อิสราเอล-เฮซบอลเลาะห์ ยกระดับตึงเครียด-โจมตีตอบโต้ต่อเนื่อง

เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา กองทัพอิสราเอลเปิดเผยภาพขีปนาวุธที่ยิงเข้าทำลายโครงสร้างพื้นฐานทางการทหารแห่งหนึ่งในประเทศซีเรีย อย่างไรก็ดีกองทัพอิสราเอลไม่ได้ระบุพิกัดว่าจุดที่โจมตีอยู่ตรงไหน ระบุเพียงว่าการโจมตีเป็นไปเพื่อตอบโต้การยิงขีปนาวุธจากซีเรียเข้ามาในแผ่นดินอิสราเอลเมื่อคืนที่ผ่านมา (อาทิตย์ที่ 29 ตุลาคม)

นี่คือเหตุการณ์ที่อิสราเอลกล่าวถึง ขีปนาวุธถูกยิงออกมาจากทั้งซีเรียและเลบานอน เสียงดังกึกก้องท่ามกลางความมืด มุ่งหน้าเข้ามาที่อิสราเอล ก่อนที่จะถูกสกัดตก

อิสราเอล โต้กลับหลังถูก “ฮิซบอลเลาะห์”ในเลบานอน โจมตีด้วยขีปนาวุธ

ด่วน! กลุ่มฮิซบอลเลาะห์ ใช้เครื่องร่อนบุกทางตอนเหนือของอิสราเอล

ตลอดช่วง 3 สัปดาห์ที่ผ่านมาหรือนับตั้งแต่อิสราเอลประกาศสงครามกับฮามาส กลุ่มเฮซบอลเลาะห์ ซึ่งมีฐานที่มั่นอยู่ทางตอนใต้ของเลบานอนได้ยิงปืนใหญ่ตอบโต้กับกองทัพอิสราเอลที่ประจำการอยู่ทางตอนเหนืออยู่เป็นระยะ จนส่งผลให้มีสมาชิกเฮซบอลเลาะห์เสียชีวิตไปแล้ว 46 ราย ส่วนฝ่ายอิสราเอลสูญเสียทหาร 7 นาย เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นบริเวณชายแดนอิสราเอลบวกรวมกับความดุเดือดของสงครามในฉนวนกาซา ทำให้หลายฝ่ายกังวลว่าสงครามจะลุกลามเป็นสงครามภูมิภาค

เฮซบอลเลาะห์คือกลุ่มติดอาวุธที่ก่อตั้งขึ้นในช่วงทศวรรษที่ 1980 ด้วยการสนับสนุนของอิหร่าน ซึ่งในขณะนั้นเพิ่งมีการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองที่สำคัญ นั่นคือการปฏิวัติอิสลามและเป็นช่วงเวลาเดียวกันกับที่อิสราเอลบุกเลบานอนเมื่อปี 1982 เพื่อกำจัดองค์กรปลดปล่อยปาเลสไตน์หรือ PLO ที่นำโดยยัสเซอร์ อาราฟัต ที่อาศัยความวุ่นวายจากสงครามกลางเมืองไปตั้งฐานที่มั่นที่นั่น

กลุ่มเฮซบอลเลาะห์ใช้วิธีระเบิดฆ่าตัวตายเพื่อบั่นทอนกองกำลังอิสราเอล รวมถึงกองกำลังสหรัฐฯ และฝรั่งเศสที่ถูกส่งมารักษาสันติภาพ  ปี 1983 เฮซบอลเลาะห์ก่อเหตุระเบิดฆ่าตัวตายครั้งใหญ่ที่ทำให้หน่วยนาวิกโยธินสหรัฐฯ เสียชีวิตกว่า 214 นาย และฝรั่งเศสสูญเสียหน่วยพลร่มไปเกือบ 50 นาย หลังจากนั้น สหรัฐฯ และฝรั่งเศสตัดสินใจถอนกำลังจากเลบานอน ส่งผลให้อิสราเอลต้องถอนทหารออกตาม โดยทหารคนสุดท้ายของอิสราเอลออกจากที่นั่นในปี 2000

