ภาพจากดาวเทียมของ บริษัท แม็กซาร์ บริษัทเทคโนโลยีสัญชาติอเมริกัน ได้รับการเผยแพร่เผยให้เห็นหลุมฝังศพในเมืองมาริอูปอล เมืองท่าทางตอนใต้ของยูเครน ซึ่งระบุว่า เพิ่งถูกขุดขึ้นใหม่ โดยแม็กซาร์ระบุว่า พื้นที่จุดนี้ที่ถูกขุดหลุมศพเพิ่ม อยู่ติดกันกับสุสานเดิมที่มีอยู่แล้วในเมืองแมนฮัช ห่างจากมาริอูปอลไปทางตะวันตกราว 20 กิโลเมตร
แม็กซาร์ บอกอีกว่า ภาพเหล่านี้ ซึ่งได้รับการถ่ายเอาไว้ระหว่างวันที่ 19 มีนาคม-3 เมษายน ที่ผ่านมา แสดงให้เห็นว่า มีหลุมศพทั้งหมดราว ๆ สองร้อยหลุม ในพื้นที่ราว 85 ตารางเมตร
ยูเครนเผย รัสเซียซ่อนหลักฐานอาชญากรรมสงคราม นำศพพลเรือนมาริอูปอลไปฝัง
ประชากรญี่ปุ่นลดลง กว่า 6 แสนคน มากที่สุดเป็นประวัติการณ์
เจ้าหน้าที่ท้องถิ่นของยูเครนกล่าวหารัสเซียว่า ได้ฝังศพของพลเรือนชาวเมืองมาริอูปอลที่ถูกสังหารโดยทหารรัสเซีย แต่ทางรัฐบาลมอสโกยังไม่ได้ออกมาตอบโต้ใด ๆ
ส่วนที่โรงงานผลิตเหล็กที่ชื่อ อาซอฟสตอล ซึ่งเป็นปราการด่านสุดท้ายของเมืองมาริอูปอลที่ทหารรัสเซียยังไม่สามารถยึดได้ แต่ก็คาดว่า ในเวลาอีกไม่นาน กองทัพยูเครนน่าจะต้านทานไม่ไหว ภาพจากสื่อต่าง ๆ ยังคงพบเห็นกลุ่มควันลอยออกมาอย่างต่อเนื่อง และมีรายงานได้ยินเสียงระเบิดเป็นระยะเมื่อบ่ายวานนี้ ก่อนที่ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูตินของรัสเซียจะประกาศว่ากองทัพรัสเซียมีชัยเหนือพื้นที่ดังกล่าวแล้ว
โดย เซอร์เก ชอยกู รัฐมนตรีกระทรวงกลาโหมของรัสเซียได้เข้ารายงานสถานการณ์เมืองมาริอูปอลกับ วลาดิเมียร์ ปูติน ประธานาธิบดีของรัสเซีย ว่า ตอนนี้เมืองมาริอูปอลอยู่ภายใต้การควบคุมของกองทัพรัสเซียแล้ว โดยยังมีเศษซากของกลุ่มชาตินิยม รวมถึงนักรบต่างชาติที่ยังหลงเหลืออยู่ติดอยู่ในโรงงานอาซอฟสตอล หลังจากนั้น ก็ได้สั่งให้กองทัพรัสเซียยกเลิกแผนการบุกโรงงานผลิตเหล็กอาซอฟสตอล แต่เขาต้องการให้มีการปิดล้อมจุดดังกล่าวต่อไป
ด้าน นายกเทศมนตรีเมืองมาริอูปอล วาดิม บอยเชนโก เปิดเผยกับสำนักข่าวรอยเตอร์สเมื่อวานนี้ว่า คาดว่ามีประชาชนราว 100,000 คน ที่ยังติดค้างอยู่ภายในเมืองมาริอูปอล โดยพวกเขายังคงคอยการอพยพ แต่ทางฝังรัสเซียให้รถบัสอพยพมาน้อยไป อย่างวันก่อนหน้านี้ รัสเซียแจ้งว่าจะมีรสบัส 90 คัน แต่แล้วกลับมีเพียงแค่เจ็ดคันที่มาถึง ตอนนี้ชะตากรรมของพลเมืองนับแสนอยู่ภายใต้การตัดสินใจของประธานาธิบดีปูตินเท่านั้น
