คดีปริศนา หญิงอเมริกันหิวโซถูกจับล่ามไว้กับต้นไม้กลางป่าในอินเดีย

ที่ประเทศอินเดีย เกิดคดีแปลก เมื่อเจ้าหน้าที่พบหญิงชาวอเมริกันรายหนึ่งถูกล่ามโซ่ไว้กับต้นไม้และส่งเสียงกรีดร้องอยู่ในป่าแห่งหนึ่งในรัฐมหาราษฏระ ทางตะวันตกของประเทศ

เรื่องนี้เกิดขึ้นหลังเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว คนเลี้ยงวัวได้ยินเสียงร้องในป่าทึบของเขตสินธุทุรค (Sindhudurg) จึงแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจให้มาตรวจสอบ จนพบ “ลลิตา กายี” วัย 50 ปี และตัดโซ่เพื่อช่วยเหลือเธอไว้ได้ 

X/@TMIHARINI

กายีซึ่งอยู่ในสภาพที่ผอมโซอย่างมาก ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาล สุขภาพกายของเธอดีขึ้นตั้งแต่นั้นมา และในวันที่ 2 ส.ค. เธอถูกย้ายไปยังสถานพยาบาลจิตเวชเพื่อรับการรักษาเพิ่มเติม

ในคำในการที่เธอบอกกับตำรวจ เธอกล่าวหาว่า สามีของเธอ “ล่ามโซ่เธอและทิ้งเธอไว้ในป่าเพื่อให้ตายโดยไม่ได้กินอาหารหรือน้ำ”

ตำรวจกล่าวว่า พวกเขากำลังตามหาสามีของเธอในรัฐทมิฬนาฑู ทางตอนใต้ของประเทศ ตามข้อมูลที่กายีให้มา

แต่ 1 สัปดาห์หลังจากที่กายีได้รับการช่วยเหลือ คำถามมากมายยังคงไม่ได้รับคำตอบ

โปรแกรมโอลิมปิก 2024 วันจันทร์ที่ 5 ส.ค. 67 ถ่ายทอดสดทาง พีพีทีวี

ภูเขาน้ำแข็งใหญ่สุดในโลกหมุนวนอยู่กับที่กลางกระแสน้ำวน

ผ้าคลุมรถกันความร้อน และ 4 ไอเทมที่ช่วยทำให้รถดูสวยใหม่ตลอดเวลา

ปันดูรัง กอว์การ์ ผู้เลี้ยงวัวซึ่งเป็นผู้ได้ยินเสียงของเธอ เล่าว่า ขณะที่เขากำลังพาวัวของเขาไปกินหญ้าในป่า เขาได้ยินผู้หญิงกรีดร้องเสียงดัง “เสียงนั้นดังมาจากป่าบนไหล่เขา เมื่อผมไปที่นั่น ผมเห็นว่าขาข้างหนึ่งของเธอถูกล่ามไว้กับต้นไม้ เธอกรีดร้องเหมือนสัตว์ ผมจึงโทรเรียกชาวบ้านคนอื่น ๆ และตำรวจในพื้นที่”

ตำรวจกล่าวว่า พวกเขาพบทั้งสำเนาหนังสือเดินทางของเธอ ซึ่งระบุว่าเธอเป็นพลเมืองอเมริกัน และบัตรประจำตัวเฉพาะสำหรับชาวอินเดีย พร้อมที่อยู่ซึ่งเป็นเลขที่บ้านในรัฐทมิฬนาฑู

พวกเขากล่าวว่า เธอมีโทรศัพท์มือถือ แท็บเล็ต และเงิน 31,000 รูปี (ราว 13,000 บาท) ซึ่งทำให้พวกเขาสรุปได้ว่านี่ไม่ใช่คดีเกี่ยวกับทรัพย์