หลังจากนั้น เฮซบอลเลาะห์ก็ผงาดขึ้น โดยขณะนี้ถือเป็นกองกำลังที่ไม่ใช่รัฐ หรือ Non-State Actor ที่แข็งแกร่งที่สุดในโลก เฮซบอลเลาะห์มีอาวุธที่ทันสมัยจำนวนมากอยู่ในครอบครอง   เฉพาะขีปนาวุธในคลัง ประเมินกันว่ามีอยู่ประมาณ 130,000-150,000 ลูก ซึ่งเป็นจำนวนที่สูงพอที่จะทำลายระบบป้องกันภัยทางอากาศของอิสราเอลได้

เฮซบอลเลาะห์ออกปฏิบัติการในหลายพื้นที่ของตะวันออกกลางในฐานะตัวแทนอิหร่าน เช่นการเข้าไปช่วยประธานาธิบดี อัล อัสซาด ของซีเรีย รบกับฝ่ายต่อต้านในสงครามกลางเมืองที่ระเบิดขึ้นเมื่อปี 2011 นอกจากในเลบานอนแล้ว เฮซบอลเลาะห์ยังมีฐานที่มั่นในซีเรียด้วย โดยอยู่ใกล้กับแนวชายแดนอิสราเอ

ทั้งนี้ในช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา บริเวณดังกล่าวเป็นอีกจุดที่มีการโจมตีตอบโต้กันไปมาที่ผ่านมา อิหร่านไม่เคยปิดบังว่า มีสายสัมพันธ์กับเฮซบอลเลาะห์ การยิงขีปนาวุธเข้ามาในอิสราเอลเมื่อคืนที่ผ่านมาเกิดขึ้นพร้อมๆ กับการออกมาประกาศของ อิบรอฮีม เราะอีซี ประธานาธิบดีอิหร่าน ที่เตือนว่า  อิสราเอลกำลังล้ำเส้นอันตรายหลังประกาศทำสงครามกับฮามาสในขั้นที่ 2 โดยระบุว่า สิ่งที่อิสราเอลทำคือการบีบให้ทุกฝ่ายต้องลงมือตอบโต้ และอิหร่านจะไม่นิ่งเฉยต่อสงครามที่กำลังเกิดขึ้น

ความเสี่ยงของการเข้ามาร่วมวงของอิหร่านคือ สหรัฐฯ จะกระโดดเข้ามาด้วย และนั่นหมายถึงสงครามจะขยายขอบเขตเป็นสงครามระดับภูมิภาค ก่อนหน้าขีปนาวุธจะถูกยิงเข้ามาในอิสราเอล ผลประโยชน์ทางการทหารของสหรัฐฯ ในตะวันออกกลางถูกโจมตีอย่างต่อเนื่องจุดที่เป็นเป้าคือ ฐานทัพของสหรัฐฯ ในอิรักและซีเรีย ที่โดนโจมตีไปกว่า 14 ครั้งในช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา หลังจากนั้นสหรัฐฯ ก็ตอบโต้กลับด้วยการยิงขีปนาวุธโจมตีไปยังฐานทหารที่มีความเชื่อมโยงกับอิหร่านในซีเรีย

เมื่อคืนที่ผ่านมา เจค ซัลลิแวน ที่ปรึกษาด้านความมั่นคงแห่งชาติสหรัฐฯ ออกมาระบุว่า การโจมตีกลับคือการเตือนไปที่อิหร่านและตัวแทนของอิหร่านว่าอย่าล้ำเส้น โดยแนวทางของสหรัฐฯ ชัดเจน นั่นก็คือ หากเราถูกโจมตี เราจะตอบโต้ ที่ปรึกษาด้านความมั่นคงแห่งชาติสหรัฐฯ ยังระบุด้วยว่า กังวลอย่างมากที่สถานการณ์จะพาไปถึงจุดที่สงครามขยายวงเป็นสงครามระดับภูมิภาค