ไฟไหม้สถาบันวิจัยกระทรวงกลาโหมรัสเซีย เสียชีวิต 7 ราย
รัฐบาลยูเครนเตรียมส่งคนไปเจราจากับรัสเซียเพื่อช่วยเหลือคนที่ติดอยู่ในนั้น หนึ่งในคนที่จะทำหน้าที่ไปเจรากับรัสเซียคือ มิไคโล โปดอลยัค หัวหน้าคณะผู้แทนการเจรจาของยูเครน โดยเขาออกมาทวีตข้อความว่า กำลังเดินทางไปที่มาริอูปอลเพื่อเจรจากับรัสเซีย โดยยูเครนเป็นผู้เสนอการเจรจารอบพิเศษนี้ขึ้นเอง และจะเป็นการเจรจาอย่างไม่มีเงื่อนไขเพื่อช่วยเหลือพลเรือน ทหารจากหน่วยนาวิกโยธิน รวมถึงกองพันอาซอฟและคนที่ได้รับบาดเจ็บที่อยู่ในนั้นกว่า 500 คนให้ออกมาอย่างปลอดภัย
ทั้งนี้ ยังไม่มีการตอบรับจากทางรัสเซียว่า จะเจรจากับยูเครนในเรื่องนี้หรือไม่ และรัสเซียจะยอมเปิดทางให้กองกำลังยูเครน โดยเฉพาะกองพันอาซอฟ ซึ่งเป็นหน่วยที่รัสเซียหมายหัวมานานออกจากที่นั่นได้อย่างปลอดภัยหรือไม่
แต่รัสเซียได้ปฏิเสธข้อเสนอของยูเครนที่ขอให้มีการหยุดยิงเนื่องในช่วงเทศกาลอีสเตอร์ออร์โธดอกซ์ ซึ่งจะเริ่มขึ้นในช่วงคืนวันที่ 23 ถึงเช้าวันที่ 24 เมษายนนี้ โดยประธานาธิบดีเซเลนสกีของยูเครนระบุว่า รัสเซียปฏิเสธข้อเสนอหยุดยิงดังกล่าว แต่เขาเองก็ยังหวังว่าจะเกิดสันติภาพขึ้น
นอกจากนี้ เซเลนสกียังบอกด้วยว่า รัสเซียยังคงระดมโจมตีทางตะวันออกและทางตอนใต้อีกด้วย โดยทางตะวันออกในภูมิภาคดอนบาส กองกำลังรัสเซียเปิดเผยว่า ในเวลานี้กองทัพรัสเซียสามารถยึดหมู่บ้านในแคว้นโดเนสตก์ได้แล้ว 42 แห่ง
ขณะที่ โจ ไบเดน ประธานาธิบดีของสหรัฐอเมริกา ระบุว่า สิ่งที่ควรให้ความสำคัญในขณะนี้คือการเปิดเส้นทางมนุษยธรรมให้ผู้ที่ยังอยู่ในเมืองมาริอูปอลได้อพยพออกมา ส่วนคำอ้างของประธานาธิบดี วลาดิเมียร์ ปูติน ผู้นำรัสเซียที่ประกาศว่ายึดเมืองดังกล่าวได้แล้ว จนถึงขณะนี้ยังไม่มีหลักฐานที่ยืนยันคำพูดนี้ได้
ขณะเดียวกัน ไบเดน ยังประกาศมาตรการช่วยเหลือด้านความมั่นคงให้แก่ยูเครนเป็นการเพิ่มเติมอีก 800 ล้านดอลลาร์หรือประมาณ 27,000 ล้านบาท หลังจากกองทัพรัสเซียได้เริ่มปฏิบัติการเฟส 2 ที่มุ่งเน้นการโจมตีภาคตะวันออกและยึดภูมิภาคดอนบาสของยูเครน
นอกจากนี้ไบเดนรับปากว่าสหรัฐฯจะส่งปืนใหญ่ฮาววิตเซอร์ (howitzers) หลายสิบกระบอก เครื่องกระสุน 144,000 นัด และ โดรนสำหรับปฏิบัติการทางทหาร พร้อมทั้งเรียกร้องรับสภาสหรัฐฯอนุมัติงบประมาณช่วยยูเครนเพิ่มเติม ซึ่งจนถึงขณะนี้สหรัฐฯให้ความช่วยเหลือยูเครนคิดเป็นเงินรวมมากกว่า 3 พันล้านดอลลาร์หรือ 100,000 ล้านบาท