โอเล็กซานเดอร์ มาคูชิน นายกเทศมนตรีเมืองเออร์พิน เมืองทางตะวันตกของกรุงเคียฟ ออกมากล่าวผ่านวิดีโอที่โพสต์ลงในเทเลแกรมว่า ขณะนี้กองกำลังยูเครนสามารถยึดคืนเมืองนี้กลับมาได้แล้ว หลังจากช่วงหลายสัปดาห์ที่ผ่านมา เมืองเออร์พินกลายมาเป็นจุดยุทธศาสตร์สำคัญที่รัสเซียต้องการยึด เพื่อเคลื่อนพลไปยังกรุงเคียฟต่อ
พร้อมกันนั้นยังย้ำด้วยว่า เออร์พินเป็นของยูเครน และขอให้ยูเครนจงเจริญ
กลุ่มทุน "โบห์ลี่" ผ่านคัดเลือกซื้อ "เชลซี"
เช็กเลย! ครม.ไฟเขียวขึ้นทางด่วนฟรี ช่วงสงกรานต์ 2565
ทั้งนี้เมืองเออร์พินตั้งอยู่ในแคว้นเคียฟ รวมถึงเชอร์โนบิลเองก็อยู่ที่แคว้นเคียฟเช่นกัน เรียกได้ว่าเป็นแคว้นที่มีเมืองสำคัญตั้งอยู่
นอกจากนั้นในวันเดียวกัน เมื่อวานนี้ โวโลดิมีร์ เซเลนสกี ประธานาธิบดียูเครนได้ออกมาแถลงให้ข้อมูลเพิ่มว่า ขณะนี้กองกำลังยูเครนสามารถยึดพื้นที่บางส่วนของแคว้นเคียฟที่ตั้งอยู่ทางตอนกลางและทางตอนเหนือของประเทศเช่นกัน หลังจากตลอดการรุกรานหนึ่งเดือนที่ผ่านมา รัสเซียพยายามตีแคว้นนี้จากทั้งฝั่งตะวันออกและฝั่งตะวันตก
อย่างไรก็ตามประธานาธิบดีเซเลนสกีระบุว่า ยังเร็วเกินไปที่จะบอกว่ายูเครนได้ชัยชนะแล้ว เพราะการสู้รบในจุดอื่นๆ ยังคงเกิดขึ้น รวมถึงที่ชานกรุงเคียฟ กองกำลังยูเครนยังคงปะทะกับรัสเซียเพื่อป้องกันเมืองหลวง
นี่คือบรรยากาศของพื้นที่ทางตะวันออกเฉียงเหนือของแคว้นเคียฟ ที่กองกำลังยูเครนสามารถขับไล่ทหารรัสเซียออกไปได้ พวกเขาเดินสำรวจหมู่บ้านแห่งหนึ่งที่ได้รับความเสียหาย อาวุธและซากโดรนของรัสเซียยังคงตกอยู่ตามพื้น
อย่างไรก็ตามไม่ใช่ทุกเมืองที่ยูเครนสามารถยึดคืนมาได้ ในภาพรวมแม้รัสเซียจะประกาศเปลี่ยนกลยุทธ์ มุ่งเป้าหมายไปที่เฉพาะภูมิภาคดอนบาสทางตะวันออกแทนแล้ว แต่จนถึงขณะนี้ในหลายเมืองการปะทะและการโจมตียังคงเกิดขึ้น เมืองที่เสียหายอย่างหนักยังคงเป็น เมืองมาริอูปอล
สภาพของเมืองมาริอูปอลทุกวันนี้ ผู้คนแทบอยู่อาศัยไม่ได้ เพราะตึกรามบ้านช่องไหม้ดำ โครงสร้างผุพังจากการโจมตี บางคนหลังคาบ้านหายไปแล้ว ต้องอาศัยห้องน้ำในบ้านเป็นที่หลับนอนชั่วคราว
ประชาชนจำนวนหนึ่งที่ยังคงติดค้างในเมืองให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวว่า พวกเขารู้สึกหดหู่ใจอย่างยิ่งที่เมืองอันสวยงาม เมืองที่พวกเขาเติบโตมาต้องกลายสภาพเป็นซากปรักหักพัง
เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา วาดีม บอยเชนโก นายกเทศมนตรีเมืองมาริอูปอลประกาศว่า คนที่ยังคงติดค้างควรรีบอพยพออกจากมาริอูปอลไปยังเมืองอื่นๆ เนื่องจากขณะนี้เมืองนี้กำลังต้องการความช่วยเหลือทางมนุษยธรรมมากที่สุด ผู้คนขาดแคลนทั้งน้ำ อาหาร พลังงาน และระบบสาธารณสุข