ขณะที่สงครามในพื้นที่ฉนวนกาซาสุ่มเสี่ยงจะนำไปสู่หายนะทางมนุษยธรรม ตลอดสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ประชาชนในหลายพื้นที่ทั่วโลกยังคงออกมาเดินขบวนเรียกร้องให้หยุดยิงในฉนวนกาซา

สุดสัปดาห์ที่ผ่านมา หลังอิสราเอลประกาศทำสงครามไปสู่ขั้นที่ 2 ประชาชนหลายประเทศทั่วโลกได้ลงถนนประท้วงเรียกร้องให้อิสราเอลหยุดยิงในฉนวนกาซาอย่างต่อเนื่อง ทั้งใน กรุงลอนดอน กรุงเบอร์ลิน กรุงโรม และนครนิวยอร์ก

ขณะที่อีกเมืองหนึ่งที่มีผู้ออกมาประท้วงอย่างท่วมท้นคือที่กรุงมาดริด ประเทศสเปน ชาวสเปนหลายพันคนเดินขบวนพร้อมแสดงออกเชิงสัญลักษณ์ต่างๆ เพื่อแสดงความเป็นหนึ่งเดียวกับชาวปาเลสไตน์

เช่น การถือธงปาเลสไตน์หรือชูป้ายประท้วงที่ระบุข้อความเช่น “หยุดสงครามเดี๋ยวนี้” หรือ “อย่าเพิกเฉยต่อความทุกข์ยากของชาวปาเลสไตน์” ฯลฯ  ผู้เข้าร่วมการชุมนุมรายหนึ่งระบุว่า เขาต้องการให้มีการหยุดยิงและให้ความช่วยเหลือทางมนุษยธรรมผ่านเข้าไปในฉนวนกาซา  อีกทั้งยังต้องการเห็นประชาคมโลกโน้มน้าวให้อิสราเอลเปลี่ยนแนวทางและท่าทีต่อการทำสงครามในขณะนี้

ส่วนอีกแห่งในยุโรปที่ประชาชนหลายพันออกมาเดินขบวนเรียกร้องอย่างคับคั่ง คือที่กรุงเฮก ประเทศเนเธอร์แลนด์ ส่วนที่อเมริกาเหนือ อีกเมืองหนึ่งที่ประชาชนออกมาเรียกร้องให้มีการหยุดยิงคือที่โตรอนโต ประเทศแคนาดา ผู้เข้าร่วมชุมนุมหลายร้อยคนต่างชูป้ายประท้วงที่มีข้อความในเชิงประณามการโจมตีพลเรือนผู้บริสุทธิ์และเรียกร้องให้อิสราเอลหยุดยิง

ในการประท้วงที่นี่มีผู้ชุมนุมชาวยิวเข้าร่วมด้วย โดยชาวยิวรายนี้ระบุว่าออกมาร่วมประท้วงเพื่อแสดงความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันกับชาวปาเลสไตน์ และเรียกร้องให้มีการหยุดยิงในพื้นที่ฉนวนกาซาทันที

ขณะเดียวกันในประเทศอาหรับอย่างเลบานอน ซึ่งเป็นประเทศเพื่อนบ้านอิสราเอลก็มีการนัดเดินขบวนชุมนุมเรียกร้องให้ยุติการนองเลือดที่กรุงเบรุต  ซึ่งในระหว่างการชุมนุม มีผู้เข้าร่วมชูธงของกลุ่มฮามาสไปพร้อมๆ กับธงปาเลสไตน์ด้วย ม็อบต่อต้านยิวบุกสนามบินที่ดาเกสถานในรัสเซีย  

