เฉิง เฉิน จิน-เหม่ย คุณยายวัย 90 ปี โบกมือโบกไม้ให้กับกองเชียร์ และครอบครัว ก่อนลงมือยกคานเหล็ก น้ำหนักรวม 34 กก. อย่างมั่นใจ ระหว่างร่วมการแข่งขันยกน้ำหนัก รุ่นอาวุโส คือ ผู้เข้าแข่งขันต้องมีอายุ 70 ปีขึ้นไป
คุณยายเฉิง เฉิน ค้นพบประโยชน์จากการออกกำลังกายด้วยการเวตเทรนนิง เพราะหลานสาวเป็นผู้แนะนำให้เธอลองหันมาออกกำลังกาย หลังจากแพทย์วินิจฉัยว่าคุณยายเป็นโรคพาร์กินสัน
อส.ปืนโหด! กระหน่ำยิงกลางร้านข้าวต้ม เสียชีวิต 2 เจ็บ 3
ฉายารัฐบาล ปี 2567 "รัฐบาลพ่อเลี้ยง" พร้อมฉายานายกรัฐมนตรี “แพทองโพย”
20 ที่เที่ยวปีใหม่ ใกล้กรุงเทพฯ ไปเช้าเย็นกลับ เดินทางง่าย
คุณยายให้สัมภาษณ์ว่า การลงแข่งยกน้ำหนักครั้งนี้ คุณยายต้องการชักชวนให้ผู้สูงอายุหันมาออกกำลังกาย เพราะก่อนหน้าที่จะเริ่มออกกำลังกาย เธอมีอาการหลังค่อม และยืนตรงแทบไม่ได้
การยกน้ำหนัก ไม่เพียงช่วยปรับท่าทางของคุณยายให้ดีขึ้น แต่ยังช่วยป้องกันการสูญเสียมวลกล้ามเนื้อและการทำงานของกล้ามเนื้อ ซึ่งลดความเสี่ยงในการล้มได้
เฉพาะวันแข่งขันวันนั้นวันเดียว คุณยายยกน้ำหนักได้ถึงเกือบ 45 กก. โดยมีครอบครัว ซึ่งประกอบด้วยสมาชิก 3 รุ่นมาให้กำลังอยู่ไม่ห่าง
แม้จะผ่านช่วงเวลาที่ท้อและอยากเลิกเล่น แต่ครอบครัวและครูฝึกก็ให้กำลังใจจนคุณยายยังยกน้ำหนักต่อไป
แต่คุณยายเฉิง เฉิน ไม่ใช่นักกีฬาวัยเก๋าเพียงคนเดียวที่มาแข่งขัน เพราะผู้เข้าแข่งขันที่มีอายุมากที่สุด อายุ 92 ปี
ผู้จัดการแข่งขัน หวังว่ากิจกรรมนี้จะช่วยส่งเสริมประชากรผู้สูงอายุในไต้หวัน โดยคาดการณ์ว่า ไต้หวันจะมีสัดส่วนของประชากรอายุ 65 ปีขึ้นไปมากกว่า 20% ของประชากรทั้งหมด ในปี 2025 ซึ่งทางการไต้หวันได้พยายามสร้างศูนย์ฟิตเนสสำหรับผู้สูงอายุไว้หลายจุดทั่วทั้งเกาะ เพื่อส่งเสริมให้คนกลุ่มนี้ ตื่นตัว ดูแลสุขภาพอยู่เสมอ