กลุ่มผู้ประท้วง ซึ่งส่วนใหญ่เป็นวัยรุ่น ออกมาก่อจลาจล เผารถยนต์และสิ่งของ รวมถึงปะทะกับตำรวจปราบจลาจล ต่อเนื่องเป็นวันที่ 2 โดยเฉพาะที่เมืองนองแตร์ ทางตะวันตกของกรุงปารีส ซึ่งเป็นเมืองที่เด็กวัย 17 ปี ถูกยิงเสียชีวิต มีกลุ่มชายฉกรรจ์ชุดดำ สวมหน้ากากปิดบังใบหน้าออกมายิงพลุไฟใส่เจ้าหน้าที่ บางส่วนยกพวกเข้าไปขโมยข้าวของตามร้านค้า รวมถึงทำลายทรัพย์สินสาธารณะ
ที่เมืองลีล มีรายงานว่า กลุ่มผู้ประท้วงบุกเข้าไปจุดไฟเผาสิ่งของที่อยู่ในศาลาว่าการเมือง
ฝรั่งเศสเกิดเหตุจลาจลประท้วง หลังตำรวจยิงเยาวชนอายุ 17 ปีดับ
ตำรวจฝรั่งเศสชกผู้ประท้วง ต้านกฎหมายปฏิรูประบบบำนาญ
ส่วนที่กรุงปารีส บรรยากาศเช้านี้เงียบสงบ แต่มีเศษซากความเสียหายกระจัดกระจายอยู่ตามท้องถนน ขณะที่ทางการสั่งระดมตำรวจปราบจลาจลประมาณ 2,000 นาย ดูแลความปลอดภัยอย่างเข้มข้น หลังเมื่อคืนที่ผ่านมา มีการปะทะกันระหว่างตำรวจและผู้ประท้วงที่เขต 18 และ 19 ซึ่งเป็นย่านที่พักอาศัยของกลุ่มผู้ใช้แรงงาน
และตอนนี้ เหตุรุนแรงก็เริ่มลุกลามขยายวงไปยังเมืองอื่น ๆ รอบกรุงปารีสด้วย อาทิ ตูลูซ ดีฌง และลียง
เจอราลด์ ดาร์มาแนง (Gerald Darmanin) รัฐมนตรีมหาดไทยของฝรั่งเศส ระบุว่า นี่เป็นค่ำคืนแห่งความรุนแรงต่อสัญลักษณ์ความเป็นสาธารณรัฐ ซึ่งตลอดคืนที่ผ่านมา มีผู้ประท้วงถูกจับไปแล้วอย่างน้อย 150 คน
ชนวนเหตุของการประท้วงครั้งนี้มาจากความโกรธแค้นต่อกรณีการเสียชีวิตของนาเฮล เอ็ม ชาวฝรั่งเศสเชื้อสายแอลจีเรีย วัย 17 ปี ที่ถูกตำรวจจ่อยิงเสียชีวิตในระยะประชิด หลังขับรถหนีเมื่อถูกตำรวจเรียกให้หยุด เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา
ด้านประธานาธิบดี เอ็มมานูเอล มาครง ของฝรั่งเศส ซึ่งก่อนหน้านี้ได้ประณามการปฏิบัติงานของตำรวจ ว่าเป็นเรื่องที่ยอมรับไม่ได้ ล่าสุด เช้านี้ได้เรียกประชุมคณะรัฐมนตรี เพื่อหาทางรับมือกับเหตุรุนแรงที่เกิดขึ้น โดยมาครงประณามการใช้ความรุนแรงของกลุ่มผู้ประท้วง ว่าเป็นเรื่องไม่เหมาะสมเช่นกัน
จากสถิติตั้งแต่ปี 2017 พบว่า ผู้ที่ถูกตำรวจวิสามัญฯ หลังขับรถหนีการตรวจค้น ส่วนใหญ่จะเป็นคนดำ ไม่ก็เป็นชาวอาหรับ
ภาพจาก AFP
