประกาศระงับการดำเนินงานในรัสเซีย เพื่อเพิ่มแรงกดดันต่อระบบการเงินของรัสเซีย ตอบโต้การรุกรานยูเครน โดยมาสเตอร์การ์ดระบุว่า บัตรที่ออกโดยธนาคารรัสเซียจะไม่ได้รับการสนับสนุนจากเครือข่ายของมาสเตอร์การ์ด และบัตรที่ออกโดยสถาบันการเงินนอกรัสเซีย จะไม่สามารถใช้งานตามร้านค้าหรือเอทีเอ็มในรัสเซียได้อีกต่อไป
ขณะที่วีซ่าระบุว่า กำลังทำงานร่วมกับลูกค้าและคู่ค้าในรัสเซีย เพื่อยุติการทำธุรกรรมทั้งหมดของวีซ่าในรัสเซียในอีกไม่กี่วันข้างหน้า
ด้านซาร่า (Zara) บริษัทแฟชั่นชั้นนำระดับโลกเตรียมปิดร้านจำหน่ายเสื้อผ้า 502 สาขาในรัสเซียตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป
ทั้งนี้ สำนักข่าว RIA Novoski ของรัสเซีย รายงานว่า ประธานาธิบดีปูตินได้ลงนามคำสั่งเมื่อวานนี้ (5 มี.ค. 65) ให้รัฐบาลรัสเซียรวบรวมรายชื่อประเทศที่ดำเนินมาตรการคว่ำบาตร หรือกระทำการที่ไม่เป็นมิตรต่อรัสเซีย บริษัทรัสเซีย และชาวรัสเซีย ภายใน 2 วัน แต่ไม่ได้ระบุว่ามีจุดประสงค์เพื่ออะไร
