โจชัว ฟิชเชอร์ ผู้อำนวยการสำนักงานธุรการทำเนียบขาว ได้ยื่นเอกสารต่อศาลรัฐบาลกลางในกรุงวอชิงตัน ระบุว่า อีลอน มัสก์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารเทสลาและสเปซเอ็กซ์ มีสถานะ “เป็นลูกจ้างรัฐ” ในกรณีพิเศษที่ไม่ใช่ข้าราชการประจำการและทำหน้าที่เป็นที่ปรึกษาของประธานาธิบดี
เอกสารฉบับนี้ยังยืนยันว่า มัสก์ไม่มีอำนาจตัดสินใจใด ๆ และสิ่งที่มัสก์สามารถทำได้นั้น “คือการให้คำปรึกษากับประธานาธิบดี และสื่อสารกับเจ้าหน้าที่คนอื่นตามแนวทางของผู้นำสหรัฐฯ”
ส่วนสถานะของสำนักงานประสิทธิภาพรัฐบาล (DOGE) เป็น “หนึ่งในองค์ประกอบ” ของฝ่ายบริหาร “เป็นองค์กรชั่วคราว” ที่แยกต่างหากจากทำเนียบขาว และมัสก์ไม่ใช่บุคลากรของหน่วยงานดังกล่าว แต่เป็นลูกจ้างของทำเนียบขาว
สำหรับการยื่นเอกสารดังกล่าว เป็นส่วนหนึ่งของคำชี้แจงจากทำเนียบขาว หลังจากอัยการจากพรรคเดโมแครตอย่างน้อย 14 รัฐ ได้ยื่นเรื่องฟ้องศาลในหลายคดีเกี่ยวกับบทบาทของมัสก์ ที่มีต่อการจัดการโครงสร้างอำนาจบริหารของรัฐบาลกลาง ในกรุงวอชิงตัน
โดยพรรคเดโมแครตวิจารณ์ว่า การให้มัสก์เข้ามามีบทบาทแบบนี้ โดยไม่มีการกำหนดขอบเขตการทำงานอย่างชัดเจน อาจกลายเป็นช่องโหว่ให้มัสก์กระทำการผิดกฎหมายได้
อย่างไรก็ตาม เมื่อวันที่ 18 ก.พ. ผู้พิพากษา ทันยา ชุตกัน ผู้พิพากษาศาลส่วนกลางในกรุงวอชิงตันได้ยกคำร้องของอัยการทั้ง 14 รัฐ ที่ต้องการให้ศาลออกคำสั่งห้ามสำนักงานประสิทธิภาพรัฐบาลเข้าถึงข้อมูลในระบบคอมพิวเตอร์ของหน่วยงานรัฐบาลกลางและปลดข้าราชการ หรือสั่งพักงาน ระหว่างที่การพิจารณาคดีเหล่านี้ยังไม่สิ้นสุด
โดยผู้พิพากษาชุตกันระบุว่า ผู้ยื่นคำร้องไม่สามารถแสดงให้เห็นได้อย่างชัดเจนว่าการกระทำของสำนักงานประสิทธิภาพรัฐบาลอาจสร้างผลกระทบต่อผู้ร้องได้