แหล่งข่าวที่ไม่เปิดเผยตัวตนให้ข้อมูลกับสำนักข่าวรอยเตอร์ส โดยระบุว่า “TikTok” แอปพลิเคชันคลิปวิดีโอสั้นยอดนิยม กำลังดำเนินการโคลนอัลกอริทึมแนะนำของแอปพลิเคชันที่มีผู้ใช้งานในสหรัฐฯ 170 ล้านราย ซึ่งอาจนำไปสู่การเปิดตัวเวอร์ชันใหม่ ที่ดำเนินการโดยเป็นอิสระจาก “ไบต์แดนซ์” บริษัทแม่ในจีน หลังจากถูกบีบให้ขายกิจการในสหรัฐฯ
ในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา มีรายงานว่า วิศวกรของบริษัทไบต์แดนซ์และ TikTok หลายร้อยคน ทั้งในสหรัฐฯ และจีน ได้รับคำสั่งให้เริ่มดำเนินการแยกโค้ดหลายล้านบรรทัด
โดยกรองผ่านอัลกอริทึมของบริษัทที่จับคู่ผู้ใช้กับวิดีโอที่ชื่นชอบ และภารกิจของวิศวกรเหล่านี้ คือ การสร้างฐานโค้ดแยก ออกจากระบบที่ใช้ใน “โต่วอิน” (Douyin) หรือ TikTok เวอร์ชันภาษาจีนของไบต์แดนซ์ ควบคู่ไปกับการกำจัดข้อมูลใด ๆ ก็ตามที่เชื่อมโยงกับผู้ใช้ชาวจีน
การแยกซอร์สโค้ดของแอปฯ ที่สั่งการโดย “ไบต์แดนซ์” เมื่อปลายปีที่แล้ว เกิดขึ้นก่อนหน้าจะมีการเสนอร่างกฎหมายที่บังคับให้บริษัทแม่ของ TikTok ขายกิจการแอปพลิเคชันดังกล่าวในสหรัฐฯ ภายในระยะเวลา 9 เดือน มิฉะนั้นจะต้องเผชิญกับการถูกแบนใช้งานในสหรัฐฯ ก่อนที่ร่างกฎหมายนี้จะผ่านความเห็นชอบจากสภาคองเกรส และประธานาธิบดีโจ ไบเดน ลงนามบังคับใช้เป็นกฎหมาย เมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา
แหล่งข่าว ระบุด้วยว่า เมื่อมีการแยกโค้ดออกมา จะทำให้บริษัทไบต์แดนซ์ สามารถวางรากฐานสำหรับการขายสินทรัพย์ในสหรัฐฯ ถึงแม้ว่าในตอนนี้จะยังไม่มีแผนที่จะดำเนินการใด ๆ ก็ตาม
อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้ บริษัทไบต์แดนซ์ เจ้าของ TikTok ระบุว่า ไม่มีแผนที่จะขายสินทรัพย์ในสหรัฐฯ และความเคลื่อนไหวดังกล่าวคงเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้
หลังรายงานเผยแพร่ออกไป ในตอนแรก “TikTok” ปฏิเสธที่จะแสดงความคิดเห็น ก่อนจะโพสต์บน X ว่า รายงานของสำนักข่าวรอยเตอร์สที่เผยแพร่ออกมานั้น ทำให้เกิดความเข้าใจผิดและไม่ถูกต้องตามความเป็นจริง โดยไม่ได้ชี้แจงว่า ประเด็นใดที่ไม่ถูกต้อง
นอกจากนี้ TikTok ยังระบุด้วยว่า การขายกิจการตามที่กฎหมายกำหนดเพื่อให้ TikTok สามารถดำเนินการต่อไปในสหรัฐฯ นั้น เป็นสิ่งที่เป็นไปไม่ได้ ไม่ว่าจะในเชิงพาณิชย์ ในทางเทคโนโลยีหรือในแง่ของกฎหมาย ตลอดจนการดำเนินการให้แล้วเสร็จภายในกรอบระยะเวลา 270 วัน
ขณะที่ โฆษกของสำนักข่าวรอยเตอร์ส ระบุว่า ยังคงยืนยันตามข้อมูลที่รายงานออกไป
TikTok และไบต์แดนซ์ บริษัทแม่สัญชาติจีน ยื่นฟ้องร้องต่อศาลรัฐบาลกลางสหรัฐฯ ในเดือนพฤษภาคม โดยกล่าวหากฎหมายที่บีบให้ต้องขายกิจการในสหรัฐฯ ก่อนถึงเส้นตายในวันที่ 19 มกราคม ปี 2025 ว่า ขัดต่อรัฐธรรมนูญ ขณะที่ล่าสุด ศาลอุทธรณ์สหรัฐฯ ได้กำหนดตารางเวลาเร่งด่วนในการพิจารณาการฟ้องร้องเกี่ยวกับกฎหมายใหม่ของสหรัฐฯ แล้ว เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา
ทั้งนี้ การผ่านกฎหมายดังกล่าวของสหรัฐฯ มีขึ้นหลังจากมีความเป็นกังวลเกี่ยวกับความเป็นไปได้ที่ TikTok อาจถูกนำไปใช้ในการสอดแนมชาวอเมริกัน หรือเพื่อเผยแพร่โฆษณาชวนเชื่อ เนื่องจาก TikTok ดำเนินการรวบรวมข้อมูลที่คล้ายกันในแอปฯ เวอร์ชันอื่น แต่นักการเมืองสหรัฐฯ เป็นกังวลว่า ข้อมูลเหล่านี้อาจตกไปอยู่ในมือของรัฐบาลจีนได้
เรียบเรียงจาก Reuters