อย่างไรก็ดี การชุมนุมเพื่อแสดงความเป็นหนึ่งเดียวและแสดงความสนับสนุนต่อปาเลสไตน์ไม่ได้เป็นไปด้วยความสงบเสมอไป และบางแห่งก็ได้ยกระดับจนกลายเป็นการจลาจลต่อต้านชาวยิว

เมื่อวานนี้ที่สาธารณรัฐดาเกสถานทางใต้สุดของรัสเซีย บริเวณตอนเหนือของเทือกเขาคอเคซัส ซึ่งมีประชากรส่วนใหญ่เป็นชาวมุสลิม ได้เกิดเหตุจลาจลบุกสนามบินในเมืองมาฮัชกาลา เพื่อตามไล่ล่าชาวยิวอย่างโกรธแค้น

ฝูงชนหลายร้อยคนที่มารวมตัวกันที่สนามบินได้บุกเข้าไปในอาคารผู้โดยสารในสนามบิน พร้อมกับชูธงปาเลสไตน์และตะโกนประท้วงต่อต้านชาวยิว  บางส่วนสามารถบุกเข้าไปถึงรันเวย์และปิดล้อมเครื่องบินไว้ได้ จนทำให้ผู้โดยสารจำต้องซ่อนตัวภายในเครื่องบิน

เหตุวุ่นวายดังกล่าวเกิดขึ้นหลังจากมีโพสต์ในเทเลแกรมระบุว่า จะมีเที่ยวบินจากเทลอาวีฟมาลงจอดที่สนามบินในดาเกสถาน ซึ่งพาผู้ลี้ภัยชาวอิสราเอลมาด้วย  โพสต์ดังกล่าวได้เรียกร้องให้ผู้คนไปปิดล้อมสนามบินและประณามรัฐบาลอิสราเอล

เหตุจลาจลเป็นไปอย่างวุ่นวาย ก่อนที่จะมีเจ้าหน้าที่ควบคุมฝูงชนเข้าควบคุมสถานการณ์และจับกุมผู้ก่อจลาจลบางส่วนได้ 60 คน ส่วนผู้ได้รับบาดเจ็บ ทางการของดาเกสถานระบุว่ามีอย่างน้อย 20 คน โดยมี 2 คนที่ได้รับบาดเจ็บสาหัส

ขณะนี้เซอร์เก เมลิคอฟ ผู้ปกครองแคว้นดาเกสถานได้ลงพื้นที่ตรวจสอบสนามบินแล้ว มีรายงานจากเจ้าหน้าที่ในสนามบินว่า เกิดความเสียหายขึ้นหลายแห่ง เช่น ด่านศุลกากร พื้นที่ตรวจหนังสือเดินทาง รั้วล้อมรันเวย์

ในขณะที่วิกฤตการขาดแคลนอาหาร น้ำ และยารักษาโรคในฉนวนกาซากำลังเลวร้ายลงในทุกขณะ หลังอิสราเอลประกาศปิดล้อมมาเป็นเวลากว่าสามสัปดาห์   เมื่อวานนี้ระหว่างการเยือนจุดผ่านแดนราฟาห์ ซึ่งเป็นเส้นทางที่ใช้ในการขนส่งความช่วยเหลือทางมนุษยธรรมจากชายแดนอียิปต์เข้าไปยังฉนวนกาซา

คาริม ข่าน หัวหน้าอัยการศาลอาญาระหว่างประเทศหรือ ICC ได้ออกมาเรียกร้องต่ออิสราเอลว่า อิสราเอลควรต้องพยายามประกันให้ได้อย่างชัดเจนและไม่รีรอว่า ประชาชนในฉนวนกาซาจะได้รับอาหารและยารักษาโรค โดยเฉพาะยาสลบที่จำเป็นสำหรับการผ่าตัด