ทางการคาดกันว่ายังคงมีคนอีกราว 160,000 คนที่ติดค้างในเมืองปัญหาคือ เมืองมาริอูปอลไม่ได้อยู่ในเส้นทางอพยพ หรือระเบียงมนุษยธรรมล่าสุดที่รัสเซียกำหนด ทั้งที่เมืองนี้ได้รับความเสียหายอย่างหนัก
เมื่อวานนี้มีเสียงประณามจาก แอมเนสตี้ อินเตอร์เนชันแนล องค์กรเพื่อสิทธิมนุษยชนออกมาตำหนิรัสเซียว่า พวกเขากำลังทำให้มาริอูปอลเผชิญกับความทุกข์ยากแบบเดียวกับที่รัสเซียเคยทำกับชาวซีเรีย
อีกเมืองที่เสียหายไม่น้อยไปกว่ากันคือ เมืองคาร์คีฟ ที่นี่ผู้คนเองก็กำลังเดือดร้อน ต้องการน้ำและอาหาร รวมถึงสิ่งของจำเป็น
อาสาสมัครที่เป็นคนหนุ่มสองรายนี้ตัดสินใจเดินส่งมอบความช่วยเหลือเท่าที่ทำได้ เนื่องจากมีผู้สูงอายุจำนวนมากที่ติดค้างในอาคาร ดังนั้นพวกเขาจึงคอยเดินตรวจตราว่ามีใครต้องการความช่วยเหลืออยู่หรือไม่
สิ่งที่พวกเขาทำสร้างความซาบซึ้งให้แก่ผู้สูงอายุอย่างมาก หนึ่งในนั้นถึงกับร้องไห้ออกมา
วันนี้เป็นวันที่ 34 แล้วที่รัสเซียบุกยูเครน จำนวนผู้เสียชีวิตโดยรวมยังไม่ชัดเจน แต่มีตัวเลขน่าสนใจจากอัยการยูเครนระบุว่า มีเด็กอย่างน้อย 144 รายแล้วที่เสียชีวิตจากการโจมตี ส่วนจำนวนเด็กที่ได้รับบาดเจ็บมีอย่างน้อย 220 ราย
เสริมด้วยรายงานจาก Ukraine Crisis Center ระบุว่า นับตั้งแต่วันที่ 24 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นวันแรกที่รัสเซียบุกยูเครน มีโบสถ์มากถึง 60 หลังแล้วที่ได้รับความเสียหาย
ส่วนสถานศึกษาทั่วประเทศมีมากถึง 733 แห่งที่ได้รับผลกระทบจากการโจมตี สถิตินี้สำคัญตรงที่เป็นข้อบ่งชี้ว่า รัสเซียมุ่งเป้าโจมตีสิ่งปลูกสร้างของพลเรือน ไม่ได้โจมตีเฉพาะสิ่งปลูกสร้างทางการทหารตามที่กล่าวอ้าง
ด้านฝั่งรัสเซียมีความคืบหน้าใดบ้าง?
ล่าสุดมีเสียงจากโฆษกของรัฐบาลเครมลินขยายความถึงแนวทางการใช้อาวุธนิวเคลียร์ที่ขณะนี้หลายฝ่ายกำลังกังวลว่า รัสเซียอาจยกระดับการโจมตี
ดมิทรี เปสคอฟ โฆษกรัฐบาลรัสเซียให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าว PBS เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา ผู้แทนรัฐบาลปฏิเสธข้อกล่าวหาที่ว่า รัสเซียมุ่งเป้าโจมตีไปยังอาคารบ้านเรือนของประชาชน ซึ่งคำกล่าวนี้ขัดกับคำให้การของผู้อพยพและนักข่าวต่างประเทศที่ลี้ภัยออกมา ซึ่งหลายคนระบุว่า เห็นกับตาว่าอพาร์ทเมนท์และโครงสร้างสาธารณูปโภคต่างๆ ถูกรัสเซียโจมตี
ส่วนในประเด็นอาวุธนิวเคลียร์ ดมิทรี เปสคอฟ ยืนยันว่า เหตุการณ์ในยูเครนจะไม่เป็นตัวแปรหรือเป็นข้อกำหนดให้รัสเซียเลือกใช้อาวุธนิวเคลียร์แต่อย่างใด เพราะรัสเซียเองมีแนวทางเพื่อความปลอดภัยชัดเจนว่า อาวุธนิวเคลียร์จะถูกใช้ก็ต่อเมื่อความมั่นคงของรัสเซียถูกคุกคาม