นาย โอเล็กไซ เรซนิคอฟ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมยูเครน ระบุว่ายุทโธปกรณ์ต่างๆ ที่ชาติพันธมิตรตะวันตกสัญญาไว้ เช่นรถถัง มีแนวโน้มจะมาถึงไม่ทันเวลาที่รัสเซียจะเปิดฉากการบุกครั้งใหญ่รอบใหม่ในช่วงปลายเดือน ก.พ.นี้ แต่ยูเครนยังมีอุปกรณ์และปริมาณยุทโธปกรณ์สำรองที่เพียงพอต่อการสู้รบ
นอกจากนี้ เรซนิคอฟ ยังเชื่อมั่นว่ายูเครนจะได้รับเครื่องบินตามที่ร้องขออย่างแน่นอน เพียวแต่จะเป็นเครื่องบินประเภทใดเท่านั้นเอง
ยูเครนเตรียมสั่งย้ายรมว.กลาโหม ปมทุจริตสั่งซื้อเสบียง
"แมนฯซิตี้" แพ้ "สเปอร์ส" ชวดจี้ฝูง
แม้หลายชาติชาติตะวันตกยังมีท่าทีลังเลต่อการส่งเครื่องบินขับไล่เข้าร่วมการสู้รบเนื่องจากกังวลว่าอาจเป็นการยั่วยุรัฐบาลรัสเซียและเกรงว่าจะเข้าไปมีส่วนร่วมกับความขัดแย้งมากขึ้น
ขณะที่ รัฐบาลยูเครน ยืนยันว่าจำเป็นต้องได้รับเครื่องบินรบเพื่อต่อสู้กับรัสเซียที่มีศักยภาพด้านกองทัพอากาศที่เหนือกว่าและรับมือกับการเปิดฉากบุกครั้งใหญ่รอบใหม่ที่กำลังจะมาถึง
มีรายงานข่าวเมื่อวานนี้ เรซนิคอฟ อาจถูกปรับพ้นจากตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม แต่จะยังทำงานในหน้าที่อื่นในคณะรัฐมนตรีต่อไป โดยผู้ที่จะมาดำรงตำแหน่งแทนที่ คือ นาย คิริโล บูดานอฟ หัวหน้าฝ่ายข่าวกรองของกองทัพยูเครนที่มีอายุเพียง 37 ปี
โดย นาย เดวิด อราคาเมีย (David Arakhamia) แกนนำพรรครัฐบาลยูเครน ที่เปิดเผยเรื่องนี้ระบุว่าสาเหตุที่ต้องปรับเปลี่ยนตัวบุคคลมีสาเหตุจากสถานการณ์การสู้รบที่ดำเนินอยู่ในขณะนี้ ซึ่งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับกองทัพ เช่นกระทรวงกลาโหมไม่ควรถูก บริหารโดยนักการเมือง แต่ควรเป็นบุคลากรที่มาจากสายงานด้านการป้องกันประเทศ หรือ ความมั่นคงโดยตรง
อย่างไรก็ตาม เรซนิคอฟ ยังไม่ให้ความเห็นถึงกระแสข่าวดังกล่าว โดยระบุว่าการปรับคณะรัฐมนตรีขึ้นอยู่กับการพิจารณาของ ประธานาธิบดี โวโลดิเมียร์ เซเลนสกี ผู้นำยูเครน
สำหรับกระทรวงกลาโหมยูเครนเพิ่งตกเป็นเป้าวิจารณ์ในเรื่องการทุจริตเมื่อเดือนที่แล้ว จากกรณีการจัดซื้อเสบียงอาหารให้แก่กองทัพในราคาแพงเกินจริง จนทำให้ นาย ยาเชสลาฟ ชาโปวาลอฟ (Vyacheslav Shapovalov) รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหมถูกปลด
ส่วน เรซนิคอฟ ยืนยันว่าตนเองไม่ได้กระทำผิดใดๆพร้อมตอบโต้ว่าการเปิดเผยเรื่องนี้ขัดต่อกฎหมาย