ขณะเดียวกัน อันโตนิโอ กูเตอร์เรส เลขาธิการสหประชาชาติ ก็ได้ออกมาย้ำข้อเรียกร้องของสหประชาชาติอีกครั้งว่า ต้องให้มีการหยุดยิงเพื่อมนุษยธรรม หรือ humanitarian pause ท่ามกลางปฏิบัติการทางการทหารของอิสราเอลที่ยกระดับความเข้มข้นขึ้น  อีกทั้งยังเรียกร้องไปยังกลุ่มฮามาสให้ปล่อยตัวประกันทั้งหมดอย่างไม่มีเงื่อนไข

ในวันที่ทั่วโลกส่งเสียงเรียกร้องให้มีการหยุดยิงในฉนวนกาซาอย่างท่วมท้น ประชาคมโลกก็ยังไม่สามารถออกข้อมติใดๆ ที่มีผลผูกพันให้มีการหยุดยิงในฉนวนกาซาได้  วันนี้จะเป็นอีกครั้งที่คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ หรือ UNSC มีกำหนดประชุมฉุกเฉินเพื่อผ่านข้อมติหยุดยิง

วันนี้ในอีกไม่กี่ชั่วโมงข้างหน้า คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ หรือ UNSC จะประชุมฉุกเฉินตามคำร้องขอของสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ประเทศกลุ่มอาหรับหนึ่งเดียวที่เป็นสมาชิกไม่ถาวรของ UNSC ในขณะนี้ การประชุมนัดฉุกเฉินครั้งนี้จะเป็นการลงคะแนนเสียงต่อข้อมติที่เสนอโดยสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์

แหล่งข่าวไม่เปิดเผยตัวตนระบุต่อสำนักข่าว CNN ว่า ร่างข้อมติของสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์จะเกี่ยวข้องกับปฏิบัติการภาคพื้นดินของอิสราเอล โดยจะเรียกร้องให้มีการ “หยุดยิงชั่วคราวเพื่อมนุษยธรรมทันที” หรือ immediate humanitarian pause

นี่เป็นการประชุมที่ต้องจับตามองอย่างมากว่า คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติจะสามารถผ่านข้อมติที่มีผลผูกพันออกมาได้หรือไม่  เพราะที่ผ่านมา สหรัฐฯ ได้ใช้สิทธิยับยั้งหรือ veto ในฐานะสมาชิกถาวรของ UNSC ไม่ให้ผ่านข้อมติหยุดยิงออกมาได้   โดยครั้งล่าสุดเมื่อวันที่ 18 ตุลาคม สหรัฐฯ ได้ลงมติ veto ร่างข้อมติของ UNSC ที่เสนอโดยบราซิล โดยให้เหตุผลว่า ข้อมติดังกล่าวไม่ได้ระบุถึงสิทธิในการป้องกันตนเองของอิสราเอล

อย่างไรก็ดี การลงคะแนนเสียงในข้อมติที่กำลังจะเกิดขึ้นในวันนี้ เป็นไปท่ามกลางวิกฤตในฉนวนกาซาที่รุนแรงยิ่งกว่าสัปดาห์ที่ผ่านมา ขณะที่สหรัฐฯ ซึ่งสนับสนุนอิสราเอลมาตลอดเริ่มส่งสัญญาณตึงเครียดต่ออิสราเอลแล้ว

 โดยเจค ซัลลิแวน ที่ปรึกษาด้านความมั่นคงแห่งชาติของสหรัฐฯ ได้ระบุว่า อิสราเอลต้องแยกระหว่างเป้าหมายทางการทหารและพลเรือนออกจากกัน และอิสราเอลต้องตอบให้ได้ว่า แนวทางการสู้รบนั้นสมเหตุสมผลกับเป้าหมายที่ต้องการบรรลุหรือไม่

เปิดสถิติหวยออกประจำปี 2566

ลดเบนซิน แก๊สโซฮอล์ 91 และ 95 อย่างละ 1 บาทต่อลิตร รวม 2.50 บาท

สรุปผลการมอบรางวัลบัลลงดอร์ Ballon d'Or ประจำปี 2023