อย่างนี้ก็ได้? พบ “โรงพักจีน” มากกว่า 100 แห่งในหลายประเทศทั่วโลก

“สถานีตำรวจ” หรือ “โรงพัก” คือสถานที่ที่ประชาชนจะเดินทางไปเพื่อแจ้งความ หรือขอความช่วยเหลือจากผู้พิทักษ์สันติราษฎร์ เป็นโครงสร้างพื้นที่ฐานที่สำคัญและพบได้ทั่วไปในทุกประเทศ

เป็นเรื่องปกติที่แต่ละประเทศก็จะมีโรงพักแค่ของประเทศตัวเองตั้งอยู่ หากเราไปเที่ยวญี่ปุ่นเราก็จะเจอแต่โรงพักญี่ปุ่น ไม่มีทางที่จะเจอโรงพักของตำรวจไทยอยู่ที่นั่น อย่างไรก็ตาม โรงพักของประเทศหนึ่งกลับมีความผิดปกติ เพราะตั้งอยู่ในหลายประเทศทั่วโลก ทั้งที่น่าจะผิดกฎหมาย

จีนทยอยคลายล็อกดาวน์โควิด เริ่มให้ปชช.กลับมาใช้ชีวิตตามปกติ

“เจียง เจ๋อหมิน” อดีตประธานาธิบดีจีน ถึงแก่อสัญกรรม

“กระดาษขาว สมการฟรีดมันน์ และอัลปากา” สัญลักษณ์ในการประท้วงจีน

เรากำลังพูดถึงกรณีการพบ “สถานีตำรวจจีน” หรือ “โรงพักจีน” ในหลายประเทศทั่วโลก เช่น เนเธอร์แลนด์ แคนาดา เยอรมนี อิตาลี ฝรั่งเศส ฯลฯ ซึ่งสร้างความฉงนงงงวยให้กับคนทั้งโลกเหลือเกินว่า จีนไปตั้งสถานีตำรวจ ซึ่งเป็นหน่วยงานบังคับใช้กฎหมาย อยู่ในอาณาเขตของประเทศอื่นได้อย่างไร ไม่ละเมิด “เขตอำนาจอธิปไตย” หรืออย่างไร

ล่าสุด Safeguard Defenders กลุ่มรณรงค์เรียกร้องสิทธิมนุษยชนได้ออกมาเปิดเผยข้อมูลว่า สถานีตำรวจจีนที่ตั้งขึ้นอย่างผิดกฎหมายเหล่านี้มีมากกว่า 100 แห่งทั่วโลก

Safeguard Defenders รายงานว่า ในเดือน ก.ย. ที่ผ่านมา มีรายงานพบสถานีตำรวจจีนผิดกฎหมาย 54 แห่ง และล่าสุดพบเพิ่มอีก 48 แห่ง รวมเป็นมากกว่า 100 แห่ง ซึ่งทั้งหมดอยู่ในประเทศโซนยุโรปและแอฟริกา เฉพาะที่อิตาลีพบมากถึง 11 แห่ง

Safeguard Defenders ระบุว่า โรงพักจีนเหล่านี้มีขึ้นเพื่อคอยจับตา ก่อกวน และในบางกรณีก็ลักลอบส่งพลเมืองจีนที่ถูกเนรเทศกลับประเทศ มีรายงานว่า มีพลเมืองจีนในฝรั่งเศส เซอร์เบีย และสเปน ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจีนนอกเครื่องแบบที่ประจำอยู่ใน “โรงพักเก๊” เหล่านั้นจับกุมและบังคับส่งตัวกลับไปยังจีน

ที่ผ่านมา ทางการจีนปฏิเสธว่า ไม่มีการจัดตั้งกองกำลังตำรวจนอกอาณาเขตประเทศของตัวเอง โดยกระทรวงการต่างประเทศจีนบอกว่า “เราหวังว่าฝ่ายที่เกี่ยวข้องจะหยุดการยุยงเพื่อสร้างความตึงเครียด การใช้เรื่องนี้เป็นข้ออ้างเพื่อป้ายสีจีนเป็นสิ่งที่ยอมรับไม่ได้”

