สำนักข่าวรอยเตอร์สรายงานว่า เมื่อวานนี้ (4 พ.ย.) บริษัททวิตเตอร์ได้ปิดสำนักงานใหญ่ในซานฟรานซิสโก รัฐแคลิฟอร์เนีย ของสหรัฐฯ เป็นการชั่วคราว รวมถึงมีการระงับการเข้าอาคารด้วยบัตรพนักงาน เพื่อรับรองความปลอดภัยของพนักงานแต่ละคน รวมถึงระบบและข้อมูลลูกค้าของทวิตเตอร์ หลังจากทางบริษัทได้แจ้งพนักงานว่า พวกเขาจะได้รับแจ้งทางอีเมล ว่าจะถูกเลิกจ้างหรือไม่ และหลังจากนั้นพนักงานที่ถูกปลดจะไม่สามารถเข้าใช้โปรแกรม และอีเมลของบริษัทได้
ทวิตเตอร์ถูกฟ้อง "อีลอน มัสก์" ปลดพนักงานกะทันหันเกินไป
"อีลอน มัสก์" เคาะแล้ว “ค่ายืนยันตัวตน” ในทวิตเตอร์ 300 บาทต่อเดือน
นอกจากสำนักงานใหญ่จะถูกปิดชั่วคราวแล้ว สำนักงานทวิตเตอร์ในต่างประเทศ เช่น ในกรุงลอนดอนของอังกฤษ และกรุงดับลินของไอร์แลนด์ ก็ไม่มีพนักงานเข้าสำนักงานเช่นเดียวกัน และประตูถูกปิดล็อก ขณะที่พนักงานทวิตเตอร์ทั่วโลกได้ถูกขอให้อยู่บ้านในวันศุกร์
ต่อมารายงานข่าวระบุว่า บริษัททวิตเตอร์ได้เริ่มกระบวนการปลดพนักงานตั้งแต่ 5 ทุ่มตามเวลาประเทศไทย โดย มิเชล ออสติน ผู้อำนวยการฝ่ายนโยบายสาธารณะของบริษัททวิตเตอร์ ประจำสหรัฐฯ และแคนาดา ได้ทวีตข้อความระบุว่า เธอตื่นขึ้นมา พร้อมกับข่าวที่ว่า เวลาในการทำงานที่บริษัททวิตเตอร์ได้สิ้นสุดลงแล้ว ส่วนผู้จัดการอาวุโสฝ่ายกิจการสังคมของทวิตเตอร์ ประจำสาขาอังกฤษ เปิดเผยว่า เขาไม่สามารถล็อกอินเข้าไปทำงานในโปรแกรมเขียนข้อความของบริษัทได้ เช่นเดียวกับพนักงานส่วนหนึ่งของทวิตเตอร์ที่ระบุว่า พวกเขาถูกล็อกเอาท์ออกจากอีเมลและโปรแกรมเขียนข้อความของบริษัท
ทั้งนี้ความเคลื่อนไหวดังกล่าวมีขึ้น หลังจากอีลอน มัสก์ มหาเศรษฐีชาวอเมริกันเข้าซื้อบริษัททวิตเตอร์ด้วยมูลค่า 4 หมื่น 4 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ จากนั้นก็เข้ามายกเครื่องครั้งใหญ่จนสร้างความโกลาหล และความไม่แน่นอนให้กับบริษัท
แม้ว่าบริษัททวิตเตอร์ไม่ได้ออกมายืนยันเรื่องจำนวนพนักงานที่ถูกปลด แต่แผนงานภายในของบริษัททวิตเตอร์ที่สำนักข่าวรอยเตอร์สได้รับรายงานระบุว่า จะมีการปลดพนักงานทั่วโลกราวครึ่งหนึ่ง หรือประมาณ 3,700 คน จากพนักงานทั้งหมด 7,500 คน เพื่อลดค่าใช้จ่าย และกำหนดกฎการทำงานใหม่
อย่างไรก็ตาม หลังอีลอนมักส์ ประกาศแผนปรับลดพนักงานบริษัททวิตเตอร์ลง 50 % พนักงานของบริษัททวิตเตอร์ได้รวมตัวกันยื่นฟ้องร้องคดีแบบกลุ่มต่อบริษัทของตัวเอง โดยระบุว่า บริษัททวิตเตอร์ดำเนินการปลดพนักงานครั้งใหญ่โดยไม่แจ้งล่วงหน้า 60 วัน ซึ่งขัดกับกฎหมายรัฐบาลกลางสหรัฐฯ และกฎหมายของรัฐแคลิฟอร์เนีย ซึ่งเป็นที่ตั้งสำนักงานใหญ่ทวิตเตอร์
ทั้งนี้ในคำฟ้องดังกล่าว พนักงานของบริษัททวิตเตอร์ยังขอให้ศาลรัฐบาลกลางสหรัฐฯ ในซานฟรานซิสโก ออกคำสั่งห้ามบริษัทสั่งพนักงานที่ถูกปลดให้ลงนามในเอกสารสละสิทธิ์ร่วมดำเนินคดีด้วย
ด้านแหล่งข่าวบริษัททวิตเตอร์ระบุว่า อีลอน มัสก์ ได้ออกคำสั่งให้ทีมงานทวิตเตอร์หาทางลดค่าใช้จ่ายโครงสร้างพื้นฐานลงปีละ 1,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หลังจากก่อนหน้านี้ เขาได้ปลดเจ้าหน้าที่ระดับสูงทั้งซีอีโอ และผู้บริหารด้านการเงินและกฎหมาย รวมไปถึง พนักงานระดับสูงที่ดูแลแผนกโฆษณา การตลาด และทรัพยากรบุคคลของทวิตเตอร์ออกไปในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา
นอกจากการยกเครื่องปรับองค์กรครั้งใหญ่ของบริษัททวิตเตอร์ภายใต้การบริหารงานของ อีลอน มักส์ ซึ่งเป็นเจ้าของใหม่ได้ส่งผลกระทบต่อพนักงานแล้ว ก็ส่งผลกระทบต่อรายได้ของบริษัทเช่นเดียวกัน อีลอน มัสก์โพสต์ข้อความในทวิตเตอร์ระบุว่า ทวิตเตอร์มีรายได้ลดลงอย่างมาก เนื่องจากบรรดานักเคลื่อนไหว กดดันผู้ลงโฆษณาในแพลตฟอร์ม และพยายามทำลายเสรีภาพในการพูด
- คอนเทนต์พิเศษ
สำหรับคุณ - TOP ต่างประเทศ
- วิดีโอยอดนิยม
