เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา สหภาพยุโรป กลุ่มประเทศอุตสาหกรรมชั้นนำทั้ง 7 ชาติ หรือ G7 และออสเตรเลีย ได้บรรลุข้อตกลงในการกำหนดราคาน้ำมันที่ขนส่งทางเรือของรัสเซีย ที่ระดับ 60 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล โดยให้มีผลบังคับใช้ในวันที่ 5 ธ.ค. หรือวันพรุ่งนี้
ภายใต้ข้อตกลงดังกล่าว บริษัทประกันภัยรับทำประกันภัยสำหรับการขนส่งน้ำมันทางทะเล และบริษัทอื่นๆ ที่จำเป็นต้องขนส่งน้ำมันทางทะเล จะดำเนินการเกี่ยวกับน้ำมันดิบรัสเซียได้ ต่อเมื่อราคาไม่เกินเพดานที่กำหนด
เสนอห้ามนำเข้าน้ำมันจากรัสเซีย 6 เดือน
23 ม.ค.66 บังคับใช้กม. JSOC นักโทษ 117 ราย ได้รับการปล่อยตัว
ซึ่งที่ผ่านมา น้ำมันดิบรัสเซียราคาซื้อขายอยู่ที่ระดับ 60 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลอยู่แล้ว ซึ่งต่ำกว่าราคาน้ำมันดิบเบรนท์ที่เป็นราคาอ้างอิงมาตรฐานสากล ซึ่งเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ปิดตลาดที่ 85.42 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
นอกจากนี้ อียูจะหยุดนำเข้าผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียมใดๆ ของรัสเซียตั้งแต่วันที่ 5 ก.พ.66 ขณะที่กลุ่ม G7 จะกำหนดเพดานราคาสำหรับผลิตภัณฑ์ปิโตเลียมด้วยในภายหลัง โดยใช้กลไกเดียวกันกับน้ำมันดิบ
การกำหนดเพดานราคานี้มีเป้าหมาย เพื่อสร้างแรงดันทางเศรษฐกิจต่อรัสเซีย และตัดท่อน้ำเลี้ยงในการทำสงครามในยูเครน ซึ่งทำให้พลเรือนและทหารเสียชีวิตนับไม่ถ้วน ชาวยูเครนหลายล้านคนต้องพลัดจากถิ่นที่อยู่ ขณะที่เศรษฐกิจโลกก็ต้องแบกรับผลกระทบมานานกว่า 9 เดือนแล้ว
นางเออร์ซูลา ฟอน แดร์ ไลเอิน (Ursula von der Leyen) ประธานคณะกรรมาธิการยุโรป ระบุในแถลงการณ์ว่า “กลุ่ม G7 และชาติสมาชิกอียูทั้งหมดได้ดำเนินการตัดสินใจ ที่จะส่งผลกระทบต่อรายได้ของรัสเซียรุนแรงยิ่งกว่าเดิม และลดความสามารถของรัสเซียในการทำสงครามในยูเครน นอกจากนี้ มาตรการดังกล่าวยังช่วยทำให้ราคาพลังงานโลกมีเสถียรภาพ และเป็นประโยชน์ต่อนานาประเทศทั่วโลกที่ตอนนี้กำลังเผชิญกับราคาน้ำมันที่พุ่งสูง
อย่างไรก็ตาม นายดิมิทรี เปสคอฟ (Dmitry Peskov) โฆษกทำรัฐบาลรัสเซียระบุวานนี้ (4 ธ.ค.) ว่า รัสเซียจะไม่ยอมรับเพดานราคาดังกล่าว และตัดสินใจว่าจะตอบโต้อย่างไร หลังประเมินสถานการณ์แล้ว
ขณะที่ นายมิคาอิล อุลยานอฟ (Mikhail Ulyanov) ผู้แทนถาวรของรัสเซียประจำองค์การระหว่างประเทศหลายแห่ง โพสต์ทวิตเตอร์เตือนว่า ชาติยุโรปที่สนับสนุนการกำหนดเพดานราคาดังกล่าวจะต้องเสียใจที่ตัดสินใจเช่นนั้น โดยตั้งแต่ปีนี้ ยุโรปจะต้องอยู่โดยไม่มีน้ำมันจากรัสเซีย ซึ่งก่อนหน้านี้ รัสเซียก็ได้บอกชัดเจนแล้วว่า จะไม่จัดส่งน้ำมันให้แก่กลุ่มประเทศที่เข้าร่วมการกำหนดเพดานราคาน้ำมันรัสเซีย และไม่ช้าก็เร็ว อียูก็จะกล่าวหารัสเซียอีกว่าใช้น้ำมันเป็นอาวุธ
