สหรัฐฯ ส่งความช่วยเหลือให้กาซาทางอากาศครั้งแรก

แต่การบรรลุข้อตกลงยังคงไม่เกิดขึ้น เนื่องจาก "กลุ่มฮามาสและอิสราเอล" มีความเห็นบางเรื่องไม่ตรงกัน นี่ทำให้การสู้รบในพื้นที่ยังดำเนินต่อไปและส่งผลกระทบต่อประชาชนทั่วพื้นที่ "ฉนวนกาซา" โดยความเดือดร้อนที่เห็นได้ชัดเจนคือ การขาดแคลนยา อาหาร น้ำ และเวชภัณฑ์ต่างๆ จนล่าสุด สหรัฐฯ ตัดสินใจส่งความช่วยเหลือทางอากาศให้แก่ประชาชนในฉนวนกาซาเป็นครั้งแรก

ฮามาส อ้าง อิสราเอล โจมตีชาวกาซาดับกว่า 100 ราย

อิสราเอล อาจยอมถอยเพื่อแลกเปลี่ยนตัวประกัน

รายการรอบโลก DAILY

เมื่อช่วงบ่ายวานนี้ 2 มี.ค. ตามเวลาท้องถิ่น เครื่องบิน 3 ลำจากกองทัพอากาศสหรัฐฯ ร่วมกับกองทัพอากาศของราชอาณาจักรจอร์แดน ได้ทิ้งชุดความช่วยเหลือ ซึ่งประกอบด้วยอาหารจำนวน 38,000 ชุด บนชายหาดในพื้นที่ทางตะวันตกเฉียงใต้ของฉนวนกาซา ตามแนวชายฝั่งทะเลเมดิเตอร์เรเนียน

ทางการสหรัฐฯ ระบุว่า ปฏิบัติการดังกล่าวนี้ เป็นโครงการช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมแบบฉุกเฉิน ที่ได้รับอนุมัติจากประธานาธิบดีโจ ไบเดนโดยตรง เพื่อต่อสู้กับวิกฤตด้านมนุษยธรรมในฉนวนกาซาที่รุนแรงขึ้นเรื่อยๆ

ขณะเดียวกัน ทางการสหรัฐฯ ก็ได้ให้คำมั่นว่า จะส่งความช่วยเหลือให้กับประชาชนในฉนวนกาซาเพิ่มเติมอีกหลังจากนี้

เรื่องการส่งความช่วยเหลือเพิ่มเติมดังกล่าว ได้รับการยืนยันอีกครั้งโดยประธานาธิบดีโจ ไบเดนของสหรัฐฯ ที่โพสต์ข้อความผ่านบัญชีแอปพลิเคชัน X โดยระบุว่า ปริมาณความช่วยเหลือที่หลั่งไหลไปยังฉนวนกาซานั้นยังไม่เพียงพอ และสหรัฐฯ จะทำทุกอย่างที่ทำได้ เพื่อให้ความช่วยเหลือได้เข้าไปถึงประชาชนชาวกาซาอย่างเพียงพอ

หลายฝ่ายตั้งข้อสังเกตว่า นี่อาจเป็นความพยายามของสหรัฐฯ เพื่อการบรรเทาวิกฤตในฉนวนกาซาและลดกระแสวิจารณ์จากประชาคมระหว่างประเทศ

หลังจากเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา กระทรวงสาธารณสุขของฉนวนกาซาอ้างว่าชาวปาเลสไตน์มากกว่า 100 คน ถูกกองทัพอิสราเอลสังหารในระหว่างที่เกิดความวุ่นวาย หลังไปแย่งสิ่งของจากรถขนส่งความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม

นี่ยังถือเป็นครั้งแรกที่รัฐบาลตัดสินใจส่งความช่วยเหลือทางอากาศแก่ชาวกาซา หลังจากหลายชาติ เช่น จอร์แดน อียิปต์ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ กาตาร์ สหราชอาณาจักร และฝรั่งเศส ได้ใช้วิธีการนี้ในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา

หลังจากที่ชุดความช่วยเหลือถูกส่งลงมาจากเครื่องบิน บรรดาประชาชนที่อยู่ในกาซา ซิตี เมืองเอกของฉนวนกาซา ก็ได้ไปรวมตัวกันใกล้จุดที่กล่องความช่วยเหลือพร้อมร่มชูชีพตกลงมา ประชาชนในกาซา ซิตี ระบุกับผู้สื่อข่าวว่า พวกเขาต้องการให้หน่วยงานต่างๆ ส่งความช่วยมาด้วยรถบรรทุกมากกว่า เพราะการส่งความช่วยเหลือมาทางอากาศนั้นไม่เพียงพอต่อความต้องการของประชาชน