จีนอ้างว่า สิ่งอำนวยความสะดวกที่เป็นเหมือนโรงพักเหล่านี้เป็นแค่สำนักงานอำนวยความสะดวกและช่วยเหลือชาวจีนที่ทำงานในต่างประเทศ เช่น การต่ออายุใบขับขี่

จีนยังกล่าวด้วยว่า สำนักงานดังกล่าวเหล่านี้เป็นหนึ่งในการรับมือการแพร่ระบาดของโควิด-19 ซึ่งทำให้พลเมืองจีนจำนวนมากถูกกักตัวอยู่ในประเทศอื่น ทำให้ไม่สามารถต่ออายุเอกสารต่าง ๆ ได้ แต่ Safeguard Defenders ระบุว่า สำนักงานเหล่านี้มีมาตั้งแต่ก่อนโควิด-19 ระบาด

กระทรวงการต่างประเทศของจีนกล่าวว่า สำนักงานในต่างประเทศเหล่านี้มีเพียงเจ้าหน้าที่อาสาสมัครไม่ใช่เจ้าหน้าที่ตำรวจ อย่างไรก็ตาม รายงานล่าสุดของ Safeguard Defenders อ้างว่า จีนได้มีการว่าจ้างเจ้าหน้าที่ 135 คนในสถานี 21 แห่งแรก รวมถึงมีสัญญา 3 ปีที่คนงานได้รับการว่าจ้างจากสถานีตำรวจจีนในสตอกโฮล์ม ประเทสสวีเดน

ทั้งนี้ ตามหลักกฎหมายและหลักการทูตแล้ว กิจกรรมด้านกงสุลใด ๆ นอกเหนือจากคณะผู้แทนทางการทูตอย่างเป็นทางการของประเทศหนึ่ง ซึ่งประเทศเจ้าภาพไม่ได้ให้ความยินยอมโดยชัดแจ้ง ถือเป็นเรื่องผิดปกติและผิดกฎหมายอย่างร้ายแรง

รายงานของ Safeguard Defenders ทำให้ในขณะนี้เกิดการสืบสวนเกี่ยวกับโรงพักจีนเหล่านี้ในอย่างน้อย 13 ประเทศ และทำให้ความขัดแย้งทางการทูตระหว่างจีนกับประเทศต่าง ๆ เช่น แคนาดา ทวีความรุนแรงยิ่งขึ้น

อย่างไรก็ตาม การสืบสวนในเรื่องนี้คาดว่าจะมีความซับซ้อนอย่างมาก เนื่องจากที่ผ่านมา จีนได้พัฒนาความสัมพันธ์กับหลายประเทศที่มีการพบสถานีตำรวจจีนผิดกฎหมาย ทำให้นี่เป็นเรื่องน่าอึดอัดใจสำหรับรัฐบาลของประเทศเหล่านั้นที่ต้องการรักษาสมดุลระหว่างผลประโยชน์ทางการค้ากับความมั่นคงของชาติ

นอกจากนี้ ในบางประเทศ เช่น อิตาลี ยังได้ลงนามข้อตกลงด้านความมั่นคงระดับทวิภาคีกับจีน ซึ่งทำให้ดูเหมือนว่าจีนจะมีอำนาจบางส่วนในเขตแดนประเทศอื่น ระหว่างปี 2016-2018 ตำรวจอิตาลีได้ปฏิบัติภารกิจลาดตระเวนร่วมกับตำรวจจีนหลายครั้ง ครั้งแรกในกรุงโรมและมิลาน และต่อมาขยายไปเมืองอื่น ๆ เช่น เนเปิลส์

Safeguard Defenders กล่าวว่า พบหลักฐานว่ามีการเพิ่มระบบกล้องวงจรปิดเข้าไปในหลายย่านของอิตาลีที่มีชาวจีนอยู่อาศัย “เพื่อยับยั้งอาชญากรรมอย่างมีประสิทธิภาพ”

 

 

เรียบเรียงจาก CNN / The Guardian

ภาพจาก Shutterstock