ด้านประธานาธิบดีโวโลดิเมียร์ เซเลนสกี ของยูเครนเอง ก็ไม่พอใจกับการกำหนดเพดานราคาน้ำมันรัสเซียที่ 60 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล แต่กล่าวระหว่างการแถลงประจำวันเมื่อคืนวานนี้ว่า เป็นการตัดสินใจที่ “ไม่จริงจัง” เมื่อพิจารณาจากความจริงที่ว่า รัสเซียได้สร้างความเสียหายมหาศาลแก่ทุกประเทศในโลก โดยจงใจทำให้ตลาดพลังงานสั่นคลอน
นายเซเลนสกี กล่าวด้วยว่า ไม่ช้าก็เร็ว จะต้องมีการใช้เครื่องมือที่รุนแรงขึ้น ซึ่งน่าเสียดายที่ต้องเสียเวลาช่วงนี้ไป โดยยูเครนได้เสนอให้กำหนดเพดานราคาน้ำมันรัสเซียที่ต่ำกว่านี้ ที่ระดับ 30 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล เพื่อทำลายเศรษฐกิจของศัตรูให้เร็วขึ้น
ส่วนสถานการณ์ในการสู้รบเวลานี้ รัสเซียยังคงยิงถล่มยูเครนต่อเนื่อง โดยเสนาธิการกองทัพยูเครนรายงานว่า ตั้งแต่วันศุกร์ที่ผ่านมา กองกำลังรัสเซียได้ยิงขีปนาวุธ 5 ลูก ทำการโจมตีทางอากาศ 27 ครั้ง และยิงปืนใหญ่ 44 ครั้ง ใส่เป้าหมายทางทหาร และโครงสร้างพลเรือนของยูเครน
ขณะที่นายคีรีโล ทีโมเชนโก รองหัวหน้าทำเนียบประธานาธิบดียูเครน ระบุว่า การโจมตีล่าสุดทำให้มีพลเรือนเสียชีวิต 1 คน และได้รับบาดเจ็บอีก 4 คน ในภูมิภาคโดเนตสก์ทางตะวันออกของประเทศ
ส่วนที่จังหวัดเคอร์ซอนทางตอนใต้ของประเทศ ซึ่งเมืองเอกที่ใช้ชื่อเดียวกันรับการปลดปล่อยจากรัสเซียเมื่อ 3 สัปดาห์ก่อน นายยาโรสลาฟ ยานุชเควิช ผู้ว่าการ ระบุว่า จะกลับมาอพยพพลเรือนที่ติดอยู่ในดินแดนที่รัสเซียยึดครองอยู่อีกฝั่งแม่น้ำดนีเปอร์อีกครั้ง โดยกำหนดระยะเวลาไว้ 3 วัน
นอกจากนี้ ทางการยูเครนยังรายงานว่ามีการสู้รบดุเดือดในภูมิภาคลูฮันสก์ และรัสเซียยิงปืนใหญ่ถล่มใส่ภูมิภาคคาร์คีฟทางตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศ ซึ่งทหารรัสเซียส่วนใหญ่ถอนกำลังไปเมื่อเดือนกันยายน
ขณะเดียวกัน ที่เมืองฮอสโตเมล ใกล้กับกรุงเคียฟ เมืองหลวงของยูเครน ทางการยูเครนได้ควบคุมตัวผู้ต้องสงสัย 8 คน ที่พยายามจะขโมยผลงานศิลปะบนผนังของแบงก์ซี (Banksy) ศิลปินสตรีทอาร์ตชาวอังกฤษ โดยตัดเอาผนังที่มีภาพศิลปะออกไป โดยภาพที่กลุ่มคนดังกล่าวพยายามขโมยเป็นภาพผู้หญิงในชุดนอนสวมหน้ากากป้องกันแก๊ส ในมือถือถังดับเพลิงอยู่ข้างๆ ซากหน้าต่างที่ถูกไฟไหม้
ผู้บัญชาการตำรวจภูมิภาคเคียฟระบุว่า ภาพดังกล่าวไม่ได้รับความเสียหายและอยู่ในความดูแลของตำรวจแล้ว ขณะที่ภาพอื่นๆ ที่เป็นผลงานของแบงก์ซีในบริเวณนั้นมีการวางกำลังเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยแล้ว
ภาพของแบงก์ซีสามารถขายได้หลายล้านดอลลาร์ในตลาดศิลปะ ขณะที่แบงก์ซียืนยันว่าตนได้สร้างสรรค์ผลงาน 7 ชิ้น เมื่อเดือนที่ผ่านมา ในทีที่ได้รับผลกระทบอย่างหนักจากการสู้รบ ตั้งแต่รัสเซียรุกรานยูเครนเมื่อปลายเดือนก.พ.ที่ผ่านมา