 ส่วนนี่คือภาพบริเวณชายหาดเมืองราฟาห์ พื้นที่ทางใต้สุดของฉนวนกาซา ประชาชนจำนวนมากไปรวมตัวกันบริเวณชายทะเล ใกล้กับจุดที่ร่มชูชีพตกลงมา เพื่อรับสิ่งของยังชีพ กลับไปให้สมาชิกในครอบครัว

นอกจากความช่วยเหลือของสหรัฐฯ แล้ว สำนักงานเพื่อการประสานงานกิจการด้านมนุษยธรรมแห่งสหประชาชาติ (OCHA) ก็ได้ออกมาระบุว่า ทางหน่วยงานพร้อมด้วยองค์การอนามัยโลก และองค์การทุนเพื่อเด็กแห่งสหประชาชาติ หรือ UNICEF ได้ส่งความช่วยเหลือไปยังฉนวนกาซา ตั้งแต่เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา

ขณะเดียวกัน เจ้าหน้าที่ของ OCHA กล่าวว่า ทีมงานได้ไปเยี่ยมชมโรงพยาบาลอัล-ชิฟา โรงพยาบาลที่ใหญ่ที่สุดในฉนวนกาซา พร้อมทั้งจัดหายา วัคซีน เชื้อเพลิง และเข้าพบผู้ได้รับบาดเจ็บในเหตุการณ์ชุลมุนเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา

นอกจากการให้ความช่วยเหลือทางอากาศและภาคพื้นดินโดยสหรัฐฯ และฝ่ายต่างๆ แล้ว เมื่อวานนี้ จอหน์ เคอร์บี โฆษกสภาความมั่นคงแห่งชาติสหรัฐฯ ได้ออกมาแถลงข่าวระบุว่า สหรัฐฯ พยายามหาทางเปิดเส้นทางเดินเรือเพื่อมนุษยธรรมสำหรับให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมทางทะเล ซึ่งจะช่วยให้ชาวกาซาได้รับความช่วยเหลืออย่างเพียงพอกว่าเดิม

 

ขณะที่ฝ่ายต่างๆ กำลังให้การช่วยเหลือแก่ประชาชนในฉนวนกาซา การสู้รบในพื้นที่ก็ยังคงดำเนินต่อไปอย่างหนัก โดยล่าสุดกลุ่มฮามาสได้เผยแพร่ภาพการสู้รบในพื้นที่ออกมาอีกครั้ง

ภาพการสู้รบในฉนวนกาซา ที่กองพันอัล-ฆัสซาม หน่วยงานปีกทหารของกลุ่มฮามาสเผยแพร่ออกมา เป็นภาพวิดีโอเผยให้เห็นการปะทะกัน ระหว่างนักรบของกลุ่มฮามาสกับเจ้าหน้าที่กองกำลังป้องกันตนเองอิสราเอล โดยกลุ่มฮามาสเป็นฝ่ายซุ่มโจมตีตามอาคารและพื้นที่ต่างๆ ด้วยการใช้เครื่องยิงจรวดและเครื่องยิงระเบิด

การต่อสู้ในพื้นที่ยังคงมีสภาพไม่ต่างจากช่วงแรกของสงคราม โดยเป็นการสู้รบชนิดบ้านต่อบ้านและต่อสู้ในระยะประชิด

ขณะเดียวกัน ฝั่งกองทัพอิสราเอลก็ได้เดินหน้าโจมตีพื้นที่ต่างๆ ของฉนวนกาซาอย่างต่อเนื่อง ล่าสุด อิสราเอลได้โจมตีทางอากาศใส่พื้นที่ใกล้โรงพยาบาลแม่และเด็กในเมืองราฟาห์ เมืองสุดท้ายของฉนวนกาซา บริเวณที่ติดกับชายแดนอียิปต์ ซึ่งเป็นที่หลบภัยของชาวกาซากว่าล้านชีวิต ผลจากการโจมตีทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 11 ราย ในจำนวนนี้มี 2 รายเป็นเจ้าหน้าที่สาธารณสุขของโรงพยาบาล

