สำนักข่าวต่างประเทศรายงานเมื่อวานนี้ (3 ธ.ค.) ว่า ลอยด์ ออสติน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมของสหรัฐฯเปิดเผยว่า การใช้จ่ายในด้านการผลิตกระสุนปืนใหญ่ของกระทรวงกลาโหม หรือเพนตากอนเพิ่มขึ้นสองเท่าในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา และคาดว่าจะเพิ่มขึ้นอีก เนื่องจากอัตราการใช้อาวุธยุทโธปรณ์ของยูเครนในสงครามความขัดแย้งกับรัสเซียสูงขึ้นอย่างมาก และนี่ถือเป็นการตอกย้ำถึงความจำเป็นในการลงทุนด้านอาวุธยุทโธปรณ์ให้มากขึ้น
เกาหลีเหนือประกาศ! จะดำเนินการตอบโต้ หลังถูกสหรัฐฯ แทรกแซงดาวเทียม
สหรัฐฯ ส่งระเบิดเจาะอุโมงค์ ช่วยอิสราเอลถล่มฮามาส
ปูตินเตรียมสรรหาทหารเข้ากองทัพรัสเซียอีก 170,000 นาย
ทั้งนี้ความเคลื่อนไหวดังกล่าวมีขึ้น ท่ามกลางการตอบโต้การรุกรานของยูเครนที่ประสบความล้มเหลว และไม่เป็นไปตามเป้าหมาย แม้ว่ายูเครนจะได้รับการสนับสนุนทางทหารมูลค่าหลายพันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ จากสหรัฐฯ และชาติพันธมิตรจากตะวันตก
รัฐมนตรีกลาโหมสหรัฐฯ ระบุว่า เมื่อเทียบกับงบประมาณด้านกลาโหมเมื่อ 5 ปีที่แล้ว พบว่า สหรัฐฯได้ทุ่มเงินให้กับการลงทุนด้านอาวุธยุทโธปกรณ์เพิ่มขึ้นเกือบ 50% และนี่ไม่ได้เป็นการการผลิตกระสุนปืนใหญ่ของสหรัฐฯเพิ่มขึ้น 2 เท่าเท่านั้น แต่เป็นการเพิ่มขึ้นถึง 4 เท่า
นอกจากนี้กองทัพสหรัฐฯยังได้พยายามปรับปรุงฐานอุตสาหกรรมด้านกลาโหมของประเทศให้ทันสมัยให้ได้มากที่สุดในรอบเกือบ 40 ปี และจะมีการจัดสรรเงินทุน 5 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐฯให้กับภาคส่วนนี้ ซึ่งจะสร้างงานให้กับชาวอเมริกันนับหมื่นตำแหน่งในกว่า 30 รัฐ โดยกระสุนปืนใหญ่จะถูกผลิตในรัฐเพนซิลเวเนีย โอไฮโอ และเท็กซัส ด้วย
ทั้งนี้เมื่อสองสัปดาห์ก่อน ระหว่างที่ ลอยด์ ออสติน เดินทางเยือนกรุงเคียฟ เมืองหลวงของยูเครนได้ประกาศมอบความช่วยเหลือชุดใหม่มูลค่า 100 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ให้กับยูเครนรวมถึงกระสุนปืนใหญ่ด้วย
โดยความเคลื่อนไหวเหล่านี้เกิดขึ้นเพียงไม่นาน หลังจากที่ประธานาธิบดีโวโลดิเมียร์ เซเลนสกีของยูเครนอ้างว่า รัฐบาลเคียฟได้รับการส่งมอบอาวุธยุทโธปรณ์ที่ลดลง และชะลอตัวลง นับตั้งแต่อิสราเอล พันธมิตรอีกรายหนึ่งของสหรัฐฯเปิดปฏิบัติการทางทหารต่อสู้กับกลุ่มฮามาสตั้งแต่วันที่ 7 ตาลาคมที่ผ่านมา
ภาพจาก SAUL LOEB / AFP
สพฐ.ประกาศวันหยุด 4 - 8 ธ.ค. เพื่อให้นักเรียนเตรียมสอบ TGAT - TPAT