"ซูดาน" ขยายเวลาหยุดยิง อีก 72 ชั่่วโมง เปิดทางช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม

กองทัพซูดานระบุในแถลงการณ์ว่าการหยุดยิงต่อไปอีก 72 ชั่วโมงเป็นไปตามการเรียกร้องจากซาอุดีอาระเบียและสหรัฐฯ  ที่เข้ามาทำหน้าที่ไกล่เกลี่ยความขัดแย้ง พร้อมทั้งแสดงความหวังว่าอีกฝ่ายจะปฏิบัติแบบเดียวกัน 

ส่วนกองกำลังสนับสนุนเคลื่อนที่เร็ว หรือ RSF ได้ประกาศหยุดยิงอีก 72 ชั่วโมงเช่นกัน ตามข้อเรียกร้องของนานาชาติและฝ่ายต่างๆในประเทศ โดยเริ่มมีผลตั้งแต่เที่ยงคืนวันอาทิตย์ที่ผ่ามาเป็นต้นไป 

สภาพอากาศวันนี้! เหนือ-กลาง-ตะวันออก เจอพายุฤดูร้อน เกิดฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง

เลือกตั้ง 2566 : ครอบครัวชินวัตรได้ข่าวดี "อุ๊งอิ๊งค์" คลอดลูกชาย คนที่ 2

โดย RSF ย้ำว่าพร้อมปฏิบัติตามเงื่อนไขการหยุดยิงเพื่อมนุษยธรรม โดยจะเปิดเส้นทางและอำนวยวยความสะดวกให้แก่พลเมืองชาวซูดานได้รับสิ่งของจำเป็น รวมถึงเดินทางไปยังพื้นที่ปลอดภัย 

ขณะเดียวกัน สำนักงานการบินพลเรือนซูดาน เปิดเผยว่า คำสั่งปิดน่านฟ้าของประเทศ จะขยายเวลาบังคับใช้ต่อไปจนถึงวันที่ 13 พ.ค.นี้ โดยยกเว้นให้สำหรับเครื่องบินที่ทำหน้าที่ส่งความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมและอพยยพประชาชน แต่เที่ยวบินเหล่านี้ต้องได้รับการอนุญาตจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และอนุมัติจากกองทัพซูดาน

สำหรับการการสู้รบในซูดาน ขณะนี้ได้เข้าสู่สัปดาห์ที่ 3 แม้จะมีความพยายามในการทำข้อตกลงหยุดยิงหลายฉบับ รวมถึงข้อตกลงหยุดยิง 72 ชั่วโมงฉบับล่าสุดเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาซึ่งหมดอายุไปแล้ว  แต่ก็ยังไม่สามารถยุติการสู้รบได้ ท่ามกลางความกังวลว่าวิกฤตความขัดแย้งที่เกิดขึ้นจะบานปลายจนนำซูดาน ซึ่งเป็นประเทศขนาดใหญ่อันดับที่ 3 ของทวีปแอฟริกาเข้าสู่ภาวะสงครามกลางเมืองและความไร้เสถียรภาพเต็มรูปแบบ

ข้อมูลจากองค์การอนามัยโลก (WHO) ระบุว่า การสู้รบที่ดำเนินมาตั้งแต่วันที่ 15 เมษายน ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตในซูดานไปแล้วอย่างน้อย 559 ราย และทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บอีกมากกว่า 4,000 คน สถานการณ์ดังกล่าวทำให้ประชาชนในซูดานจำนวนมากอพยพหนีตายออกจากพื้นที่ขัดแย้ง  

นับตั้งแต่การสู้รบในซูดานปะทุขึ้นเมื่อ 15 เม.ย.ที่ผ่านมา มีรายงานว่า ชาวซูดานจำนวนมากได้อพยพหนีภัยออกไปยังประเทศเพื่อนบ้านที่อยู่รายรอบ ไม่ว่าจะเป็นอียิปต์ เอธิโอเปีย ชาด และซูดานใต้ นำมาซึ่งวิกฤตผู้อพยพครั้งใหญ่ที่สุดในรอบหลายปีของแอฟริกา..

อย่างไรก็ตาม  ไม่ใช่ผู้อพยพชาวซูดานทุกคนที่จะมีเงินจ้างรถบรรทุกหรือซื้อตั๋วรถโดยสารข้ามไปยังประเทศเพื่อนบ้าน โดยขณะนี้ยังมีชาวซูดานอีกมากที่ต้องอพยพหนีภัยการสู้รบภายในประเทศของตัวเองด้วยการเดินเท้าและเดินทางด้วยม้าอย่างยากลำบาก

ขณะเดียวกัน เมื่อวานนี้ ประธานานาธิบดี เรย์ซิป เทย์ยิป เออร์โดอาน ผู้นำตุรกี เปิดเผยว่า หน่วยข่าวกรองตุรกีได้สังหาร นาย อาบู ฮุซเซน อัล คูราชี  (Abu Hussein al-Qurashi) แกนนำกลุ่มก่อการร้ายไอเอสในซีเรีย หลังจากพยายามติดตัวนาย อัค ควอราซี มาเป็นเวลนานาน 

โดยมีรายงานว่าการสังหารนาย อัล คูราชี เกิดขึ้นระหว่างการบุกจู่โจมสถานที่แห่งหนึ่งในเมืองจันดาริส์ (Jandaris) ทางภาคเหนือของซีเรีย ซึ่งเพิ่งผ่านพ้นเหตุแผ่นดินไหวและอยู่ภายใต้การควบคุมของกลุ่มติดอาวุธหลายกลุ่ม ที่ตุรกีให้การสนับสนุน  

สำหรับ อัล คูราชี  ได้รับเลือกเป็นแกนนำกลลุ่มไอเอสมาตั้งแต่เดือน พ.ย ปีที่แล้ว หลังจากผู้นำคนก่อนถูกสังหารในปฏิบัติการทางตอนใต้ของซีเรีย 

ขณะที่ปัจจุบันยังคงมีแนวร่วมไอเอสหลงเหลืออยู่อีกจำนวนหนึ่งทั้งในอิรัก และ ซีเรีย ที่ยังมีศักยภาพเพียงพอในการลักลอบก่อวินาศกรรม