ชาวบ้านกล่าวว่า โชคดีที่มีคนพาวัวไปกินหญ้าบริเวณนั้นในวันนั้น เพราะป่าดังกล่าวมีขนาดกว้างใหญ่มาก มีโอกาสสูงที่จะไม่มีใครได้ยินเสียงร้องของเธอ

ตำรวจนำตัวเธอไปที่โรงพยาบาลในท้องถิ่นก่อนจะย้ายเธอไปที่โรงพยาบาลในรัฐกัวที่อยู่ใกล้เคียง โดน ดร.ศิวนันท์ บันเดการ์ คณบดีวิทยาลัยการแพทย์กัว กล่าวว่า เธอมีบาดแผลที่ขา และดูเหมือนว่าเธอจะมีอาการทางจิต

“เราไม่ทราบว่าเธอไม่ได้กินอาหารมานานแค่ไหน แต่สัญญาณชีพของเธอคงที่” ดร.บันเดการ์กล่าว

เมื่อวันที่ 2 ส.ค. สุขภาพกายของหญิงรายนี้ดีขึ้นมากจนต้องย้ายไปที่โรงพยาบาลจิตเวชในเขตรัตนคีรี รัฐมหาราษฏระ

ดร. ซังกาไมตรา ภูเล ผู้อำนวยการโรงพยาบาลจิตเวช บอกว่า “ปัจจุบัน สุขภาพของเธอคงที เธอรับประทานยา กินอาหาร และพูดคุยกับผู้อื่น หากเธอต้องการอะไร เธอสามารถสื่อสารได้ แต่เธอรู้แค่ภาษาอังกฤษเท่านั้น”

ตามรายงานของตำรวจพบว่า กายีเคยเป็นนักบัลเล่ต์และนักเล่นโยคะในสหรัฐฯ บางรายงานระบุว่า เป็นรัฐแมสซาชูเซตส์ และย้ายมาอินเดียเมื่อประมาณ 10 ปีที่แล้ว เพื่อศึกษาโยคะและการทำสมาธิในรัฐทมิฬนาฑู และได้พบกับสามีของเธอ

ตำรวจกล่าวว่า พวกเขาเชื่อว่าเธอทะเลาะกับสามีในบางช่วง

รายงานบางฉบับระบุว่า เธอพักที่โรงแรมแห่งหนึ่งในรัฐกัวเป็นเวลา 2 วัน จากนั้นจึงเดินทางไปยังเมืองมุมไบ มหานครทางการเงินของอินเดีย

แต่ยังไม่มีความชัดเจนว่าเธอไปลงเอยที่ป่าซึ่งเธอถูกพบเมื่อสัปดาห์ที่แล้วเมื่อใดหรือได้อย่างไร

กายีกล่าวโทษว่าสามีของเธอเป็นคนมัดเธอไว้กับต้นไม้ และอ้างว่าเธอขาดอาหารและน้ำเป็นเวลา 40 วัน เธอยังอ้างว่าเธอถูกฉีดยา “สำหรับอาการจิตเภทขั้นรุนแรง” ซึ่งทำให้เธอไม่สามารถดื่มน้ำได้ และเธอต้องได้รับสารอาหารทางเส้นเลือด

“ฉันเป็นเหยื่อและรอดชีวิตมาได้ แต่เขาหนีไป” เธออ้าง

ตำรวจกล่าวว่า พวกเขาไม่สามารถยืนยันคำกล่าวอ้างเหล่านี้ได้ และเชื่อว่าไม่น่าจะเป็นไปได้ที่ใครบางคนจะรอดชีวิตโดยปราศจากอาหารหรือน้ำเป็นเวลานานขนาดนั้น

เบื้องต้นพวกเขาได้ตั้งข้อหาสามีฐานพยายามฆ่า และได้ส่งทีมสืบสวนไปยังรัฐทมิฬนาฑู รัฐกัว และรัฐมหาราษฏระ เพื่อสืบสวนเรื่องนี้ต่อไป แต่ยังไม่สามารถติดตามตัวสามีของเธอได้

 

เรียบเรียงจาก BBC