ด้านประชาชนผู้พลัดถิ่นในฉนวนกาซาบอกว่า พวกเขาต้องหนีการโจมตีไปยังบริเวณที่ชายแดนส่วนที่ติดกับแหลมไซนายของอียิปต์

เนื่องจากบริเวณนี้เป็นเพียงที่พักเดียวในฉนวนกาซา ที่พวกเขาจะพักอย่างสงบได้โดยไม่ต้องระวังการโจมตีหากเทียบกับที่อื่นๆ

การโจมตีที่ยังคงดำเนินไปอย่างหนักในหลายพื้นที่ทั่วฉนวนกาซา กำลังสร้างความกังวลไม่ใช่แค่กับชาติต่างๆ เท่านั้น แต่ยังรวมถึงบรรดาญาติของตัวประกันอีกกว่า 134 ชีวิตที่ยังถูกกลุ่มฮามาสควบคุมตัวอยู่ ซึ่งในจำนวนนี้มีคนไทยรวมอยู่ด้วยอีก 8 คน

ล่าสุด บรรดาญาติๆ ของตัวประกัน ได้ออกมาประท้วงอีกครั้ง เพื่อเรียกร้องให้รัฐบาลทำข้อตกลงหยุดยิงเพื่อแลกเปลี่ยนตัวประกันทันที

ญาติของตัวประกันและประชาชนที่ต่อต้านรัฐบาลของนายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทัยาฮู ได้เดินทางถึงนครเยรูซาเลม หลังจากเริ่มต้นการประท้วงบริเวณสถานที่แห่งหนึ่งที่ถูกโจมตีโดยนักรบฮามาสเมื่อวันที่ 7 ตุลาคมที่ผ่านมา

บรรดาผู้ประท้วงชูธงอิสราเอลและโปสเตอร์ที่แสดงรูปตัวประกัน เพื่อเรียกร้องให้รัฐบาลรีบเจรจาทำข้อตกลงหยุดโจมตีและแลกเปลี่ยนตัวประกัน รวมถึงเรียกร้องให้นายกฯ เนทันยาฮูของอิสราเอลลาออก เพื่อรับผิดชอบต่อสิ่งที่เกิดขึ้น

หนึ่งในผู้ประท้วงระบุว่า สิ่งเดียวและสิ่งสำคัญที่สุดในตอนนี้ คือ การนำตัวประกันทุกคนกลับบ้านอย่างปลอดภัย เพราะทุกคนถูกกักขังมานานกว่า 5 เดือนแล้ว

สำหรับประเด็นการเจรจาหยุดยิงเพื่อแลกเปลี่ยนตัวประกัน ล่าสุดสำนักข่าวอิสราเอลรายงานว่า ฝ่ายต่างๆ จะกลับมาดำเนินการเจรจาหยุดยิงอีกครั้ง โดยคาดว่าคณะผู้แทนเจรจาของอิสราเอล จะเดินทางถึงกรุงไคโร เมืองหลวงอียิปต์ในวันนี้

รายงานล่าสุดของสำนักข่าว CNN ระบุว่า ฝั่งอิสราเอลยอมรับเงื่อนไขพื้นฐานทั้งหมดในข้อตกลงหยุดยิง 6 สัปดาห์แล้ว แต่กลุ่มฮามาสยังไม่ยินยอม โดยปัญหาอยู่ที่ประเด็นรายละเอียดของตัวประกันที่ทางอิสราเอลต้องการแลกเปลี่ยน

เนื่องจากอิสราเอลเสนอให้กลุ่มฮามาสปล่อยตัวประกันที่เป็นทหารหญิงออกมาทั้งหมดในการปล่อยตัวประกันชุดแรก แต่กลุ่มฮามาสไม่เห็นด้วย เนื่องจากทหารคือตัวประกันที่อยู่ในกลุ่มที่มีค่าใช้จ่ายในการเจรจาสูง

หนึ่งในเจ้าหน้าที่ระดับสูงที่เกี่ยวข้องกับการเจรจาให้ข้อมูลกับสำนักข่าว CNN โดยระบุว่า ตอนนี้คนกลางในการเจรจา พยายามจะทำให้เกิดข้อตกลงหยุดยิงเพื่อแลกเปลี่ยนตัวประกันให้ได้ ก่อนที่เทศกาลถือศีลอดหรือเดือนรอมฎอน จะเริ่มต้นขึ้นในวันที่ 10 มี.ค.นี้